แต่เขารู้ว่าน้ำที่นี่สะอาด ต่อให้มันมีฝุ่นสีดำเล็กๆแทบมองด้วยตาเปล่าไม่เป็นลอยอยู่ แต่มันก็ยังสะอาดกว่าน้ำในเมืองในบางแห่งที่เต็มไปด้วยสารเคมี
“ชื่นใจจัง”
“คุณจะเดินกลับทางเดิมใช่ไหมคะ” เธอหมายถึงทางลงตลิ่งบ้านเธอแล้วข้ามคลองน้ำขึ้นไปบ้านของแก้วตาทางป่าไผ่ที่เขาเคยข้ามมานั่นแหละ
“จะไล่แล้วเหรอครับ”
“เปล่าค่ะ แค่จะบอกว่า คุณจะกลับตอนไหนก็กลับเลย แต่ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ เพราะอีกสักพักทั้งสามครอบครัวก็คงมารอคำตอบจากน้ำแล้ว ถ้าไม่อาบน้ำ ก็กลัวว่าพวกเขาจะเหม็นกลิ่นเหงื่อของน้ำน่ะค่ะ”
“ครับ”
น้ำมนต์เดินเข้าไปในบ้าน ก่อนจะเดินออกมาอีกทีด้วยชุดผ้าถุงเก่าๆของยาย กับผ้าขนหนูผืนใหญ่ที่ใช้คลุมบ่าลงมาถึงสะโพกงามงอน มีหมวกกันน้ำครอบหัวมาด้วย แบเรียลมองแล้วรู้สึกอะเมซิ่งมากๆ หล่อนดูน่ารักสุดๆไปเลย
ดวงตาคู่คมที่ออกแววเจ้าชู้นิดๆมองตามร่างบางไปจนหญิงสาวเปิดประตูเข้าห้องน้ำไป แล้วก็นึกจินตนาการภาพขณะที่สาวน้อยกำลังแก้ผ้าอาบน้ำ
‘เขากลายเป็นคนคิดลามกกับเด็กไปได้ยังไงเนี่ย หล่อนอายุถึงสิบแปดหรือยังก็ไม่รู้ ลืมถามอายุเลยตอนที่คุยกัน’
ชายหนุ่มยืนรออยู่ที่เดิม จนหญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ
“เอ้า ฉันนึกว่าคุณกลับไปแล้วเสียอีก”
“คือผมอยากรู้คำตอบน่ะครับ ว่าน้ำมนต์ตกลงจะไปเที่ยวกับผมไหม”
“แล้วนี่มันกี่โมงคะ”
“เที่ยงกว่าครับ”
“หกโมงเย็นไม่ใช่เหรอคะ ที่ฉันจะให้คำตอบ”
“อ้อ ผมลืมไป” ชายหนุ่มยิ้ม แต่สีหน้าคนลืมดูแปลกๆ จนน้ำมนต์มองเขาอย่างสงสัย
“เดี๋ยวฉันรีบไปแต่งตัวก่อนนะคะ ห้ามตามเข้ามานะ”
“ครับ”
แล้วสาวน้อยก็ส่งแววตาขู่ไปให้ ว่าห้ามเขาตามเธอเข้ามาในบ้านเป็นอันขาด ซึ่งมันทำให้แบเรียลอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ เขาต้องกลัวคำขู่จากแววตาของกวางสาวที่ท่าทางเนื้อจะหวานนี้ด้วยหรือ
‘เฮ่อ... สรุปว่าเขาก็ไม่กล้าเข้าไปข้างในสินะ ว่าแต่เขารออะไรอยู่ตรงนี้ หล่อนไล่เขาทางอ้อมแล้วนี่นา’
คนที่ยังยืนอยู่ที่เดิมได้แต่มองเข้าไปทางประตูหลังบ้านตาปรอย ก่อนจะค่อยๆเดินลงตลิ่งไป กลับไปบ้านของแก้วตาทางเดิม
เมื่อน้ำมนต์เปิดประตูหลังบ้านมาอีกครั้ง ก็ไม่เจอแบเรียลแล้ว แล้วก็ได้ยินเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจอดในบริเวณบ้าน น่าจะเป็นรถของกรกิจ ต่อมาก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์มาจอด น่าจะเป็นรถของอนิรุจน์ ส่วนทศพลน่าจะเดินมาเพราะบ้านอยู่ติดกัน
น้ำมนต์เดินออกไปต้อนรับสามหนุ่มด้วยรอยยิ้มหวาน ก่อนจะหันมองไปทางอนิรุจน์
“พี่รุจ คือคนที่น้ำเลือกค่ะ”
“จริงเหรอน้ำ น้ำเลือกพี่จริงๆนะ พี่ดีใจที่สุดเลย” อนิรุจน์ดีใจจนออกนอกหน้า ขณะที่อีกสองหนุ่มหน้าเครียดขรึม แล้วแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน โดยไม่ล่ำลาเจ้าบ้าน
ส่วนคนที่แอบฟังอยู่ ก็แอบผิดหวังลึกๆ แสดงว่าพรุ่งนี้ หล่อนคงไม่ไปเที่ยวกับเขาแล้วสินะ เพราะเมื่อหล่อนเลือกคนใดคนหนึ่งเป็นเจ้าบ่าวแล้ว ครอบครัวของหล่อนก็จะไม่ลำบากอะไรแล้ว
แบเรียลหันหลังเดินจากไปทางเดิมที่เดินมาเงียบๆ
หกโมงเย็น น้ำมนต์เดินลงตลิ่งไปยังป่าไผ่ เมียงมองหาใครสักคนที่อาจยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วก็ต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อยืนคอยหลายนาทีแล้ว แต่ใครคนนั้นก็ยังไม่โผล่หน้ามา
‘เขาคงแค่หลอกเธอเล่น จะมีคนบ้าที่ไหนจ้างเธอไปเที่ยวตั้งวันละเป็นแสน แถมให้เธอพาเพื่อนไปด้วยได้อีกต่างหาก มีผู้ชายสติดีๆคนไหนเขาทำกัน เธอมันก็แค่สาวบ้านนอกคอกนาธรรมดาคนหนึ่ง ที่ทั้งจนและไม่สวย ผู้ชายหล่อๆ รวยๆ มีทางเลือกแบบเขาจะมาสนใจเด็กกะโปโลแบบเธอทำไม เธอมันบ้า ประเมินค่าว่าตนเองสำคัญไปเอง’
ร่างเล็กในชุดกางเกงขาสั้นครึ่งขาสีหม่นกับเสื้อแขนกุดพอดีตัวสีไข่ ตั้งท่าจะหันหลังกลับเมื่อรู้สึกว่าเริ่มจะมืดแล้ว
“อุ๊บ!”
เหมือนชนเข้ากับกำแพงอะไรสักอย่าง เกือบล้มแต่ไม่ล้มเพราะถูกจับต้นแขนเอาไว้ แล้วพอเงยหน้าขึ้นมามองก็ต้องตาค้างอ้าปากหวอด้วยความตกใจ
“คุณ!”
“ตกใจเหมือนเห็นผมเป็นผีเลย”
“ก็คุณมาโผล่ทางนี้นี่คะ”
ตอบโดยที่เขายังจับต้นแขนของเธออยู่
“ก็ผมมารอคุณตรงนี้นานแล้ว คุณเดินลงมาไม่เห็นผมเอง เอาแต่มองไปทางโน้น”
บอกด้วยประกายตาหยอกเย้านิดๆ จนหญิงสาวเริ่มหน้าแดงเรื่อด้วยความเขินอาย เมื่อรู้ว่า แบเรียลคงเห็นเธอชะเง้อชะแง้มองหาเขาอยู่นานแล้ว
“ก็ฉันนึกว่าคุณจะมาจากโน้นนี่คะ แล้วมารออยู่ทางนี้ตอนฉันลงมาก็ไม่เห็นส่งเสียงบอกกันเลย”
“ผมไม่เข้าใจที่คุณพูด ไหนพูดช้าๆใหม่ซิ”
“ช่างเถอะค่ะ ฉันจะขึ้นบ้านแล้ว”
“เดี๋ยวสิครับ ยังไม่ให้คำตอบผมเลย ว่าจะไปเที่ยวกับผมพรุ่งนี้หรือเปล่า”
น้ำมนต์ถอนหายใจ ก่อนจะตอบว่า
“ค่ะ ฉันกับเพื่อนของฉันอีกคนหนึ่ง จะไปเที่ยวกับคุณด้วย”
แบเรียลถอนหายใจอย่างโล่งอก แม้ว่าจะยังมีเรื่องคาใจก็ตาม มันก็เป็นสิทธิ์ของหล่อนนี่นะว่าจะเลือกใคร และก็มีสิทธิ์ที่จะไปเที่ยวกับเขาด้วย เพราะตอนนี้หล่อนยังไม่ได้แต่งงาน ยังมีเวลาโสดไปอีกนานอยู่มั้งกว่าที่หล่อนกับผู้ชายที่หล่อนเลือกจะแต่งงานกัน
“ผมดีใจนะ ที่น้ำจะไปเที่ยวด้วย”
“แล้วปล่อยแขนฉันได้หรือยังคะ เจ็บนะ”
“อ้อ ขอโทษครับ ผมแค่กลัวว่าน้ำจะล้มน่ะ”
น้ำมันต์ทำตาเขียวใส่ แต่ไม่จริงจังนัก เมื่อเขาปล่อยเธอเป็นอิสระ ก็ถอยออกห่างอีกหนึ่งก้าว เพราะยืนคุยกับเขาใกล้ๆมันปวดคอ
“งั้นน้ำขึ้นบ้านก่อนนะคะ เดี๋ยวตากับยายจะสงสัยว่าน้ำลงมาทำอะไรที่นี่นานสองนาน”
“เดี๋ยวครับ ผมมีอะไรมาฝากด้วยนะ”
“อะไรคะ”
น้ำมนต์มองชายหนุ่มเดินไปหยิบถุงสีไข่ที่เขาห้อยเอาไว้ที่ตอไม้ไผ่แล้วทำหน้าสงสัย
“รับไปสิครับ”
“อะไรอยู่ข้างในคะ”