9

1251 Words
“ลูกพี่ แฟนลูกพี่มารอลูกพี่ตั้งนานแล้ว เธอว่าติดต่อลูกพี่ไม่ได้เลย” ไอ้หน้าทะเล้นคนสนิทบอกสมพร ผู้เพิ่งขับรถเข้ามาจอด “ข้าลืมมือถือทิ้งไว้ในรถ” สุดหล่อตอบน้ำเสียงเงียบขรึม เพราะเดาออกตั้งแต่แลเห็นรถหรูจอดอยู่แล้วละ เมื่อเข้ามาภายในห้องนั่งเล่นก็พบว่าหญิงสาวรออยู่แล้ว... หล่อนอยู่ในวัยรุ่นราวคราวเดียวกับชายหนุ่ม เห็นแค่แววตาก็รู้ว่าหล่อนเอาเรื่อง!’ “พักนี้ติดต่อคุณไม่ได้เลยนะคะ” “ผมขอโทษ” ท่าทางชายหนุ่มเหมือนกับจะรู้ตัวดีว่า ต่อให้แก้ตัวไปอย่างไรก็เปล่าประโยชน์ เพราะเกือบทุกครั้งของการเจอกัน ไม่ใช่การเจอกันด้วยทาที่แบบชายหนุ่มหญิงสาวที่ควรจะรักกัน พูดจาภาษาดอกไม้ “คุณพ่ออยากพบคุณ” “ผมจะหาเวลาว่างไป” “ต้องไปวันนี้และเดี๋ยวนี้ค่ะ” หล่อนเน้นเสียง เขาแอบถอนใจก่อนตอบ “โอเคครับ” ทุกครั้งของการพบกัน เหมือนมีกำแพงขนาดใหญ่ทับถม เต็มไปด้วยความอัดอัด ไม่ใช่ว่าหล่อนไม่สวย หล่อนมีความงดงาม รูปร่างหน้าตาผิวพรรณสมกับเป็นลูกสาวคนสุดท้องของตระกูล เขาขับรถไปส่งหล่อนโดยให้ลูกน้องขับรถของหล่อนตามหลัง ระหว่างทาง เป็นการพูดคุยกันถึงการตกแต่งเรือนหอที่เพิ่งสร้างใหม่ ท่าทางของหล่อนยังคงตื่นเต้นกับว่าที่ความสุขในอนาคต ทั้ง ๆ ที่ปัจจุบัน ระหว่างหล่อนกับเขาคิดต่างกันแทบทุกเรื่อง พ่อของหญิงสาว มีความคิดไม่แตกต่างกัน เวลาต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางกำแพงสูงที่กำลังบีบอัดเข้าหาเขา ไม่มีความปลอดโปร่ง ไม่มีความสุข ถ้าต้องแต่งงาน จะเป็นอย่างไร เขาไม่อยากจะคิด ทรัพย์สมบัตินับพันล้านของเขา เขาสามารถบริหารจัดการได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งคนจากตระกูลนี้ เพียงแต่...การแต่งงาน ทำไปเพราะเป็นสัญญาของผู้ใหญ่ เขาทำเพื่อพ่อผู้ไม่มีลมหายใจอยู่แล้ว ในขณะที่ต้องเอาชีวิตทั้งหมดของตัวเอง แขวนอยู่บนเส้นด้ายที่มีความทุกข์ทรมานเป็นเดิมพัน บรรยากาศของการพบกับพ่อแม่ของว่าที่คู่หมั้นสาว เป็นบรรยากาศที่ดูเหมือนจะเรียบ ๆ แต่แท้จริงแล้ว ซุกซ่อนความเคร่งเครียดเอาไว้อยู่ในที โดยเฉพาะวันนี้ มีการพูดถึงเรื่องสำคัญ เกี่ยวกับตัวลูกสาว “พ่อไปให้พระดูฤกษ์ดูยามเอาไว้แล้ว ไม่ควรจะเลื่อนอีกนะ พระองค์นี้ ไม่เคยดูฤกษ์ให้ใครง่าย ๆ” สมพรหันไปสบตากับว่าที่คู่หมั้นสาวนิดหนึ่ง หล่อนยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย เขายิ้มตอบ แต่หล่อนจะรู้บ้างไหมนะว่า ลึก ๆ ข้างในหัวใจกลับขมขึ้นมา มันคือความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ ระหว่างหล่อนกับเขา มองดูผิวเผินแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฐานะชาติตระกูล รวมทั้งคำมั่นสัญญาที่พ่อแม่ของเขาเคยฝากฝังเอาไว้ ล้วนแล้วแต่สมบูรณ์ แค่จัดการทำตามขั้นตอน หล่อนเป็นว่าที่คู่หมั้นมายาวนานแล้ว หากจะขึ้นเป็นตัวจริง ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ “ครับคุณพ่อ” สมพรพูดได้เพียงแค่นั้น มีเหตุผลมากมายที่ควรจะบอกปัด ปฏิเสธไปเสีย แต่ดูสิ สุดท้ายแล้วเขากลับมารับคำง่าย ๆ แล้วจะแก้ไขสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างไร มันกลายเป็นปมที่ขมวดชีวิตของสมพรให้ตึงเครียดมากกว่าเดิมเสียอีก หญิงสาวผู้เป็นว่าที่คู่หมั้นของสมพรดูมีความสุข เห็นได้จากแววตาของหล่อนเป็นประกาย หล่อนเกิดขึ้นมาในครอบครัวสมบูรณ์เพียบพร้อม และกำลังจะกลายเป็นหญิงสาวผู้โชคดีที่สุด เมื่อได้ว่าที่คู่หมั้นอย่างสมพร ชายหนุ่มอยู่ทานอาหารมื้อค่ำ หลังจากนั้นจึงลากลับ “พ่ออยากให้ลูกใช้บริการบริษัทตกแต่งภายในเพื่อนของพ่อนะ เค้าฝีมือดี ดูบ้านของพ่อสิ” ประโยคสุดท้าย พ่อของหญิงสาวยังคงฝากฝังบริษัทรับตกแต่งภายใน... ทั้ง ๆ ที่ชายหนุ่มยังคงต้องการให้มีการประมูลเกิดขึ้น ด้วยเหตุผลเดียว เขาไม่ต้องการให้งบประมาณบานปลายไปกว่านี้ ก็แค่บ้านที่อยู่อาศัย ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปหรือเปล่า ดูเหมือนว่า เขาไม่ค่อยปลื้มกับทุกข้อเสนอ... “มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ” ลูกน้องหน้าทะเล้นถาม ตอนที่สมพรกลับมาถึงคฤหาสน์ “เยอะว่ะ” “ทำไมล่ะครับ” “บอกไม่ถูกว่ะ” สมพรตอบน้ำเสียงค่อนข้างซีเรียส “ลูกพี่ไม่ได้จัดให้เธอหรือเปล่า” “จัดเจิดอะไรล่ะ แค่กินข้าวกับครอบครัวเค้า” “อ้าว ปกติจัด” “ไอ้นี่ รู้ดีไปทุกเรื่อง” “โธ่พี่ เรื่องแบบนี้ ระดับลูกพี่ของผมเคยพลาดซะที่ไหน” “ไอ้นั่นมันก็ใช่ว่ะ ของเคยกินไม่ได้กิน” “เธอไม่ยอมหรือวันนั้นของเดือนล่ะครับลูกพี่” “ไม่ใช่ทั้งนั้น แต่มันเกี่ยวกับเรื่องในอนาคตของเราว่ะ ข้าเกรงว่าจะไปด้วยกันไม่รอด” “ไม่เอาน่าลูกพี่ แฟนของลูกพี่ระดับคุณหนู ใครเห็นก็ว่าเหมาะสมกัน ทั้งรูปร่างหน้าตา ทั้งชาติตระกูล” “เอ็งนี่รู้ดีจังนะ ไม่เอาละ เลิกพูดเรื่องนี้ จริงสิ นี่ดวงสมรยังไม่กลับหรือวะ” “ถ้าหมายถึงน้องเชอรี่” ไอ้คนทะเล้นตอบ “ไม่น่าจะกลับครับ” “อะไรนะ” สมพรอุทานออกมา ไม่อยากจะเชื่อว่าน้องสาวในไส้เพียงคนเดียวจะกลายเป็นคนเหลวไหลได้ขนาดนี้ “ปกติเธอไม่กลับบ้านอยู่แล้วนี่ครับ อยู่หอ” “อ้าว แล้วทำไมเอ็งไม่รายงานข้าวะ” “นึกว่าลูกพี่รู้แล้ว” “บ้าเอ๊ย เอ็งขับรถ” “ไปไหนครับ” “ไปตามเธอสิ น้องสาวคนเดียวด้วย ข้าปล่อยได้ไงวะเนี่ย” “เธอคงติดเรียน” “เรียนบ้าบออะไรวะ นี่มันมืดค่ำแล้ว” “เอ่อ... แต่ว่า...” “นี่คือคำสั่ง” สมพรเสียงเครียด “ได้ครับลูกพี่” ความเคร่งเครียดของสมพรทวีขึ้นเป็นร้อยเท่าในบัดดลที่เข้าไปในหอพักแล้วพบว่า ดวงสมรไม่ได้อยู่ตามลำพังภายในห้อง แต่อยู่กับไอ้เด็กหนุ่มร่างท้วมคนหนึ่ง เขาโกรธมากถึงขั้นขยุ้มคอเสื้อเด็กหนุ่มคนนั้น เกือบจะตะบันหน้าเข้าให้แล้ว แต่ก็สามารถระงับยับยั้งอารมณ์เอาไว้ได้ในที่สุด “ทำไมทำตัวแย่แบบนี้” “แบบไหน” ดวงสมรเถียง ท่าทางของเด็กสาวดูจะไม่ยินยอมง่าย ๆ ด้วย หล่อนคงคิดว่าหล่อนโตแล้วนั่นแหละ ตลอดเวลาต้องอยู่ภายในกฎเกณฑ์อันไร้สาระของพี่ชาย ดวงสมรปั้นสีหน้าขึงตึง ดวงตาของหล่อนมีประกายวาวโรจน์ ความจริงก็นิสัยเดียวกับสมพรนั่นเอง “ไอ้เด็กนั่น” “เค้าเป็นเพื่อนหนู” “เพื่อน! เพื่อนอยู่สองต่อสองในห้อง” “พี่ไม่รู้อะไร สมัยนี้ใคร ๆ ก็เป็นกัน หรือพี่ไม่มีเพื่อนหญิง” “พี่โตแล้ว” “หนูก็โตแล้ว!” พี่น้องไม่ค่อยลงรอยมานานแล้ว ยิ่งอีกฝ่ายใช้อารมณ์ ก็ยิ่งจะเป็นการเติมไฟ กลายเป็นเรื่องใหญ่โตมากกว่าเดิม ไอ้หน้าทะเล้นที่จำเป็นต้องมาอยู่ร่วมเหตุการณ์ด้วยถึงกับต้องเกาหัว มันน่าจะไม่จบง่าย ๆ เพราะไม่เคยเห็นสมพรผู้เป็นลูกพี่โกรธมากมายถึงขนาดนี้ อีกอย่าง ก็ยังไม่เคยเห็นดวงสมรแสดงอาการขัดขืนได้ถึงเพียงนี้เหมือนกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD