EP.5

1146 Words
น้ำมนต์ไม่คิดว่าหนึ่งในนั้นจะมีอนิรุจน์อยู่ด้วย และต่างคนต่างก็เสนอค่าตัวของเธอหลักล้านกันทั้งนั้น และต่างก็อาสาชำระหนี้สินให้กับครอบครัวของเธอ ครอบครัวของทศพลมาสู่ขอเธอตั้งแต่เช้าตรู่เพราะบ้านอยู่ติดกัน สองชั่วโมงต่อมา ครอบครัวของอนิรุจน์มาสู่ขอเธอแบบเซอร์ไพรส์มาก น้ำมนต์อึ้งไปเหมือนกัน ไม่คิดว่าอนิรุจน์ก็อยากได้เธอไปเป็นเจ้าสาวด้วย และพอใกล้เที่ยง ครอบครัวของกรกิจก็มาทาบทามเธอด้วข้อเสนอที่กรกิจได้คุยกับเธอไปแล้วเมื่อวาน แต่เพิ่มเติมคือค่าตัวของเธอได้เพิ่มอีกหนึ่งล้าน! สามครอบครัวมาสู่ขอเธอในวันเดียวกัน มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก เพราะหมู่บ้านนี้ หากบ้านไหนมีเรื่อง บ้านอื่นก็มักรู้กันหมด เพราะทุกคนจะเอามาเล่าสู่กันฟังที่ตลาด หรือนินทาเรื่องชาวบ้านให้กันฟังนั่นเอง ปากต่อปากก็รู้กันไปทั่วว่าวันนี้จะป้าสวงนจะมาสู่ขอน้ำมนต์ไปเป็นลูกสะใภ้ ดังนั้นบ้านอื่นที่หมายตาน้ำมนต์เช่นกันก็ไม่ยอมน้อยหน้า ประมาณว่าแข่งดีแข่งเด่นแข่งร่ำแข่งรวย ต่างก็เสนอสินสอดไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทำเอานางรจนาเลือกคู่ถึงกับกุมขมับเลยทีเดียว ตอนนี้ตากับยายให้เธอคิด ตัดสินใจเอง ตากับยายบอกว่าจะไม่มีวันขายหลานสาวกินเป็นอันขาด “จะเลือกใครดีหว่า” หญิงสาวที่น่าอิจฉาที่สุดในหมู่บ้าน กำลังคิดเปรียบเทียบสามหนุ่มออกมาดังๆ เพียงลำพังที่ป่าไผ่ ที่นี่จะไม่มีสามครอบครัวมารบกวนการตัดสินใจของเธอ ...คนแรกพี่ทศ หน้าตาดีเข้าขั้นหล่อ หล่อแบบเซอร์ๆ ผู้ชายคนนี้มีครบตามตำราชายชาตรีทุกอย่าง เหล้ายาปลาปิ้ง ทั้งเรื่องผู้หญิงและการพนัน แม้ว่าตอนนี้จะโสด แต่ประวัติโคตรโฉดเลย... ...คนที่สองพี่รุจ หน้าตาดีหล่อเข้มเช่นกัน หล่อแบบผู้ดี แต่ไม่รู้หายไปไหนมาเป็นสิบๆปี ไม่รู้ว่าแอบซุกหญิงไว้ทางเมืองกรุงฯหรือเปล่า คนนี้เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลยในช่วงเวลาที่ไม่เจอหน้ากัน แม้ว่าเมื่อก่อนเขาจะใจดีกับเธอมาก และปากบอกว่ายังโสด แต่ประวัติของเขายังมีปริศนาเยอะเลย... ...คนที่สามพี่กิจ คนนี้หล่อแบบโดนใจเลย แต่มีเมียแล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมียของเขาคิดยังไง จะยอมให้สามีตัวเองมีเมียเพิ่มอีกคนไหม ถ้าเป็นเธอไม่มีทางยอมแน่ แล้วผู้หญิงคนไหนมันจะยอมแบ่งผัวให้คนอื่นใช้ ไม่มีทางหรอก ต่อให้พ่อแม่ของเขาจะยอมรับและจะพูดกับเมียของเขาให้ แต่เธอก็รู้สึกว่า พี่กิจควรเป็นผู้ชายคนแรกที่ต้องตัดทิ้งไป แม้ว่าจะชอบเขามากกว่าใครๆก็ตาม... “เฮ้อ...” ...เหลือสองคนนี้ เธอจะเลือกใครดี เพื่อที่ตากับยายจะได้หมดหนี้หมดสิน จะได้มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย... ‘จะเลือกพี่ทศ หรือว่าพี่รุจดีน้า’ “เฮลโล่เบบี๋”          น้ำมนต์หันไปตามเสียงเรียก          “เฮลโล่เบบี๋”          พอมองตรงไปยังฝั่งตรงข้ามที่มีลำคลองเล็กๆตัดผ่าน น้ำมนต์ก็เห็นฝรั่งผมบลอนด์เข้มโบกไม้โบกมือให้เธอตรงกอไผ่          ‘เขามาแอบอยู่ตรงกอไผ่ตรงหน้าเธอนานเท่าไหร่แล้วเนี่ย’          “ฮาว อาร์ ยู?” น้ำมนต์พยายามสื่อสารกับเขาตามที่ได้เรียนมา          “ผมชื่อแบเรียลครับ” เขาดันตอบกลับมาเป็นภาษาไทยแปร่งๆ          “อ้อ”          “แล้วคุณชื่ออะไรครับ”          “น้ำมนต์ค่ะ”          “อ้อ ชื่อน้ำมัน”          “น้ำมนต์ค่ะ ไม่ใช่น้ำมัน” หญิงสาวรีบแก้ให้ ทั้งเน้นเสียงทั้งขำ ทำให้ใบหน้ายุ่งๆเมื่อครู่เพราะคิดหนักเรื่องเลือกผู้ชาย ผ่อนคลายลงและเผลอยิ้มออกมา          “อ้อ ครับ น้ำมนต์ ไม่ใช่น้ำมันนะ” แบเรียลอมยิ้ม มองสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มตรงหน้าด้วยแววตาชื่นชม เวลาที่หล่อนยิ้ม มันชวนมอง มองแล้วไม่เบื่อ สาวบ้านนอกมันดูน่ารักใสๆแบบนี้นี่เอง          ในโลกของเขาเคยผ่านผู้หญิงสวยๆมานับไม่ถ้วน จนตอนนี้จะย่างสามสิบเก้าอยู่แล้ว เขารู้สึกเบื่อใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางราคาแพง เบื่อปากสีแดงๆที่แต้มด้วยลิปสติกยี่ห้อดัง พอได้มาเห็นอะไรที่มันใสๆ บริสุทธิ์ตรงหน้า จึงคิดว่ามันเป็นของแปลกที่หาดูได้ยาก ผู้หญิงที่ไม่แต่งหน้าเลย แก้มขาวอมชมพูแบบธรรมชาติ แดงเรื่อขึ้นนิดๆตามอารมณ์ความรู้สึกเมื่อหล่อนรู้สึกประหม่าขัดเขิน ปากเล็กๆก็เป็นสีแดงอ่อนๆ ผิวพรรณของหล่อนก็เนียนใสตามวัยสาวสะพรั่ง มันน่ามอง น่าหลงใหล น่าลูบ และน่าจู.....          “คุณเป็นใครคะ มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”          จินตนาการของแบเรียลพลันหายวับเมื่อได้ยินเสียงใสๆ ถามเขาขึ้นมา ทว่าพอสบตาสีดำกลมโตที่ใสซื่อนั้นอีก ชายหนุ่มก็ถึงกลับเดินลุยน้ำข้ามคลองเข้ามาหา          “ผมรู้จักกับ เจ้าของบ้านหลังนี้”  ความจริงเขาอยากจะบอกว่าเขาเป็นนักท่องเที่ยว และบังเอิญมาเที่ยวจังหวัดซึ่งเป็นบ้านเกิดของไกด์นำเที่ยวพอดี ไกด์นึกอยากกลับบ้านมาหาพ่อกับแม่ก็เลยแวะมาค้างคืนที่นี่สองคืน วันมะรืนก็จะเดินทางไปเที่ยวต่อแล้ว  แต่ถ้าอธิบายยาวแบบนี้ เขาก็ยังพูดไทยไม่เก่งเท่าไร แต่จะอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ ก็เกรงว่าสาวเจ้าจะไม่ค่อยเข้าใจ เลยต้องบอกออกไปสั้นๆ          “อ้อ” น้ำมนต์เข้าใจ แล้วเริ่มขยับหนีเมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ นึกไม่ไว้ใจอีกแระ ยิ่งเป็นคนต่างชาติยิ่งไม่ไว้ใจ ยิ่งหน้าตาดีๆอย่างกับพระเอกภาพยนตร์แบบนี้ ยิ่งไม่ควรเข้าใกล้ เพราะเธอแพ้คนหล่อนั่นเอง พอเห็นคนหล่อๆทีไรหัวใจมันก็เต้นแรงทุกที และก็เกิดอาการร้อนหน้าตามมาทุกครั้ง          “ดูสีหน้าของคุณไม่ค่อยสบาย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”          ‘อ้อ เขาคงเห็นเธอทำท่าคิดหนักเมื่อกี้มั้ง’          “ฉันสบายดีค่ะ” อยากจะขึ้นฝั่งไปตอนนี้ แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะตัดสินใจเลือกใครเป็นเจ้าบ่าวดี ก็เลยต้องยืนเผชิญหน้าเขาอยู่ เพราะไม่มีที่อื่นให้หลบแล้ว          “แหวนเพชรของผมมีค่าห้าแสนบาท ถ้าคุณเล่าให้ผมฟัง แหวนนี่จะเป็นของคุณทันที”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD