ตอนที่ 2

1124 Words
บทที่ 2 หล่อนก็เลิกงานเวลานี้แทบทุกวันนี่น่า แต่ทำไมบรรยากาศมันถึงดูขมุกขมัวแปลกประหลาด นี่มันฤดูร้อนนะ ไม่ใช่ฤดูหนาวสักหน่อย หญิงสาวจ้องมองท้องฟ้าที่มืดมัวตรงหน้าอย่างหงุดหงิด ก่อนจะถอนใจออกมาแรงๆ เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะเป็นบ้าเพราะอกหัก ใช่... หล่อนอกหักดังเป๊าะเลยทีเดียว ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บ สู้เลิกคิดดีกว่า หญ้าหวานกัดฟันอดทนต่อความปวดร้าวในอก ยกมือขึ้นเขี่ยเส้นผมที่ถูกลมพัดมาปรกใบหน้าออกอย่างรำคาญ ก่อนจะรีบเดินไปหยุดที่ป้ายรอรถเมล์ คนแน่นแบบนี้ทุกวันไม่เคยเปลี่ยนแปลง สิบปีเป็นยังไง มันก็ยังคงเป็นแบบนั้น... หญิงสาวมองคนที่ป้ายรถเมล์ด้วยความเหนื่อยล้า หล่อนยืนหยัดอยู่ในเมืองหลวงมานานเหลือเกิน จนบ้างครั้งก็อยากจะลาออกจากงาน และหนีกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดให้รู้แล้วรู้รอด ใช่... หล่อนคงทำแบบนั้นไปนานแล้วล่ะ หากไม่ได้แอบรักเจ้านายของตัวเองเช่นนี้ หล่อนถอนใจแรงๆ อีกครั้ง มองฝูงชนที่กำลังแย่งกันขึ้นรถเมล์คันที่เพิ่งแล่นมาจอดที่ป้ายด้วยสายตาอ่อนอกอ่อนใจ ก่อนจะก้าวถอยหลังออกมายืนอยู่เงียบๆ รอจนรถเมล์แล่นจากไปแล้วนั่นแหละถึงก้าวกลับเข้ามายืนภายในป้ายรถเมล์อีกครั้ง เพื่อรอคันต่อไป หล่อนทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้พลาสติกสีฟ้า ในสมองกำลังว้าวุ่นและทรมาน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เสียงเรียกเข้าแบบนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากตุ๊ดตู่เพื่อนเลิฟ หล่อนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแนบหู “มีอะไรกับฉันเหรอตุ๊ดตู่” หล่อนกรอกเสียงอ่อนล้าไปตามสาย “ไม่มีอะไรหรอก แค่เป็นห่วงคนอกหักน่ะ” “นี่อย่ามาซ้ำเติมได้ไหม คนกำลังแย่นะ” หล่อนโวยวายไปตามสาย “จะไปเครียดอะไรนักหนา ก็แค่เจ้านายจะมีเมียเป็นตัวเป็นตน” “แต่ฉันรักเขานี่น่า” “แกแน่ใจนะว่ารัก ฉันว่าแค่ใกล้ชิดจนผูกพันกันมากกว่า นี่ๆ ฉันส่งโลเคชั่นบาร์โฮสต์ไปที่ไลน์ของแกแล้วนะ เปิดอ่านด้วย” “ฉันยังไม่ไปวันนี้หรอก” “อะไรยะหล่อน วันนี้วันศุกร์ คืนรีแลกซ์นะยะ ไปเถอะ แล้วแกจะรู้ว่าสวรรค์มีจริง” “สวรรค์กามน่ะสิ” หล่อนต่อว่าเพื่อนไปตามสาย ยังกล้าๆ กลัวๆ อยู่เลยที่จะเข้าไปในสถานที่แบบนั้น “แหม... สาวๆ เขาไปเที่ยวกันให้พรึ่บ ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย มีหนุ่มมาเอาใจ แกจะได้ลืมเรื่องอกหักยังไงล่ะ” “เอาไว้อาทิตย์หน้าดีกว่าตุ๊ดตู่” “นี่แกขี้ขลาดขนาดนี้เลยเหรอ นังหวาน ไม่คู่ควรจะเป็นเพื่อนตุ๊ดผู้ฆ่ายักษ์อย่างฉันเลยสักนิด” ตุ๊ดตู่บ่นอุบมาตามสาย “ฉันไม่ได้ขี้ขลาดนะแก แต่ฉันไม่เคยไปบาร์โฮสต์นี่ ฉันไม่รู้ว่ามันจะน่ากลัวแค่ไหน” “โอ๊ย หล่อน มันจะน่ากลัวอะไร มีแต่น่ากินทั้งนั้นสิไม่ว่า ไปเถอะ อย่าทำให้ฉันผิดหวัง ลากผู้ชายมากินสักคน กินให้ตลอดทั้งคืนเลยนะ ให้สมกับเงินที่จ่ายไป แล้วแกจะรู้ว่าสวรรค์กับความฟินมันมีอยู่จริงบนโลกใบบี้” เพื่อนตุ๊ดของหล่อนหัวเราะคิกคัก แต่หล่อนกลับรู้สึกย่ำแย่เหลือเกิน “แต่ว่าฉัน...” “นี่อย่ามาลังเล แกรับปากฉันมารอบหนึ่งแล้วนะว่าจะไป ถ้าเปลี่ยนใจถูกตบ เอาไงนังหวาน!” หญ้าหวานไม่มีทางเลือก เจ็บหัวใจก็เจ็บ แถมยังถูกเพื่อนข่มขู่อีก “ไปก็ได้ แต่ถ้าฉันไม่ฟิน ฉันจะไปตบกบาลแกนะ นังตุ๊ดตู่” “โอเครเลย แต่ถ้าแกฟิน แกต้องเลี้ยงส้มตำฉันทั้งเดือน โอเครไหม” “อืม” หญ้าหวานตอบรับไปอย่างนั้นแหละ ก่อนจะถอนใจออกมาแรงๆ “งั้นแค่นี้ก่อนนะ” “แกจะรีบวางไปไหนยะนังหวาน” “ฉันก็จะรีบไปบาร์โฮสต์ของแกไงล่ะ จะได้รีบไปรีบกลับ” “อีบ้า ไปบาร์โฮสต์ชุดทำงานเนี้ยนะ สิ้นคิดจริงๆ เลยนังเพื่อนชะนีนี่” “แกด่าฉันทำไม ฉันทำอะไรผิดอีกล่ะ” หญ้าหวานถามกลับไปเสียงอ่อย ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะต่อแย้งใดๆ กับใครอีก ตุ๊ดตู่ที่อยู่ปลายสายถอนใจแรงๆ ด้วยความเอือมระอาเพื่อนเลิฟ “ฉันจะไปยืนรอแกอยู่ที่หน้าห้องพร้อมกับชุดสวยๆ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกัน โอเครไหม” “แกจะมาทำไมเนี่ย ฉันเกรงใจ” “ถ้าฉันไม่ไปกำกับแก ฉันพอจะเดาได้ไม่ยากว่าแกจะใส่ชุดคอกระเช้าไปเที่ยวบาร์โฮสต์แน่นอน” เพื่อนของหล่อนประชดประชันมาตามสาย “บ้าน่ะแก ฉันไม่ทำแบบนั้นหรอก” “ฉันไม่เชื่อแกหรอก เอาเป็นว่าเจอกันที่หน้าห้องเช่าแกนะ อีกครึ่งชั่วโมง” “เดี๋ยวก่อนสิตุ๊ดตู่... ตุ๊ดตู่...” หล่อนพยายามเรียกเพื่อนเอาไว้ แต่ตุ๊ดตู่ตัดสายไปแล้วเสียแล้ว หญ้าหวานถอนใจออกมาแรงๆ ก่อนจะหย่อนโทรศัพท์มือถือลงในกระเป๋าสะพายข้างของตัวเอง และนั่งหน้าเศร้า ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถยนต์หรูคันหนึ่งแล่นมาจอดตรงหน้า กระจกรถฝั่งคนนั่งข้างคนขับรถลดลงจนหมดบาน และคนขับก็ชะโงกหน้าตะโกนตามออกมาเสียงดังเป็นภาษาอังกฤษ “คุณครับ รบกวนหน่อยครับ ทางนี้ใช่ทางไปถนนสีลมไหมครับ” หล่อนรีบลุกขึ้นยืน และเดินเข้าไปหยุดใกล้ๆ กับรถคันงาม มองเข้าไปภายในรถ เมื่อเห็นใบหน้าของคนถามทางใกล้ๆ หล่อนถึงกับช็อก อ้าปากค้างเลยทีเดียว แม่เจ้า... ผู้ชายอะไรหล่อลากไส้ขนาดนี้ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นใครหน้าตาราวกับเทพเจ้าปั้นแต่งแบบนี้มาก่อนเลย เจ้านายที่หล่อนแอบรักก็ยังหน้าตาดีไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของผู้ชายฝรั่งกล้ามโตคนนี้เลย หล่อนช็อก... ช็อกแล้วก็น้ำลายหกเรี่ยราด “คุณครับ... คุณ...?” พอเขาเรียกอีกครั้ง หล่อนถึงได้สติ รีบกะพริบตาเร็วๆ และละล่ำละลักตอบ “คะ” “ทางนี้ใช่ทางไปสีลมหรือเปล่าครับ” “เอ่อ... ไม่... ไม่ใช่ค่ะ ต้องไปยูเทิร์นก่อนค่ะ แล้วตรงกลับขึ้นไปทางเดิม จากนั้นพอเจอทางด่วนก็เบี่ยงออกทางซ้าย แล้วก็...” “ผมขอโทษนะครับ ผมไม่รู้เส้นทางเลย... และผมก็มีธุระสำคัญที่นั่นด้วย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD