3

1206 Words
ขวัญข้าวโบกมือลาธิดารัตน์ที่ผู้ปกครองมารอรับกลับ ค่อยกระโดดขึ้นรถขับออกจากร้านในเวลาต่อมา ไปตามทางลาดยางสายเก่าเลนสวนกันมุ่งสู่บ้านของเธอที่อยู่ห่างจากที่นี่แค่สิบกิโลเมตรเท่านั้น บ้านที่ปลูกสร้างในพื้นที่เป็นไร่ในตัว เดิมทีไร่ของบิดามีเกือบพันไร่ แต่ตอนนี้เหลือไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ ส่วนที่หายไปนั่นเพราะถูกโกงจากเพื่อนที่ลงขันกันมา คิดมาถึงตรงนี้ทีไรเด็กสาวอดเม้มปากแน่นด้วยความเครียดแค้นไม่ได้ทุกที จนเผลอตัวบีบพวงมาลัยรถจนข้อนิ้วเล็กๆนั่นขาวซีดเผือดไร้สีเลือด เธอเกลียดพวกไร่พืชวิวัฒน์พัฒนะการกุล! พวกขี้โกง! ขวัญข้าวเป็นลูกสาวคนสุดท้องของนายสงวนและนางผกา โชคร้ายที่มารดาเสียชีวิตตั้งแต่เธออายุเพียงห้าขวบปีเท่านั้น บิดาจึงเลี้ยงดูเธอมาโดยลำพังด้วยความรักและเอาใจใส่อย่างดีตามกำลังของท่าน ไร่ของเธอเป็นสวนปาล์ม มีอีกสามสี่แปลงอยู่คนละที่กับบริเวณบ้านนั่นปลูกยูคาลิปตัส ยางพาราและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กระนั้นใครๆก็ว่าไร่ของเธอมีผลผลิตมากในระดับหนึ่งแต่ยังไม่เท่าอีกไร่ที่อยู่ติดกันอยู่ดี ไร่ที่เคยเป็นของพ่อ เธอเกลียดพวกนั้นทุกคน ปีนี้ขวัญข้าวเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีสุดท้ายแล้ว และตัดสินช่วยงานบิดาแทนศึกษาต่อ คิดว่าถึงจังหวะค่อยไปสมัครเรียนก็ยังทัน ขวัญข้าวมีเพื่อนมากมายทั้งชายหญิง รวมไปถึงรุ่นน้องรุ่นพี่ก็มากมี แต่ถึงอย่างนั้นแล้วเธอไม่ใช่เด็กใจแตกที่ชอบเที่ยวไปทั่ว หรือคบหาผู้ชายมากหน้าหลายตา เด็กสาวค่อนข้างระวังตัวในการสนิทสนมกับคนด้วยซ้ำ สิ่งหนึ่งสิ่งเดียวที่เหนี่ยวรั้งสำนึกของเด็กสาวเอาไว้ก็คือบิดา ขับมาได้ครึ่งทางพบรถคันหนึ่งจอดอยู่เลนเดียวกัน พ่อบอกเสมอไม่ให้แวะจอดยามวิกาล นอกจากตัวคนเดียวแล้วยังเป็นหญิงสาวอีกด้วย แต่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้ารถนั่นโบกมือให้เธอจอด มือของเขามีสีแดงเปรอะเปื้อนจนมองเห็นชัดจากในรถ อีกทั้งท่าทางดูกระวนกระวายใจ ทางเส้นนี้ไม่ใคร่มีใครสัญจรเพราะแคบและเปลี่ยว แต่เด็กสาวอย่างขวัญข้าวอาศัยว่าตัวมีปืนพกในรถและไม่คิดว่าจะมีอันตรายใดๆจึงกล้าขับรถมาเพราะเป็นทางลัดเข้าบ้านของเธอ พอเห็นว่าเป็นใคร ค่อยคลายใจหน่อย จอดรถเปิดกระจกลงทันที “รถเสียหรือคะพี่ดาม” ถามแล้วอดมองมือของอีกฝ่ายไม่ได้ ที่เห็นแล้วว่ามีสีแดงคล้ายสีเลือดติดอยู่ด้วย ดามยิ้มอย่างเก้อๆบอกด้วยท่าทีขอลุแก่โทษ “เกรงใจจังเลย ดึกแล้ว” ลังเลก่อนว่า “น้องข้าวกลับบ้านเถอะ เดี๋ยวพี่รออีกหน่อยเผื่อใครผ่านมาจะได้พ่วงรถไปที่อู่” ขวัญข้าวนึกเห็นใจอีกฝ่ายขึ้นมาในทันที เลยขยับรถจอดเลยไปทางด้านหน้า เปิดประตูลงมาแล้วเดินไปดูตรงห้องเครื่องรถที่เปิดฝากระโปรงอ้าเอาไว้ ดูไปงั้นเองเธอรู้แค่วิธีดูแลรถแต่ซ่อมไม่ได้ ขณะก้มๆเงยๆตรงห้องเครื่องนั้นเลยไม่ทันเห็นสายตาหื่นกระหายของชายหนุ่มที่ชื่อดาม