LEO : อีกแป๊บกำลังจะถึงแล้ว
ฉันยกนาฬิกาข้อมือเพื่อดูเวลาก่อนจะพบว่าสายไปสิบห้านาทีแล้ว หลังจากได้รับการนัดหมายจากเลโอ เขาบอกว่ากำลังจะมาถึงฉันจึงรีบลงมารับก่อน
พวกเรานัดทำรายงานกันที่คอนโดของฉัน เพราะมันกว้างและไม่ต้องไปแย่งที่นั่งกับคณะอื่นในหอสมุด ซึ่งจะทำใต้ตึกก็ร้อนอีก หน้าร้อนของประเทศไทยเป็นอะไรที่ฉันเกลียดที่สุดเลย
ฉันแกว่งเท้าไปมาอย่างไร้จุดหมาย
“ลูกจันทร์แกมารอใครเนี่ย บอกแล้วไงว่าฉันมารับพรีมเอง เนี่ยกำลังจะขึ้นไปพอดีเลย” เสียงร้องทักทำให้ฉันรีบหันกลับไปมอง อลิซที่ยืนอยู่ไม่ไกลกำลังกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาหาฉัน
เธออยู่หอเดียวกับฉันจึงไม่แปลกที่เจอกันก่อน
“รอเลโอกับกันย์ เห็นบ้างไหมบอกจะถึงแล้ว”
“ที่ลานจอดรถข้างหน้ายังไม่เห็นนะ ขึ้นไปรอบนห้องดีกว่ามั้ง” พรีมพูดขึ้นเมื่อเห็นฉันนั่งเซ็ง ๆ อยู่คนเดียว
“ไม่เป็นไรดีกว่าฉันขี้เกียจลงมาอีก”
“สองคนนั้นนี่จริง ๆ เลย”
“พวกแกไปรอบนห้องฉันก่อนก็ได้นะ ข้างล่างร้อนอะ” ฉันเสนอทางเลือกอีกทาง
“แล้วจะเอาคีย์การ์ดที่ไหนรับเลโอกับกันย์ขึ้นไปล่ะ”
“เออ...ลืมเลย”
“เอ๋อว่ะ” อลิซหัวเราะก่อนจะโยกหัวฉันไปมา ซึ่งนั่นก็ทำให้ฉันหัวเราะตามไปด้วย หลังจากคิดอยู่พักหนึ่งฉันก็นึกขึ้นได้
“เอางี้ขึ้นไปกดออดหน้าห้อง เดี๋ยวฉันโทรไปบอกแอชให้เปิดประตูให้ ยังไงห้องเราก็อยู่ชั้นเดียวกันอยู่แล้ว”
“จริงด้วยห้องเราอยู่ชั้นเดียวกันนี่นา”
ฉันพยักหน้าหงึก ๆ เนื่องจากคอนโดเป็นระบบที่แตะคีย์การ์ดและลิฟต์จะจอดที่ชั้นเดียวเท่านั้น ฉันเพิ่งนึกออกว่าอลิซย้ายมาที่นี่เมื่อปีที่แล้วนี่เอง
“งั้นฉันกับอลิซขึ้นไปก่อนนะ ถ้าเลโอกับกันย์มาก็รีบตามขึ้นไปนะ”
“โอเค” ฉันตอบรับ
ก่อนจะหลีกทางให้อลิซกับพรีมเดินเข้าไปในตัวตึก ส่วนฉันนั่งเล่นอยู่ที่โซฟาหน้าคอนโด เสียงเปิดประตูดังพร้อมกับเสียงแว่ว ของหญิงสาวสองคนที่กำลังหัวเราะคิกคักทำให้ฉันหยุดการเคลื่อนไหวร่างกาย
“โง่...เนาะ!”
“อย่าไปว่านางเลยสงสาร ฉลาดน้อยอยู่แล้ว” อลิซพูดขึ้นรับคำพูดของพรีม ทำให้ฉันหันไปมอง รู้สึกถึงใจที่เต้นแรงขึ้นมา
“น่ารำคาญจะตายแต่ก็สนุกดี”
“คิก~”
คำพูดนั้นทำให้ฉันไม่สบายใจเท่าไหร่ ได้แต่หวังว่าจะไม่ได้พูดถึงฉันหรอกนะ แต่ในใจฉันกลับร้อนรนแปลก ๆ เหมือนสมองสั่งให้ฉันวิ่งตามสองคนนั้นไป แต่อีกใจก็ควรจะรออยู่ตรงนี้
ฉันรีบหยิบโทรศัพท์เปิดห้องแชตของแอชตัน ก่อนจะรีบส่งข้อความไป
Look Jun : สติกเกอร์กระต่ายโบกมือ
Look Jun : ฉันยังต้องรอเลโอกับกันย์ เดี๋ยวอลิซกับพรีมจะขึ้นไปช่วยเปิดประตูให้หน่อยนะ
Ashton : ได้ครับอ่าาาได้ยินเสียงออดพอดี
Look Jun : ทำตัวดี ๆ ล่ะ
Ashton : สติกเกอร์กระต่ายงง?
Look Jun : อย่ารังแกเพื่อนฉันนะแอช
มือฉันสั่นเล็กน้อยเหงื่อในมือเริ่มเยอะขึ้น ฉันกำลังคิดบ้าอะไรอยู่ นั่นคือเพื่อนสนิทและแฟนฉันนะ
Ashton : 5555555555
Look Jun : ...
Ashton : เพื่อนเธอรังแกได้ที่ไหน ฉันกลัวตัวเองจะถูกรุมรังแกมากกว่า ที่รักรีบขึ้นมานะ
Look Jun : ได้เลย แต่คงอีกสักพักอะ ฉันยังไม่เห็นเลโอกับกันย์เลย
Look Jun : แอชตัน
อย่า...นอกใจฉันนะ
ฉันพิมพ์มันค้างไว้ก่อนจะตกกะใจเมื่อแผ่นหลังถูกแตะด้วยฝ่ามือใหญ่ เลโอนั่นเอง ฉันตกใจกรี๊ดออกมาก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะของเลโอและกันย์
“กรี๊ดดดเลโอ มาเงียบ ๆ คนมันตกใจนะ”
“หน้าเธอแม่งโคตรจี้เลย” กันย์หัวเราะแล้วยกมือโอบไหล่ฉันไว้พลางพูดแก้ตัวที่มาล่าช้า “โทษทีนะช้าที่บ้านฉันเอง เอาขนมมาฝาก”
“บ้านมันทำขนมไทย” เลโอขยายความ
“ทองม้วน?”
“ทองม้วน”
แล้วฉันกับกันย์ก็พูดขึ้นพร้อมกัน จะไม่รู้ได้ยังไงได้กลิ่นหอมออกมาขนาดนี้ ฉันสบตากับเลโอก่อนจะหัวเราะลั่น “ไม่บอกก็รู้ กลิ่นหอมทะลุกล่องออกมาแบบนี้”
“งั้นขึ้นไปกันสักทีเถอะ วันนี้อาจารย์ให้งานกลุ่มอะไรนักหนาก็ไม่รู้”
“ไปสิอลิซกับพรีมอยู่บนห้องแล้ว มีแอชอยู่ด้วยนะห้องฉันเล็กอาจจะอึดอัดหน่อย แต่โอเคกันใช่ไหม”
ฉันกลัวพวกเขาจะอึดอัดโดยเฉพาะเลโอ เหมือนเขากับแอชไม่ค่อยสบตากัน ส่วนกันย์เองก็ไม่ค่อยมาอยู่ในกลุ่มเท่าไหร่ ฉันจึงเลือกบอกเขาไปก่อน
“ไม่มีปัญหา” กันย์ยักไหล่
แต่เลโอกลับนิ่งไป นัยน์ตาคู่สวยของเขามองหน้าฉันที่กำลังจะทำตาโตใส่เชิงว่ามีอะไร
“ฉันไม่ได้ซื้อของมาเลย ไปซื้อน้ำซื้อขนมกันหน่อยไหมจะได้ไม่ต้องลงมาอีก”
“ได้สิบนห้องก็ไม่ค่อยมีของกิน ฉันแชตบอกแอชกับพวกนั้นก่อนนะ เผื่ออยากฝากซื้ออะไร”
“เอาสิ” เลโอบอกฉันพลางยิ้มอย่างตามใจ รอยยิ้มที่มุมปากของเขาทำฉันลืมเสียสนิทว่ากำลังคิดอะไร พอฉันส่งข้อความเสร็จก็รีบคล้องแขนเลโอและกันย์เดินไปที่รถ
ใจฉันเต้นถี่ ๆ ขึ้นมาไม่มีสาเหตุ แต่ก็เบาบางลงเมื่อทั้งสองชวนฉันคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้ จนลืมไปเลยว่าข้อความที่ฉันส่งไปถูกเปิดอ่าน แต่ไม่มีการตอบกลับ
ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าการเจ็บหัวใจมันเจ็บได้มากขนาดนี้
เหมือนหน้าอกฉันกำลังฉีกออก
เหมือนว่าร่างกายฉันเป็นแค่ภาชนะเก่า ๆ ที่ถูกบดขยี้จนแหลกลาญ ไร้การประกอบกลับ มีค่าเพียงแค่เผาทิ้งเท่านั้น ฉันไม่เคยรู้เลย ไม่รู้เลย เพราะแบบนั้นเลยไม่ได้เตรียมใจมาก่อน
อื๊อออ
เสียงที่ลอยออกมาทำให้ท่อนขาของฉันหยุดชะงัก หัวใจฉันเต้นเร็วดังกลองเพลที่ถูกรัวตีกระหน่ำ ห้องไม่ได้ล็อกไว้เพราะมีปลายพรมเช็ดเท้ากันมันไว้ ฉันหอบหายใจราวกับว่ากำลังจะขาดใจตาย ไม่กล้าแม้แต่จะเปิดประตูเข้าไป
“เปิดเถอะ ได้ยินกับหูยังแกล้งโง่ต่อได้เหรอ” เลโอพึมพำบอก
“นายรู้”
“ถึงไม่รู้แต่ได้ยินแบบนี้ ฟังไม่ออกเหรอว่าพวกแม่งทำอะไรกัน”
ฉันกำมือแน่นจนจิกเข้ากับเล็บ ในหัวตื้อตันจนคิดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนก้มหน้าไม่กล้าแตะประตู
“เราเปิดให้”
ฉันกัดปากจนเจ็บช้ำขณะที่กันย์เป็นคนดันประตูเข้าไปอย่างเงียบเชียบ เสียงที่ลอยลอดผ่านประตูไปชัดเจนจนฉันตัวชาไปทั้งตัว
อ๊าาาาแอช
แต่ก็อย่างที่เลโอพูดฉันคงไม่หน้าโง่ต่อไปแล้ว
ฉันเดินนำหน้าเลโอและกันย์เข้าไปในห้อง สายตาที่สอดส่ายหาคนทั้งสามสั่นไหวเมื่อไม่เจอในห้องรับแขก แม้กระทั่งบนโต๊ะหนังสือหรือโซฟา
“อ๊าาาา อ๊าแอชตันนนนน”
“มันที่สุดเลยค่ะที่รัก กระแทกแรงกว่านี้อีกได้ไหม”
“อ้าาาาส์”
“อ๊า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ไม่ไหวแล้วววว”
เสียงลมหายใจกึกก้องไปทั่วห้อง ทำให้ฉันไม่ทนฟังอีกต่อไปแม้แต่นิดเดียว ฉันหมุนลูกบิดผลักประตูเข้าไปในห้อง แต่เพียงเหลือบไปที่เตียงก็เห็นร่างของคนทั้งสามกำลังนัวเนียกันอยู่บนเตียงฉัน
แก๊ก!
พรึ่บ!
“หลับตา” ฉันรับรู้เพียงเสียงกระซิบแผ่วเบาของเลโอที่ข้างหู เขาโอบฉันจากด้านหลังและใช้มืออุ่นปิดตาฉันไว้