ดวงตาเคร่งเครียดจ้องลึกไปในแววตาของลูกชาย แต่อาทิตย์เป็นฝ่ายหลบสายตา
“อาร์ต... แกไม่ได้เอาเงินไปใช้ใช่ไหม”
“พ่อ! ผมจะเอาได้ยังไง เงินก็อยู่ในเซฟเหมือนเดิมนั่นแหละ เอาไปพ่อก็ต้องรู้สิ พ่อต้องเซ็นเบิกอยู่แล้ว”
“ดี พ่อไม่อยากเสียเงินก้อนนี้ไปอีก นี่มันส่วนของน้อง ของแก แกก็ใช้มันหมดแล้วนี่ มีแต่ต้องสร้างใหม่เท่านั้น ในเมื่อเงินนั่นพ่อตั้งใจจะเก็บไว้ให้เอวา ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริง พ่อก็ต้องแลกเงินกับน้อง”
“แต่พ่อจะยอมเสียเงินไปง่ายๆ แบบนี้เหรอ พ่อ... โทร.หาผู้กำกับก่อนเถอะ ให้ผู้กำกับมาช่วยก็ได้ ไม่ต้องแจ้งความก็ได้ ทำยังไงก็ได้ที่จะบีบให้มาร์ตินมันคืนน้องมา เงินตั้งเยอะขนาดนั้น ถ้าพ่อไปให้มันง่ายๆ แล้วต่อไปถ้ามันมาขู่อะไรอีกล่ะพ่อ เราจะทำยังไง พ่อไม่ฟังที่มันบอกเหรอ มันมีคลิปเอวา อย่างนี้เราก็ต้องยอมมันทุกครั้งดิ”
“เดี๋ยวพ่อจะหาทางเอง แกไปที่ธนาคาร ขอสเตทเม้นท์มาให้พ่อด้วย ภายในบ่ายวันนี้พ่อต้องได้สเตทเม้นท์ทั้งหมด พ่อจะส่งไปให้ไอ้มาร์ตินมันดูว่าเงินพร้อม”
“ครับพ่อ”
อาทิตย์รับคำก่อนจะรีบเดินออกมาทั้งที่เพิ่งจะเข้าบ้านแท้ๆ แต่ก็ต้องออกไปอีก เพราะสิ่งที่เขาจะไปจัดการอย่างเร่งด่วน! น่ะเป็นความลับยิ่งยวดระหว่างเขากับผู้จัดการธนาคาร เพราะต้องเล่นแร่แปรธาตุขั้นสูงสุดเพื่อให้ได้สเตทเม้นท์ยอดเดิม ยอดที่ยังมีอยู่เต็มก่อนที่เขาจะเบิกมันออกมาถลุงไปกับบ่อนเพื่อนบ้านจนหมด ก็ใครจะไปคิดว่าจะเสีย ไปบ่อนก็ต้องคิดว่าได้ แต่เมื่อมันเสียไปแล้วจะทำไง มันก็ต้องแก้ตัว แต่แก้ไปแก้มามันกลับหมดตัวดื้อๆ
ดวงตาอ่อนล้าของอำนาจมองตามร่างสูงของลูกชายที่เดินออกไป ก่อนจะพิมพ์ข้อความลงในไลน์ของเอวารินทร์ เขารู้ว่าคนทางนั้นต้องอ่านแน่
‘ฉันขอเวลา 5 วัน เงินตั้ง 400 ล้านฉันหาไม่ทันหรอก และขอร้องว่าอย่าทำอะไรลูกฉัน เอวาไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย ถ้าแกรับปาก เงิน 400 ล้านจะโอนให้แกทันทีวันศุกร์’
‘ตกลง’
นั่นคือคำตอบสั้นๆ ที่คนทางนั้นพิมพ์กลับมา พร้อมลงชื่อต่อท้ายที่ทำให้อำนาจต้องกัดฟันแน่น
‘ครับคุณพ่อตา จากลูกเขย’
อำนาจกำมือแน่นเขาจะหาทางแก้เผ็ดไอ้มาร์ตินให้ได้
“กูไม่มีวันยอมมึงแน่ ไอ้มาร์ติน มึงกล้าแตะต้องลูกกู สิ่งที่มึงจะได้จากกูก็คือความตาย”
น้ำเสียงเข่นเคียด ดวงตาเหี้ยมแดงก่ำ ยิ่งเห็นภาพลูกที่นอนไม่รู้เรื่อง ก็ยิ่งแค้น
มาร์ตินมองข้อความที่พูดโต้ตอบกับอำนาจในไลน์ส่วนตัวของเอวารินทร์ เขาคิดถูกที่ใช้โทรศัพท์ของหล่อนส่งข้อความไปหาไอ้คนสารเลวนั่น และการเข้ารหัสก็ไม่ยากเมื่อเจ้าของเครื่องนอนหลับสลบไสลอยู่ตรงนี้ ปลายนิ้วมือเล็กๆ ที่จิ้มไปบนหน้าจอโทรศัพท์ก็เปิดทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นความลับให้เขาได้รู้
ดวงตาคมเข้มตวัดมองเจ้าของร่างเปล่าเปลือยด้านข้างอีกครั้งก่อนจะมองโทรศัพท์ในมือตัวเองค่อยๆ เลื่อนไปบนภาพถ่ายของเอวารินทร์ทีละภาพทีละภาพ ภาพถ่ายส่วนใหญ่ก็ล้วนถ่ายกับหนุ่มๆ หลากเชื้อชาติ ใบหน้าหล่อแค่นยิ้ม เบะปาก ส่ายหัวน้อยๆ คิดไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกทำแบบนี้กับหล่อนเพราะผู้หญิงเอวารินทร์จะมีอะไรเหลือกลับมาเมืองไทยบ้าง
“เสียใจด้วยนะเอวา ที่พ่อของเธอจะเอาเงินมาไถ่ ตัวไม่งั้นฉันคงส่งเธอไปสนุกกับหนุ่มๆ ทั้งเกาะแน่ แต่ว่าไม่ได้นะ ถ้าเผื่อพ่อเธอเบี้ยว ความสนุกก็ยังเป็นของเธอเหมือนเดิม เอวารินทร์คนสวย”
พูดเบาๆ ขณะฟังมือบีบกระชับกรอบหน้าพลิกให้หันซ้ายหันขวา แต่หล่อนไม่รู้สึกตัวเลย เขาอยากรู้นักว่าถ้าหล่อนลืมตาขึ้นมาเห็นหน้าเขา หล่อนจะละลายได้มากแค่ไหน จะร่านร้อน เร่งเร้า เรียกร้องให้เขากินหล่อนหรือเปล่า
แล้วเขาควรอดใจไม่กิน หรือ กินไม่ให้เหลือซาก
“โอย... มันน่านัก”
ใบหน้าหล่อแหงนมองฟ้า พ่นลมออกระบายสิ่งอัดอั้นที่เกิดขึ้นระหว่างขา ก็หล่อนน่ากินจริงๆ
เอวารินทร์รู้สึกตัวตื่นเมื่อยามเย็นมาเยือน ที่รู้ว่าเย็นเพราะได้ยินเสียงนกบินกลับรัง เสียงที่แตกต่างจากยามเช้าออกหากิน รอยยิ้มระบายบนใบหน้าค่อยๆ ขยับกายและบิดขี้เกียจน้อยๆ เช้านี้หล่อนเมื่อยเสียจริง ไม่รู้เมื่อวานทำอะไรหนักนักหนา
‘อ้อ... นั่งเครื่องนาน ล้าก้น ล้าตัวไปหมด เดี๋ยวต้องไปสปาสักหน่อย’
ให้คำตอบกับตัวเองในใจ บิดขี้เกียจไปมาอีกเพียงนิดให้ร่างกายตื่นตัว เช้าแรกของเมืองไทยต้องมีอะไรๆ ในหล่อนสนุกอีกเยอะ
‘เช้าแรก? ไม่เช้าแล้วนี่นา นี่มันเย็นแล้ว’
คิ้วขมวดมุ่นครุ่นคิดก่อนดวงตาสวยจะเปิดขึ้นมองสิ่งรอบตัว และสิ่งที่เห็นก็ไม่ใช่สิ่งที่คุ้นเคยเลยสักนิด เริ่มจากผนังห้องสุดสายตาที่ทำจากไม้ไผ่ตีแบออกจากกันปะติดไว้เป็นข้างฝา มองเรื่อยมาจนถึงประตูห้องหรืออาจเรียกได้ว่าประตูทางเข้าที่ก็เป็นประตูไม้ไผ่เช่นกัน
ความผิดปกติในสิ่งที่เห็นทำให้หล่อนกวาดสายตามองสิ่งรอบตัวอย่างเร็ว และก็รับรู้ว่าหล่อนอยู่บนเตียงไม้ที่มีเพียงที่นอนบางๆ ปูเอาไว้ และร่างกายก็มีเพียงผ้าผืนเน่าๆ ห่มคลุม
เอวารินทร์ลุกขึ้นพรวด ทันใดนั้นผ้าห่มก็เคลื่อนไปอยู่ที่หน้าตัก
“กรี๊ดดดดด...”
เพราะทั้งร่างหล่อนไม่มีเสื้อผ้าติดกายที่มีติดก็แค่สติกเกอร์แปะหัวนม นอกนั้นราวกับเด็กแรกเกิด