บทนำ
“ไงคนสวย” เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นจากทางด้านหลัง ฉันจำได้ทันทีว่านั่นเป็นเสียงของแฟนหนุ่ม พลันยิ้มรับอย่างร่าเริงก่อนจะโบกมือทักทายเขา
วันนี้หลังจบคลาสฉันกับกลุ่มเพื่อนพากันนั่งทำการบ้านอยู่ด้านล่าง โดยอลิซกับพรีมนั่งทำรายงานที่ค้าง ส่วนฉัน เลโอ กับกันย์กำลังเขียนใบงานที่ได้มา เสร็จแล้วกันย์จะเอามันไปส่งเอง
“คนสวยนี่หมายถึงแค่ลูกจันทร์ หรือหมายถึงทั้งกลุ่มเหรอออ” อลิซส่งเสียงแซว
“หมายถึงเธอด้วยอลิซ”
คำหยอกเอินของแอชตันทำฉันชะงักไป แต่สิ่งที่ติดใจมากกว่าคือฝ่ามือของเขาที่แตะลงบนไหล่อลิซ เหมือนเชิงห้ามปรามให้เธอหยุดพูดเล่นในเรื่องเหล่านั้น
ไปสนิทกันขนาดนั้นตั้งแต่ตอนไหนนะ
ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อยหากแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไปมากนัก คิดแต่ว่าคงไม่มีอะไร และแสร้งยิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แอชตันนั่งลงข้าง ๆ ฉัน แล้วใช้มือโอบไหล่ไว้ ขณะที่ฉันกำลังเขียนใบงานอยู่ จู่ ๆ คนเจ้าเสน่ห์อย่างเขาก็เอามือมาลูบหน้าฉัน พร้อมกับมองฉันด้วยสายตาชวนสงสัย ฉันได้แต่หรี่ตามองเป็นคำถามอย่างไม่เข้าใจ
“มีอะไรเหรอแอช”
“วันนี้แว่นไปไหน ทำไมที่รักไม่ใส่แว่นคะ” คำพูดหวานเลี่ยนทำให้ฉันขัดเขินนิดหน่อย รู้สึกหน้าร้อนผ่าวเมื่อเพื่อนหันมาทำหน้าล้อเลียน
“ทำไมที่รักไม่ใส่แว่นคะ แหวะ! หวานเวอร์” อลิซนิ่วหน้ากลอกตา ทำท่าอ้วกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะของเพื่อน
“อย่าแซวสิ ดูยัยลูกจันทร์อายม้วนเชียว”
“อิจฉาจังเลยน้าาา”
“นั่นสิ” อลิซตอบพรีมก่อนจะจ้องมองมาที่ฉันกับแอชตัน “น่าอิจฉาจัง”
“ฮ่า ๆ อะไรของพวกเธอเนี่ย”
ฉันส่งเสียงดุแล้วใช้มือดันหน้าแอชตันออก ก่อนที่จะถูกแซวไปมากกว่านี้
แต่พอมองหน้าแอชตันฉันเองก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
ก่อนจะเป็นแฟนกัน แอชตันเป็นเพื่อนที่คณะบริหารอินเตอร์ ส่วนฉันเรียนภาคไทยปกติ ถึงแม้เรียนคนละภาคแต่เราเคยเจอกันในบางวิชาที่ต้องเรียนรวม อยู่กลุ่มงานเดียวกันในตอนปีหนึ่ง หลังจากเขารุกจีบมาเรื่อย ๆ ฉันเองก็ยอมใจอ่อนในที่สุด ยอมให้เขาอยู่ในสถานะแฟนจนครบสองปีวันนี้
แอชตันถือเป็นหนุ่มฮอตเพื่อนเยอะ เป็นที่รู้จักของใครมากมาย ส่วนฉันเป็นคนเก็บตัวที่ทำเอาเพื่อนเหวอว่ามาคบกันได้ยังไง
ซึ่งฉันก็งงตัวเองเช่นเดียวกัน
“ตกลงว่าแว่นไปไหน เพ่งกระดาษจนตาจะติดโต๊ะอยู่แล้ว” แอชตันดีดหน้าผากฉันก่อนจะขมวดคิ้ว ฉันเม้มปากเพิ่งรู้ตัวว่าทำอย่างที่เขาพูดจริง ๆ ก็คนมันสายตาสั้นนี่ แต่ฉันไม่ชอบใส่แว่นเพราะรู้สึกว่ามันเกะกะ จะใส่คอนแท็กต์เลนส์ก็ตาแห้ง
“เอ...น่าจะอยู่ในกระเป๋านะ เดี๋ยวหาแป๊บนึง”
“มาสิเดี๋ยวฉันหาให้”
“น่าจะอยู่ในกระเป๋าเล็กนะ อ๊ะ! เดี๋ยวนะแอชอย่าเพิ่ง เอาคืน...” ฉันบอกหลังจากยื่นกระเป๋าให้แอชตัน แฟนหนุ่มหน้าหล่อรับมันไป แต่ฉันดันลืมว่าซ่อนของที่เตรียมมาให้เขาไว้ในกระเป๋า
แอชตันไม่ฟัง เขากระตุกมุมปากแล้วรื้อกระเป๋าฉัน หยิบกล่องใส่แว่นออกมาวาง
“อย่านะแอชตัน”
“ซ่อนอะไรไว้ ของกิ๊กรึเปล่าลูกจันทร์”
“ฉันไม่มีกิ๊กหรอกน่า เอาคืนมานะแอชตันนายมันขี้โกง” ฉันร้องว่าเขาก่อนจะตามไล่ตะครุบกระเป๋าจากคนขี้ขโมย พอเห็นปฏิกิริยาฉันแอชตันก็เหมือนจะรู้ทัน
“ทำแบบนี้ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปกันใหญ่”
“ไม่มีอะไรจริง ๆ นะ” ฉันโบกมือปฏิเสธพยายามจะแย่งกระเป๋ากลับมา
“เดี๋ยวนี้หัดมีลับลมคมในเหรอ”
เขาวิ่งอ้อมโต๊ะแล้วเทกระเป๋ากลางโต๊ะเพื่อเอาของข้างในออกมา แวบหนึ่งฉันเห็นเลโอขมวดคิ้วปัดของออกแล้วก้มเขียนต่อ สีหน้ารำคาญใจของอลิซกับพรีมทำให้ฉันเกรงใจไม่เบา ฉันจึงได้แต่เรียกแอชตันอย่างอ่อนอกอ่อนใจ
“แอชตัน…”
“ไหนดูซิ...อันนี้นี่เอง ของฉันเหรอ”
แอชตันหยิบกล่องสีน้ำเงินที่ผูกริบบิ้นไว้ออกมาดู มันเป็นแหวนที่ทำเป็นชื่อฉันและเขาในตัวเขียนเป็นรูปหัวใจเล็ก ๆ ล้อมพลอยเม็ดเล็กด้านใน
“อื้มมมใช่ ชอบไหม”
“สวยดี ขอบคุณนะ”
“ฉันว่าจะให้นายตอนไปกินข้าวด้วยกันซะหน่อย นายดันเอามาเปิดตอนนี้หมดกันความโรแมนติก” ฉันบ่นเบา ๆ มองแอชตันเก็บของเข้ากระเป๋า
“ว่าแต่เนื่องในโอกาสอะไรเหรอ”
“...”
“วันนี้ไม่ใช่วันวาเลนไทน์ซะหน่อย” แอชตันขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหยิบแหวนไปหย่อนใส่กระเป๋าเสื้อที่อกตัวเอง
“ก็วันนี้วันครบรอบนี่”
“เหรอ”
แอชตันนิ่วหน้ายิ้มขำ เขาทำหน้าคิดไปนิดหนึ่งก่อนจะบอกฉันราวกับหนักใจ
“บอกแล้วไงว่าฉันไม่สนใจวันอะไรพวกนี้น่ะ...ฉันกำลังจะมาบอกเธอพอดีว่าวันนี้ขอไปเตะบอลกับเพื่อน ที่รักจะงอนไหม” เขาเดินมาโอบฉันทำเสียงออดอ้อน ซึ่งฉันเองก็ไม่คิดจะแสดงท่าทีงี่เง่าต่อหน้าคนอื่น ๆ จึงได้แต่นั่งลง
“ไม่งอนหรอกไปเถอะ”
“จริงเหรอ”
“อื้อ” พอได้คำตอบจากฉันแอชตันก็ยิ้มทั้งดวงตาก่อนจะจุ๊บขมับฉันเร็ว ๆ เหมือนว่าจะลืมเรื่องที่อยากให้ฉันใส่แว่นไปซะสนิท คำบอกลาเร็ว ๆ ทำให้ยังมึนงงไม่หาย แอชตันกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปทิ้งให้ฉันนั่งนิ่งอยู่กับที่
อะไรของเขานะ
“ไม่เป็นไรนะแก แอชตันนี่โคตรห่วยเลยไปเตะบอลเนี่ยนะ” อลิซพูดขึ้นก่อนจะดึงฉันเข้าไปปลอบ ฉันขมวดคิ้วก่อนจะส่ายหัวเบา ๆ
“ไม่เป็นไรหรอกเขาก็เป็นแบบนี้ตลอดนั่นแหละ”
“เป็นฉันเลิกคบไปแล้ว ติดเพื่อนแบบนี้” พรีมย้ำอีกคน แต่เป็นฉันเองที่ยิ้มกว้างแก้ตัวแทนเขา
“แหมก็ต้องอยู่กับเพื่อนมั่งสิ งั้นวันนี้ฉันอยู่กับพวกแกนะ”
“ดีเลยลูกจันทร์ ฉันเองก็อยากไปกินไอติมร้านนั้นพอดี” อลิซยื่นมือแตะไฮไฟฟ์กับฉันเป็นเชิงปลอบใจ ถึงจะรู้สึกขุ่นมัวแค่ไหนฉันเองก็ได้แต่หัวเราะไปกับเพื่อนในกลุ่ม เก็บความรู้สึกน้อยใจไว้ไม่คิดจะเอามันออกมาให้ใครเห็น
ฉันหันไปหาผู้ชายอีกสองคนในกลุ่ม “ไปด้วยกันไหมเลโอ กันย์”
“ฉันน่าจะไม่ว่างนะ”
“นะ ๆ ๆ ไปด้วยกัน” ฉันเบะปากทำตาเศร้าพร้อมกะพริบตาวิ้ง ๆ เปล่งประกายให้เลโอกับกันย์
“ถ้าไอ้เลโอไปฉันไป” กันย์ตอบอย่างยอมแพ้
“เฮ้ออออก็ได้”
ในที่สุดแล้วเลโอก็รับปาก เขาพยักหน้ารับหลังจากที่ฉันยกมือถูกันใต้คางเว้าวอนจนเขายอมไปด้วยกัน