แกร๊ก...
ประตูห้องถูกเปิดออกโดยไร้การเคาะ สองสาวหันไปมองทางนั้นพร้อมกัน ก่อนที่บัวหวานจะสบสายตากับ ดวงตาสีสนิมเหล็กที่มองสบตาเธอด้วยประกายว่างเปล่าไร้อารมณ์ ก่อนที่ชายหนุ่มร่างสูงจะละสายตาไปมองแหวนเพชร แล้วชี้นิ้วมาทางเธอ
“นั่นอะไร”
คำถามของเขาไม่เหมือนการถามถึงสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์เพศหญิง แต่เหมือนถามถึงสิ่งของอย่างหนึ่งที่ถูกวางไว้กลางอ่างอาบน้ำ และมีฟองสบู่ติดตามเนื้อตัวเปลือยเปล่ามากกว่า
แหวนเพชรยักไหล่
“ของคุณกายค่ะ คุณกายฝากให้เอามาล้างตัว”
“กรี๊ด!!”
แหวนเพชรถึงกับสะดุ้งตัวโยนเมื่อได้ยินเสียงบัวหวานหวีดร้องออกมาสุดเสียง ก่อนที่หญิงสาวเปลือยเปล่าจะทิ้งตัวนั่งลงในอ่างอาบน้ำอีกครั้ง เพื่อซ่อนร่างกายงดงามไว้ใต้ฟองสบู่สีขาว
ชายหนุ่มไม่ได้สะดุ้งตาม เขาเพียงมองมาด้วยดวงตาเย็นชาราวกับถูกหล่อไว้ด้วยน้ำแข็ง
“โอ๊ย ตกใจ! อะไรของเธอยะ”
แหวนเพชรโยนนิตยสารลงบนโต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเดินมาหาชายหนุ่มอย่างคุ้นเคยกัน ตอนนั้นเองที่บัวหวานเตะมือกับขอบอ่างลนลานด้วยความทำอะไรไม่ถูก แล้วเธอก็ไปกดโดนปุ่มปล่อยน้ำออกจากอ่าง
“ว้าย!”
หญิงสาวเลิ่กลั่กพยายามกดปุ่มเดิมเพื่อหยุดการปล่อยน้ำ โดยหารู้ไม่ว่านั่นเป็นการทำให้น้ำหายไปเร็วขึ้น ดวงตาแสนอับอายเหลือบขึ้นมองชายหนุ่มที่ทำให้เธอทำอะไรไม่ถูกอยู่ตอนนี้ และเห็นว่าเขากำลังมองเธออยู่ด้วยดวงตาพราวอารมณ์ขัน
ตลกอะไรของเขา ประสาท! ตาบ้า!
แต่แล้วเมื่อมองสบตากันนานๆ ร่างกายของหญิงสาวก็สั่นสะท้านเกินกว่าการควบคุม หัวใจของเธอเต้นตึ้กตั้ก! ตึ้กตั้ก! เหมือนจะหลุดออกมาจากอก ใบหน้าร้อนผ่าวไปหมด แล้วฟองสบู่ก็กำลังค่อยๆ ทยอยหลุดออกจากเรือนร่างในบางจุดด้วย
“คุณดินมาหาแหวนทำไมเหรอคะ”
แหวนเพชรเห็นท่าไม่ดีที่หัสดินเอาแต่มองเด็กใหม่ แต่เมื่อเขากำลังจะหันมาบอกธุระของตัวเอง ชายหนุ่มก็เห็นฟองสบู่กำลังค่อยๆ ไหลลงจากใต้ไหปลาร้าข้างขวาของหญิงสาว
แล้วรอยปานสีชมพูตรงใต้ไหปลาร้า ก็ทำให้ชายหนุ่มชะงัก ราวกับโดนโซ่ขนาดใหญ่ตรึงร่างกายสูงใหญ่ของเขาไว้กับพื้นตรงหน้าเธอ!
“คะ คุณดิน?”
แหวนเพชรเรียกอีกครั้ง เธอมองหัสดินอย่างไม่เข้าใจว่าเขากำลังตกตะลึงอะไรกัน เมื่อหันไปมองบัวหวาน โสเภณีสาวก็เห็นเด็กคนนั้นนั่งชันเข่าอยู่กับพื้นอ่างอาบน้ำที่ไม่เหลือน้ำอยู่แล้ว เธอใช้เรียวขาปกปิดทั้งทรวงอกและส่วนลึกลับของกายสาว ถึงจะไม่มิดเท่าไหร่เพราะหน้าอกหน้าใจนั่นไม่ใช่ไซซ์เด็กประถม
แต่มองยังไงก็ไม่เห็นมีอะไรน่าดู!
แหวนเพชรกัดฟันด้วยความหวาดกลัวข้างในใจ เธอแตะแขนหัสดิน พยายามเรียกร้องความสนใจจากเขาด้วยเสียงหวานใส
“คุณดินขา... ว้าย!”
แหวนเพชรร้องออกมาเมื่อหัสดินปัดมือเธอออก ก่อนที่ชายหนุ่มจะก้าวเข้าไปใกล้บัวหวานมากขึ้น แล้วเขาก็กระชากเรียวแขนนุ่ม จนบัวหวานหัวใจตก
หญิงสาวหลับตาร้องอุทานในลำคอเกือบเป็นเสียงกรี๊ด! เธอพยายามดึงมือออกด้วยเนื้อตัวสั่นเทา ความกลัวปราดเข้าจับหัวใจ เหมือนมีมือล่องหนกำลังขยำขยี้อารมณ์ บีบเคล้นความรู้สึกหลากหลายให้เหลือเพียงความหวาดกลัวจับใจ!
เธอสู้แรงผู้ชายไม่ได้ ถึงจะรู้อยู่แก่ใจในเรื่องนี้ แต่บัวหวานรู้ซึ้งยิ่งกว่าเดิมตอนโดนกายวุธทำร้ายที่หน้าคฤหาสน์
แล้วผู้ชายคนนี้จะเอาอะไรจากเธออีก! ทำไมพวกผู้ชายหน้าตาดีรูปร่างสมาร์ตถึงได้นิสัยเลวกันหมด โลกนี้จะไม่เหลือคนหล่อและดีเลยหรือไง!!
“ปละ ปล่อย ปล่อยนะ!”
ถึงจะกลัวใจแทบขาด แต่นิสัยสู้ยิบตาก็ยังไม่มลายหายไปง่ายๆ บัวหวานโวยวายผลักไสเขาแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่ชายหนุ่มไม่สนใจอะไรเลย
นอกจากปานสีชมพูเล็กๆ รูปดอกบัวใต้ไหปลาร้าของเธอ...
“คะ คุณดิน จะทำอะไรเด็กคะ”
แหวนเพชรพยายามจะห้าม ไม่ใช่เพราะเธอห่วงบัวหวาน แต่เพราะเธอไม่อยากให้เขาสนใจใครนอกจากเธอต่างหาก! แต่เพียงหัสดินตวัดสายตาโกรธจัดมองไป โสเภณีสาวก็ได้แต่ยืนอึ้ง งงงัน
“ใช่รอยสักมั้ย”
ชายหนุ่มหันกลับมาถามบัวหวานเสียงดุ แต่หญิงสาวไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร เธอค่อยๆ หรี่ตาลืมขึ้นมองเขาทีละข้าง ตอนนั้นเองที่เพิ่งรู้ตัวว่าร่างกายของเธอมันสั่นสะท้าน ริมฝีปากก็สั่นกึกๆ ด้วยความหนาว
“ระ รอยสัก?” เสียงของเธอสั่นตามร่างกายจนรู้สึกสังเวชตัวเอง แต่แววตาของเขาไม่ได้มีความสงสารเลยแม้แต่น้อย กลับมีเพียงความกรุ่นโกรธ แทบจะเป็นเกลียดชัง! “อะไรคะ?”
“ก็นี่ไง!”
นิ้วมือของชายหนุ่มกดเข้าไปที่ใต้ไหปลาร้าจนบัวหวานร้องโอ๊ย ก่อนที่หญิงสาวจะมองตามแล้วเพิ่งคิดได้ว่าตรงนั้นมีอะไรอยู่ ก็มันติดตัวมาตั้งแต่เกิด เธอเลยไม่ค่อยสนใจมัน ถึงตอนเป็นเด็กจะมีคนถามเยอะว่าเป็นปานหรือรอยสัก แต่เมื่อบัวหวานเติบโต ก็ไม่มีใครถามมานานแล้ว
“มะ ไม่ใช่ค่ะ”
อายก็อาย เพราะนอกจากซับในตัวจิ๋วแล้ว เธอก็ไม่ได้สวมใส่อะไรเลยจนต้องนั่งคุดคู้อยู่แบบนี้ แต่ก็ต้องตอบ... บัวหวานได้เรียนรู้แล้วว่าถ้าไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อสู้ ไม่มีอาวุธ ไม่มีคนช่วยเหลือ ขืนทำอะไรโง่ๆ ลงไปก็รังแต่จะโดนเขาตบตี
ผู้ชายคนนี้คงเป็นแมงดา... หัวหน้าแมงดาอะไรแบบนั้น เพราะดูจากการแต่งตัวของเขาแล้ว เสื้อผ้าราคาแพงสูสีกับกายวุธเลย
“มันเป็นปานค่ะ ไม่ใช่รอยสัก”
คำตอบของเธอทำให้ชายหนุ่มนิ่งงันเหมือนแท่งศิลาอยู่เกือบนาที แล้วเขาก็ทำในสิ่งที่ทั้งแหวนเพชรและบัวหวานไม่คาดคิด
คือการก้มลงไปกดจมูกตรงซอกคอของหญิงสาวแปลกหน้า แล้วสูดลมหายใจอย่างลึกซึ้ง!