หัวใจของเลลาเต้นแรงขึ้น ทั้งสองคนสบตากัน เธอนึกไม่ออกเลยว่าตลอดทั้งชีวิตนี้ จะหาใครที่มีดวงตาสีเดียวกับน้ำทะเลในยามราตรีอย่างดามิทรีได้อีก เขามีเสน่ห์ชวนหลงใหลฟุ้งกระจายอยู่ตลอดเวลา สำหรับเธอมันเลวร้ายมาก เพราะเลลาไม่รู้ว่าตนจะเผลอตกลงไปในหลุมพรางนั้นตอนไหน
“ก็ต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไปค่ะ" เธอกะพริบตาถี่ ๆ เรียกสติตัวเองกลับมา ขณะที่ดึงมือออก เปลี่ยนจากการประคบเย็นเป็นการนวดยาให้ โดยไม่ลืมที่จะเช็ดลาดไหล่นั้นให้แห้งเสียก่อนด้วย
ระหว่างเรามีเพียงความเงียบ และเสียงหัวใจของกันและกัน ครู่ต่อมาเลลาก็เดินหายเข้าไปในครัวเพื่อล้างมือ และกลับมาพร้อมน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องหนึ่งแก้ว
“ทานยาแก้ปวดก่อนค่ะ"
“ขอบคุณครับ" ดามิทรียิ้มรับ และปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณพยายามชั่วคราวอย่างไม่มีอิดออด “ผมทานยาแล้ว กลัวจะง่วงระหว่างขับรถ ผมขอ…”
“จะขอค้างที่นี่หรอคะ? คุณนี่ได้คืบจะเอาศอกอยู่เรื่อยเลยนะ" เลลาบ่นอุบอิบขณะที่เก็บของลงกล่องปฐมพยาบาลให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
“ไม่ได้เหรอครับ ผมจะนอนอยู่ตรงนี้แหละ ไม่รบกวนคุณหรอก" ดามิทรีกลายเป็นหมาหงอยอีกครั้ง ทำเอาเลลาที่ไม่ใช่คนใจแข็งเหมือนหินรู้สึกอยากกินอยากเสริมความแข็งแรงให้หัวใจโดยด่วน
“ฉันคงปฏิเสธคุณไม่ได้ เถียงไปคุณก็คงจะหาข้ออ้างมาหักล้างอยู่ดี อยากนอนก็นอนค่ะ ใช้หมอนอิงแทนหมอนเลยนะคะ ฉันไม่อยากให้ใครใช้หมอนร่วมกับฉัน และที่นี่ไม่มีหมอนสำรองค่ะ"
“แปลว่าคุณไม่เคยให้ใครมานอนที่นี่ ผมดีใจจัง" ดามิทรียิ้มไปจนถึงดวงตา เป็นเครื่องยืนยันว่าเขารู้สึกดีกับสิ่งที่เลลาพูดจริง ๆ เพียงครู่เดียวที่หญิงสาวน้ำกล่องปฐมพยาบาลเข้าไปเก็บในห้องนอน พอกลับมาก็เห็นว่าพ่อหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์นั้นได้หลับปุ๋ยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอส่ายหัวเล็กน้อยพร้อมกับยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“นอนจริงแฮะ…นึกว่าจะมีลูกไม้อะไรซะอีก" เลลาเดินหายเข้าไปในห้องนอนของตัวเองเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายยิ่งขึ้น หญิงสาวเปลี่ยนไปสวมชุดนอนขายาวผ้านิ่ม
สายเรียกเข้าดังขึ้น ทำให้เลลารีบกดรับ
“ฮัลโหล…”
(เลลา ถึงบ้านหรือยัง เธอกลับกับใครทำไมไม่บอก เรากับเฮลก้าเป็นห่วงเธอมากนะรู้ไหม) เป็นหยกแก้วที่โทรเข้ามาในเวลาแบบนี้ น้ำเสียงของปลายสายแสดงออกถึงความเป็นห่วงเลลาอย่างสุดซึ้ง
“ถึงแล้ว ถึงแล้ว ขอโทษนะหยกที่เราไม่ได้โทรไปอัปเดต พอดีมีอะไรให้ต้องจัดการนิดหน่อย แล้วนี่หยกอยู่กับเฮลก้าหรอ?” เลลาย้อนถาม เฮลก้าคือเพื่อนสนิทอีกคนในกลุ่ม รู้จักเพราะเรียนคณะและสาขาวิชาเดียวกัน เฮลก้าเป็นสาวออสซี่สุดโก๊ะที่พูดไทยชัดแจ๋วราวกับเป็นเจ้าของภาษา เพราะวัน ๆ ก็ขลุกอยู่แต่กับเพื่อนสาวชาวไทยทั้งสอง
(ใช่แล้วล่ะ แต่อย่าเพิ่งพูดเรื่องอื่น คนที่ไปส่งเธอที่บ้านน่ะใคร? ทำไมอยู่ ๆ ก็มาบอกกะทันหันแบบนี้ล่ะ แล้วไหนบอกว่าถึงลอนดอนแล้วจะมากอดเราเป็นคนแรกไง น้อยใจนะเนี่ย) น้ำเสียงงอแงของหยกแก้วทำให้เลลายิ้มออก
“เอาไว้เป็นพรุ่งนี้ได้ไหม เดี๋ยวเราไปหา แล้วก็เอารูปงานแต่งเพิร์ลไปให้ดูด้วย" เธอตอบ พร้อมกับนึกถึงคนที่ยังนอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ข้างนอก เลลาไม่สบายใจนักที่จะให้คนแปลกหน้า (จริง ๆ คือพี่ชายเพื่อน) นอนอยู่ในบ้านของตัวเองเพียงลำพัง
(พรุ่งนี้เลยหรอ เรารอไม่ไหวหรอก เลลาออกมาหาเรากับเฮลก้าเลยได้มั้ย เราสองคนนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟของป้ามาร์ธานี่เอง เดินเท้ามาแปปเดียวก็ถึง หรือเลลาจะให้เรากับเฮลก้าเดินไปหาที่บ้านเลยก็ได้นะ! เลลาถึงบ้านแล้วใช่ไหม?)
“ไม่ต้อง ๆ ไม่ต้องมาที่บ้านเรานะ" เลลารีบปฏิเสธจนลิ้นแทบพันกัน เธอไม่อยากให้เพื่อนมาเห็นว่าตนมีผู้ชายหน้าหล่อนอนหลับปุ๋ยอยู่ในบ้าน เธอขี้เกียจที่จะตอบคำถามจากเพื่อนสาวทั้งสอง จึงรีบตอบตกลงเรื่องที่จะออกไปร้านกาแฟ “เดี๋ยวเราเดินไปหาที่ร้านป้ามาร์ธาดีกว่า ฝากสั่งลาเต้ร้อนไว้ให้ด้วยนะ"
(แปลก ๆ นะเนี่ย…แต่ก็โอเค เรากับเฮลก้ารอนะเลลา รีบมา รีบมา) หยกแก้วตอบรับแล้ววางสายไป เลลาพรูลมหายใจออกมา แล้วรีบเปลี่ยนชุดอีกครั้งเดินออกจากห้องนอนไป
ดามิทรียังคงนอนอยู่ในท่าเดิม ลมหายใจของชายหนุ่มสม่ำเสมอบ่งบอกว่าหลับลึกมากแค่ไหน เลลาจึงรีบออกจากบ้านไปโดยไม่ลืมที่จะล็อคประตูไว้ด้วย เพื่อความปลอดภัยของคนที่นอนหลับสบายอยู่
“…ทำไมต้องรู้สึกผิดด้วยนะเรา" หญิงสาวพึมพำขณะที่มองร่างของดามิทรีผ่านกระจกที่หน้าต่างเป็นหนสุดท้าย แล้วรีบเดินจ้ำอ้าวเพื่อไปยังร้านกาแฟของป้ามาร์ธาทันที
…
Martha Café
“โอโห เพิร์ลสวยมาก สวยสุด ๆ เลย เสียดายจัง ตอนนั้นถ้าเราไม่ติดว่าต้องไปช่วยทีมละครเวทีของรุ่นน้องป.ตรีนะ เราคงไปงานแต่งเพิร์ลด้วยตัวเองแล้ว อลังการมากจริง ๆ" เฮลก้าพูดภาษาไทยคล่องปรื๋อ มือก็กดกล้องไล่ดูรูปไปด้วย
“นั่นสิ สวยมากเลย เสียดายจังที่ไม่ได้ไป" หยกแก้วพูดสนับสนุน
“ทุกอย่างในงานเหมือนแบบ…ถูกเนรมิตขึ้นมาให้เป็นสวรรค์เลยล่ะ ของจริงสวยกว่าในภาพมาก ๆ อยากให้เธอสองคนไปดูด้วยตาตัวเองเลย" เลลายิ้ม เริ่มผ่อนคลายขึ้นเมื่อได้คุยกับเพื่อน ๆ
“แล้วเลลาอยู่ไหนซะล่ะ เราไม่เห็นรูปในกล้องเลย ไม่มีใครถ่ายให้บ้างเลยหรือไง" สาวออสซี่ถามพร้อมกับเอียงคอด้วยความสงสัย เลลาจึงยกกล้องมาไว้ในมือแล้วกดไปยังภาพที่ตนจำเลขเอาไว้
“มีแค่ตอนท้าย ๆ ที่ถ่ายภาพรวมนั่นแหละ นี่ เรากินเยอะมากจนพุงออก ในรูปไม่ต้องเพ่งยังเห็นชัด ตลกมาก" เลลายิ้มร่าขณะหันกล้องให้เพื่อนดู เฮลก้าก็สนอกสนใจมากรีบรับไปทันที
“อะโห พุงออกยังไงให้ยังสวยขนาดนี้เนี่ย เธอสวยมากเลลา"
“คนที่ยืนอยู่ข้างเธอนั่นใครหรอ?” หยกแก้วถามเสียงเบาหวิว “หน้าตาดีจัง เหมือนภาพวาดเทพกรีกโรมันอะไรทำนองนั้นเลย"
“ไหน ๆ” เฮลก้าซูมดูบ้าง “หล่อจริง ๆ แฮะ ใครหรอเลลา?”
เลลากรอกตาเมื่อนึกถึงคนคนนี้ “พี่ชายของเพิร์ล เราไม่ได้สนิทด้วยหรอก”
“ไม่สนิทแต่ยืนซะแนบชิดเชียวน้า มองไปมองมาเธอก็ดูส๊วยสวย ยืนข้างคนหล่อระเบิดอย่างพี่ชายเพิร์ลยังไม่ดร็อปเลยอะ เหมาะสมกันมาก"
“ไม่เอาล่ะ เราไม่อยากเหมาะสมกับคนคนนี้" เลลาหัวเราะยิ้ม ๆ เมื่อได้ขัดใจเฮลก้า ในขณะที่หยกแก้วยังคงมองภาพชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างเพื่อนสนิทของตนไม่กะพริบ ด้วยสายตาที่ไม่อาจอ่านความคิดได้