ขวัญข้าวหันกลับมามองสายตานั่นก็มลายหายไป เปลี่ยนเป็นดามคนที่เธอรู้จักอยู่เสมอ ฉากหน้าที่อีกฝ่ายปิดบังเอาไว้ “ซ่อมเป็นด้วยหรือเราน่ะ” ดามพูดล้อๆ แล้วเข้ามายืนเบียด ขวัญข้าวให้เกิดอาการอึดอัดขึ้นมาในทันที จึงขยับตัวออกอย่างไม่ให้อีกฝ่ายจับสังเกตได้ แท้จริงแล้วรถของดามไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งนั้น แต่วางแผนกับเด็กหนุ่มที่เป็นญาติกัน รายนั้นรู้ดีว่าขวัญข้าวมักใช้เส้นทางนี้เสมอจึงแนะให้มาดักรอแล้วทำทีว่ารถเสีย ตอนแรกพวกนั้นจะมาช่วยดูลาดเลาให้ด้วย แต่ดามคิดว่าเด็กหนุ่มพวกนั้นอาจทำให้แผนของเขาล่ม และลำพังเด็กสาวตัวคนเดียวแบบนี้ดามจัดการได้อยู่แล้ว อาจต้องใช้กำลังก่อนในตอนแรก แต่รับรองได้ว่าหากได้เขาเป็นสามีแล้วจะต้องติดใจจนต้องร้องขอครั้งแล้วครั้งเล่าไปเรื่อยๆจนกว่าเขาจะเบื่อแล้วทิ้งไปแบบผู้หญิงคนอื่นๆ “ข้าวว่า ข้าวขับรถไปตรงอู่ข้างหน้านี่ให้ไหมคะ เจ้าของแกนอนดึก เผื่อแกออกมาดูให้ได้ค่ะว่ารถเสียตรงไหน” “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ตามคนงานแล้ว น้องข้าวขึ้นไปนั่งรอบนรถเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ” ได้ยินแบบนั้นแล้ว ขวัญข้าวนิ่งไปอึดใจทีเดียว แม้จะเคยไปไหนมาไหนกับดามสองต่อสองแต่ไม่เคยที่ดามจะจู่โจมเธอแบบนี้ ฉับพลันแสงไฟด้านหลังสาดเข้ามาอย่างจัง ครู่เดียวรถคันมาใหม่ขับจอดขนาบข้าง ดามพึมพำสบถอย่างหัวเสีย เพราะปกติเส้นทางนี้ดึกๆไม่มีใครผ่านมาแล้วไอ้เวรตะไลนี่มันใครวะ หมูจะหาม เสือกเอาคานมาสอด “ยืนทำอะไรกันมืดๆ” คนบนรถที่เปิดกระจกถามนั่นไม่ใช่ใครอื่น ขวัญข้าวรู้จัก และเมื่อตอนหัวค่ำนั่นก็เจอเขากับน้องชายที่ร้าน ‘ธนากร’ ชายที่กุมบังเ**ยนไร่พืชวิวัฒน์พัฒนะการกุล เป็นดามเองที่โพล่งขึ้นอย่างหัวเสีย “ไม่มีอะไร เราแค่จอดรถปรับความเข้าใจกันนิดหน่อย เป็นแฟนกันทะเลาะกันบ้าง คนอื่นอย่าสอด” “อ้อ เป็นแฟนกัน” ธนากรทวนเสียงหมิ่นเล็กน้อย แล้วทำท่าจะผละไป ขวัญข้าวอึกอักครู่เดียวรีบบอก “รถพี่ดามเสีย ช่วยดูให้ที” “อ้าวไหนว่าแฟนกัน ทะเลาะกัน ปรับความเข้าใจกัน” ย้อนกลับยวนๆ แล้วบอกเหมือนสั่ง “ซ่อมไม่เป็นก็ขึ้นรถกลับบ้านไป เดี๋ยวพี่จัดการเอง” ขวัญข้าวละล้าละลังเพียงอึดใจแล้วขึ้นรถขับจากไปทันที เห็นไฟท้ายรถของเด็กสาวผู้เกือบเป็นเหยื่อแล้วคลายใจลง หันมายิ้มมุมปากให้ดามก่อนว่าเสียงเยาะ “รถเสียหรือ มาเดี๋ยวกูดูให้” ดามกลืนน้ำลายเอื๊อก เจ็บใจที่เนื้อหวานๆหลุดปากไปแล้ว แต่จะให้ประมือกับคนตรงหน้านี่เห็นจะไม่ดีกว่า ก่อนจากยังแสดงสีหน้าว่าฝากเอาไว้ก่อน แล้วเผ่นขึ้นรถกระชากตัวออกไปด้วยโทสะอัดแน่นเต็มอก ขวัญข้าวขับรถกลับบ้านจากนั้นด้วยหัวใจที่ยังคงเต้นกระหน่ำ เมื่อครู่ดามมีท่าทีแปลกๆจนเธอนึกกลัว และดีแค่ไหนที่มีคนมาช่วยทัน ใครมาช่วย! ไม่มีใครช่วยทั้งนั้น ก็แค่ขับรถผ่านมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD