“อยากได้เมียอีกสักคนไหมล่ะกิจ เผื่อแกจะได้มีลูกสมใจไง” กรกิจนึกถึงคำของบิดาที่พูดกับเขาเมื่อไม่นานมานี้
“ผมกลัวว่าแอ๋วจะไม่ยอมน่ะสิครับ”
“ก็พูดหว่านล้อมเมียแกดีๆสิ บอกว่าแกอยากได้ลูกมาก แค่อยากให้เมียอีกคนมาอุ้มบุญเท่านั้นก็ว่าไปสิ”
“ไม่ดีมั้งครับ แล้วใครล่ะครับจะยอมมาเป็นเมียอีกคนของผม”
“ก็น้ำมนต์ไง น้องโตเป็นสาวแล้วนะตอนนี้ น้ำมนต์หลานสาวของตาเชิศไง ตาเชิศเป็นหนี้เราทั้งต้นทั้งดอกรวมๆแล้วเกือบสามแสน หาเงินทั้งชาติจะมีปัญญาใช้หนี้หรือเปล่า แกชอบน้องเขาไหมล่ะ ถ้าชอบ พ่อจะไปทาบทามให้”
กรกิจถอนหายใจ เขาเองก็อยากมีลูกมากเหมือนกัน เพราะอายุอานามก็เลยเลขสามไปเยอะแล้ว ลูกของเพื่อนๆ ก็โตๆกันหมดแล้ว
แต่ติดตรงที่เขายังเกรงใจเมียเขาอยู่นี่แหละ เพราะรัตติยาไม่ผิดและเธอก็เป็นเมียที่ดีมาโดยตลอด
ทว่าพักหลังๆมานี้ เขากับเธอทะเลาะกันบ่อยๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร มันทำให้เขารู้สึกเบื่อๆ ในบางครั้ง
อย่างเช่นวันนี้ที่เขาไม่อยากอยู่บ้าน เลยมาเยี่ยมป้าของรัตติยา สักพักก็ว่าจะไปชวนเพื่อนดื่มเหล้าต่อสักหน่อย แต่กำลังจะเดินออกกลับ สายตาก็สะดุดเข้ากับใบหน้าผุดผ่อง ของสาวน้อยที่ชื่อว่าน้ำมนต์เข้าอย่างจัง
เขาเคยเห็นเธอแล้วที่ตลาด แต่ไม่เคยได้ทักทายกันสักครั้ง เพราะเด็กสาวเอาแต่หลบหน้าเขาตลอด เหมือนเขินอายตามประสาเด็กสาวทั่วไป
“น้ำมนต์”
คนที่เพิ่งมาหันมาตามเสียงเรียก ก็เห็นผู้ชายรูปหล่อพ่อรวยที่แอบมองมาโดยตลอด ก็รู้สึกใจเต้นแรง และรู้สึกตื่นเต้นมากๆ เมื่อรู้ว่าเขาเรียกเธอ หญิงสาวชี้มือมาที่ตัวเอง
“เรียกน้ำเหรอจ๊ะ”
“ครับ พี่เรียกเรานั่นแหละ”
หญิงสาวยิ้มแก้มแดง
“เรียกน้ำมีอะไรรึเปล่าจ๊ะ”
“พอดีพี่มีเรื่องจะถามครับ”
“ถามน้ำ เรื่องอะไรเหรอจ๊ะ”
“เดี๋ยวรอน้ำมนต์เข้าไปเยี่ยมป้านุชแกก่อนก็ได้ครับ แล้วค่อยมาคุยกับพี่ พี่จะรออยู่ตรงแคร่ไม้ไผ่โน่นนะ”
“จ้ะ ได้จ้ะ งั้นเดี๋ยวน้ำไปเยี่ยมป้านุชแป๊บ เดี๋ยวน้ำลงมานะจ๊ะ”
เพราะชายหนุ่มคือลูกชายของเจ้าหนี้ตากับยาย เมื่อเขามีเรื่องจะคุยกับเธอ เธอก็ไม่ควรจะเพิกเฉยต่อเขา เพราะถือว่าตนเองเป็นลูกหนี้ เมื่อเจ้าหนี้เรียกไปคุยก็ไม่ควรปฏิเสธ เขาไม่ได้เรียกเธอไปฆ่าไปแกงเสียหน่อย
ประมาณสิบนาทีต่อมา น้ำมนต์ก็เดินมาหากรกิจที่แคร่ไม้ไผ่ เธอหย่อนก้นลงนั่งไม่ห่างเขามากนัก
“พี่กิจมีเรื่องอะไรจะถามน้ำจ๊ะ”
“ที่นี่คนเยอะ ขึ้นไปนั่งบนรถคุยกับพี่ได้ไหม”
น้ำมนต์เริ่มมีสีหน้าไม่ไว้ใจชายหนุ่มแล้ว เขาจึงรีบอธิบายต่อทันที เพราะอ่านแววตาของเด็กสาวออก
“แค่คุยเฉยๆ พี่ไม่ทำอะไรเราหรอก คุยไม่กี่นาทีหรอกจ้ะ แล้วก็คุยไม่ห่างจากบ้านป้านุชหรอก ไม่ได้ขับรถออกไปไหนไกล นะครับ”
น้ำมนต์ใช้เวลาคิดตัดสินใจแค่นาทีเดียวก็พยักหน้า
“ก็ได้จ้ะ”
หญิงสาวเดินตามชายหนุ่มไปขึ้นรถ ท่ามกลางสายตาสงสัยของหลายคนที่มองตามคู่หนุ่มสาวไป แล้วรถกระบะก็ขับเคลื่อนออกไปช้าๆ จอดตรงบ้านหลังที่สามที่ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก
“พี่กิจจะถามอะไรน้ำจ๊ะ”
หญิงสาวรีบเป็นฝ่ายทำลายความอึดอัด เพราะรู้สึกอึดอัดตั้งแต่ก้าวขาขึ้นมานั่งกับชายหนุ่มสองต่อสองแล้ว มันทำตัวไม่ถูก รู้สึกขัดเขินไปหมด อยากจะลงรถไปไวๆ
“พี่อยากมีลูก”
ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ กะทัดรัด ได้ใจความ แต่คนฟังชักงง
“อยากมีลูก! แล้วพี่กิจมาบอกน้ำทำไมจ๊ะ น้ำคงทำลูกให้พี่กิจไม่ได้หรอก เพราะน้ำไม่ใช่เมียพี่”
“น้ำก็มาเป็นเมียพี่อีกคนสิ”
“พี่กิจ!”
น้ำมันต์หันขวับมามองคนนั่งข้างๆตาตั้งแบบคาดไม่ถึง หัวใจเริ่มเต้นแรง และแรงมากขึ้นเมื่อเขาหันหน้ามาสบตาเธอแบบจริงจัง คาดคั้นเอาคำตอบ
“พี่พูดจริงๆนะ”
“ตะ...ตะแต่พี่กิจมีเมียแล้วนะจ๊ะ”
“พ่อพี่ยังมีเมียตั้งสามคน แล้วพี่จะมีน้ำเพิ่มอีกสักคน จะเป็นไรไป จริงไหม”
น้ำมนต์เริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง กะพริบตาปิบๆ ไม่รู้จะตอบเขาไปยังไง วันนี้มันเป็นวันอะไรของเธอ ถึงได้มีคนมาขอเธอเป็นลูกสะใภ้ มาขอเธอไปเป็นเมีย
เธอยังไม่อยากมีสามีตอนนี้เลย แค่แอบชอบผู้ชายยังพอไหว แต่ให้แต่งงานมีสามีเป็นตัวเป็นตนตอนนี้เลย เธอไม่พร้อมหรอก
“คือ คือน้ำยังไม่อยากมีสามีตอนนี้จ้ะ”
แม้ว่าจะแอบชอบเขามานาน แต่ไม่ได้คิดไปไกลถึงขั้นอยากได้เขามาเป็นสามีแบบนั้นสักหน่อย ก็แค่แอบคิดแอบฝัน แต่เอาเข้าจริง เธอไม่กล้าหรอก
“ถ้าน้ำตกลงพี่จะพูดกับเมียพี่ให้ ส่วนพ่อกับแม่ของพี่ยอมรับน้ำได้อยู่แล้ว และถ้าน้ำตกลงมาเป็นเมียของพี่อีกคน พ่อพี่จะยกหนี้สินให้ตาเชิศทั้งหมดเลย แถมค่าสินสอดอีกสองล้านให้ด้วย น้ำตกลงไหม”
น้ำมนต์กะพริบตาปิบๆอีกครั้ง นี่มันความจริงหรือว่าความฝันนี่ คนที่เธอแอบชอบซึ่งเป็นผัวของชาวบ้านกำลังมาขอให้เธอไปเป็นเมียของเขา ให้เธอไปเป็นแม่ของลูกเขาจริงๆ แถมจะยกหนี้พร้อมมอบค่าสินสอดให้เป็นล้านด้วย
‘ถ้าอย่างนั้นตากับยายก็จะสบายน่ะสิ ถ้าเธอตอบตกลง’