ตอนที่ 3

1031 Words
แม้จะพูดอย่างนั้นแต่ความร้อนกลับพวยพุ่งไปทั่วร่างจนมาร์ตินแยกไม่ออกว่าความร้อนแรงของแดดยามสายกับความร้อนจากร่างกายของเขา อะไรกันที่ร้อนกว่า ทว่าเสียงเดินของไอ้เข้มก็ทำให้เขาต้องขยับกายปกปิดความใหญ่โตนั้นไว้ “โยนผ้ามา แล้วมึงไปท้ายเรือเลย ถ้ากูไม่เรียกไม่ต้องเสนอหน้ามา ไม่งั้นกูบอกอีแหวนแน่” “คร้าบบบบ… เข้มไม่กล้าขัดนายหัวดูลูกนก” “พูดมาก ไปเลยมึง” ผ้าห่มเน่าๆ ของไอ้เข้มถูกโปะไปบนอกอล่างฉ่าง รอจนไอ้เข้มเดินไปท้ายเรือ จากนั้นการลอกคราบหล่อนทั้งตัวก็เกิดขึ้น โดยที่เขาไม่เห็นอะไรของหล่อนอีกนอกจากอกอวบใหญ่นั้น จนแน่ใจว่าทั้งร่างเปล่าเปลือย เพราะชั้นนอกชั้นในเขาถอดออกมาไม่เหลือ และที่มือคลำดูก็รู้ว่าไม่มีอะไรสักชิ้นติดกาย มาร์ตินมองใบหน้างดงามไร้ที่ติ เขาเคยเห็นเอวารินทร์ตอนที่หล่อนเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น เพราะอยู่โรงเรียนเดียวกัน แต่ก็ไม่คิดว่าเมื่อหล่อนเติบโตเป็นสาวสะพรั่ง จะสวยและอะร้าอร่ามได้มากมายขนาดนี้ เพียงแต่ความสวยมีพิษแบบนี้ เสียชาติที่เกิดมาสวยเสียมากกว่า เพราะสวยกับเลว ส่วนผสมที่ไม่ลงตัวนี้ ทำให้หล่อนด้อยค่า แต่แม้จะด้อยค่า แต่หล่อนก็ยังสวยไม่ใช่เหรอ และสวยไปทั้งเนื้อทั้งตัวเสียด้วย ความคิดร้ายๆ ผุดวาบในสมอง ทั้งเนื้อทั้งตัวนั้น เขาเห็นแค่อกอวบใหญ่ ทว่าจากฝ่ามือสัมผัสก็จินตนาการได้ว่าร่างเปล่าเปลือยภายใต้ผ้าห่มผืนบาง คงจะงดงามไร้ที่ติเช่นกัน แต่ถึงยังไงหล่อนก็เป็นลูกของไอ้คนชั่วและเป็นน้องของคนเลว ดังนั้นเขาไม่ควรดูคนเดียว แค่คิดรอยยิ้มเหี้ยมก็กระจ่างบนใบหน้า จริงอยู่เขาแค้นไอ้อำนาจและไอ้อาทิตย์ แต่ก็คงไม่เลวพอที่จะทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ทำ รอหล่อนฟื้นขึ้นมาก่อนเถอะ ถ้าฤทธิ์มาก หรือเลวไม่แพ้พี่ชายกับพ่อ เขาก็จะจัดการหล่อนขั้นเด็ดขาด จะเร่ให้มีผัวทั่วเกาะเลย โทรศัพท์มือถือถูกยกขึ้น เพื่อบันทึกภาพความงดงามทีละสัดส่วน ตอนนี้ขอแค่ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอสั้นๆ เท่านั้น ส่วนอย่างอื่นจะยั้งกายยั้งใจไว้ ดวงตาคมเข้มเช็กภาพในโทรศัพท์มือถือ เลือกภาพที่คิดว่าคนทางโน้นจะเนื้อเต้น “อะไรนะ! หาไม่เจอ” หนุ่มใหญ่รูปร่างสันทัดหน้าตาคมเข้มตะเบ็งเสียงใส่โทรศัพท์ เมื่อลูกน้องรายงานว่าลูกสาวของเขาหายไปจากสนามบินทั้งที่มีกำหนดว่าเอวารินทร์จะลงจากเครื่องประมาณ 21:00 น แต่ตอนนี้ 11.00 น. ของอีกวัน ก็ยังไม่มีใครหาเอวารินทร์พบ ซึ่งถ้าเขาไม่ฉุกใจถามว่าทำไมเอวารินทร์กลับมาแล้วไม่มาทักทายพ่อ ก็คงไม่มีใครกล้าบอกว่าตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครได้พบเอวารินทร์ และเมื่อเขาโทรศัพท์หา เอวารินทร์ก็ปิดเครื่อง “ครับนายหัว ดูทั่วสนามบินแล้วก็ไม่เจอครับ” “มึงจะบ้าหรือไง! ลูกกูทั้งคนมึงปล่อยให้หายไปได้ยังไง! และสนามบินก็เล็กแค่นั้น ลูกกูไม่ใช่แมลงวันนะโว้ย! จะได้บินรอดสายตาพวกมึงไปได้ มึงตามหาลูกกูให้เจอเลยนะ ป่านนี้แล้วลูกจะไปอยู่ที่ไหน แล้วมึงเช็กแน่แล้วหรือเปล่า ว่าลูกกูลงมาจากเครื่องจริงๆ” “เช็กแล้วครับนายหัว ผมขอดูกล้องวงจรปิดจากสนามบินแล้วด้วยครับ” “ว่าไง! แล้วมึงได้เรื่องว่ายังไง” “คุณหนูลงมาจากเครื่องจริงๆ ครับ” “แล้วลูกกูไปไหน” “มีผู้ชายคนหนึ่งมาพาไปครับ” “ผู้ชายที่ไหน ใครมันจะรู้ว่าลูกกูกลับมาวันนี้ ก็มีแต่พวกมึงนั่นแหละที่รู้ ไม่งั้นกูจะให้มึงไปรับลูกกูเหรอ” “จริงๆ ครับนายหัว คุณหนูออกไปกับมัน ในคลิปพูดคุยกันนิดหน่อย แล้วคุณหนูก็เดินตามมันออกไปเลยครับ” “แล้วมันเป็นใคร มึงรู้จักไหม หรือมีใครรู้จักมันบ้าง!” “ไม่คุ้นเลยครับนายหัว มันใส่ผ้าปิดปากเอาไว้ด้วย” “ปัดโธ่โว้ย! มึงไปตามเรื่องมาให้ได้เลยนะ หาให้ได้ว่าลูกกูไปไหน ไปกับใคร กูต้องรู้เรื่องภายในครึ่งชั่วโมง ถ้าไม่งั้นกูเช็ดพวกมึงแน่ ไอ้พวกโง่! ทำอะไรก็ไม่ได้ดังใจเลยสักอย่าง” อำนาจสบถอย่างหัวเสียแทบจะปาโทรศัพท์ลงพื้น ถ้าไม่เพราะมีสัญญาณข้อความเข้า และใบหน้าโกรธเกรี้ยวก็หายวับ กลับกลายเป็นยิ้มส่ายหน้าระอาใจ “เอวา... ไอ้ลูกดื้อ ใจคอจะทำให้พ่อหัวใจวายตายหรือยังไงนะ” อารามดีใจที่เห็นว่าเป็นข้อความจากไลน์ของเอวารินทร์ อำนาจก็รีบกดดูทันที ใจคิดจะต่อว่าลูกสาวที่หายไปโดยไม่บอกตามประสาคนชอบเล่นซน เล่นแบบนี้คนเป็นพ่อหัวใจจะวายตายเอาเสียดื้อๆ แต่ติดต่อมาแล้วคนเป็นพ่ออย่างเขาก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก ทว่าทันทีที่เปิดดูข้อความ อำนาจก็แทบเข่าทรุด ทั้งร่างสั่นเทาจนเซถลาไปเกาะขอบโต๊ะแน่น “อะ… อะไร นี่มันอะไร! อะไร! อ๊ายยยยย!” เสียงร้องตะเบ็งลั่นที่ดังมาจากด้านในของตัวบ้านทำให้อาทิตย์ที่เพิ่งก้าวเท้าเข้าบ้านต้องรีบรุดวิ่งเข้าไปทันที เพราะนั่นมันเสียงของผู้เป็นพ่อ “พ่อ! พ่อเป็นอะไร พ่อ!” “อาร์ต! อาร์ต... น้องแย่แล้ว เอวาแย่แล้ว” “แย่อะไรพ่อ แย่อะไร พ่อ! เอวากลับมาตั้งแต่เมื่อคืนไม่ใช่เหรอ แล้วตอนนี้อยู่ไหน พ่อ!” “อยู่... อยู่…”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD