08.40 น.
“ฉันตื่นเต้นอะ นายว่าพ่อแม่จะแปลกใจไหม”
“ของเธอไม่รู้ แต่ของฉัน ฉันว่าพ่อแม่น่าจะดีใจมากกว่าแปลกใจ เพราะทุกวันนี้ก็เรียกเธอว่าลูกสะใภ้อยู่ละ จำไม่ได้เหรอ ของเธอเป็นลูกสะใภ้ตั้งแต่ฟันเธอหลออยู่เลยนะ”
ผมหัวเราะออกมาเบาๆ หลังจากตอบยับตัวแสบกลับไป เพราะตอนที่เป็นเพื่อนกันแม่ก็จองร่างบางเป็นลูกสะใภ้อยู่ละ เรียกลูกสะใภ้ตั้งแต่ผมจำความได้ ตั้งแต่ยังนี่ถักเปียสองข้างฟันน้ำนมข้างหน้าหายไปอะ
“ไอ้บ้าบอย เปรียบเทียบอย่างอื่นก็ได้ค่ะ แต่ละอย่างเนาะ”
ฉันใช้มือตีที่แขนของเขาหลังได้ยินไอ้บ้านี่เขาพูดออกมา แล้วช่วงอื่นมีให้จดจำนางก็ไม่พูดถึง มาพูดถึงตอนที่ฉันฟันหลุด อ่อ ตอนนี้ฉันเดินทางกลับมาเที่ยวที่บ้าน ซึ่งปกติเดือนหนึ่งก็จะกลับมาเที่ยวบ้านสองครั้ง เพราะจากกรุงเทพฯ มาที่บ้านของฉันกับเขาก็ใช้เวลาขับรถไม่นาน แต่ถ้าพ่อแม่รู้ไม่รู้ว่าท่านจะแปลกใจไหมที่ฉันสองคนคบกัน พอมาถึงหน้าร้านขายต้นไม้ของฉัน คือข้างหน้าเป็นหน้าร้าน ถ้าเดินไปด้านหลังก็จะเป็นบ้านของฉันเอง ซึ่งตอนนี้พ่อกับแม่ของฉันก็กำลังคุยกับลูกค้าที่เดินทางมาซื้อต้นโดยมีพนักงานกระจายกันไปในแต่ละจุด แล้วของฉันมีตั้งแต่ต้นไม้ตั้งโต๊ะแบบน่ารักๆ ไปจนถึงต้นที่ใหญ่มากๆ ขายให้ลูกค้าที่สนใจ พื้นที่ก็กว้างมากพอสมควร ฉันลงจากรถพร้อมคนตัวสูงก่อนจะยกมือไหว้คุณพ่อกับคุณแม่
“พ่อ แม่ สวัสดีค่ะ”
“คุณลุง คุณป้า สวัสดีครับ”
“สวัสดีจ้า ยายแยม จะกลับบ้านทำไมไม่บอกแม่ก่อนล่ะ แล้วนี่กินข้าวกันมาหรือยัง ไปๆ เข้าไปกินข้าวกันก่อน ก้อย ก้อยเอ๊ย”
“คะ แม่ใหญ่”
“ดูหน้าร้านด้วยนะ หากมีอะไรก็ไปเรียก แม่จะเข้าบ้านสักหน่อย”
“ได้จ่ะ”
ผมยิ้มให้คุณลุงกับคุณป้าที่ตอนนี้กำลังสั่งงานพนักงานจากนั้นก็ชวนผมสองคนเข้าบ้าน ในจังหวะที่กำลังจะพากันเดินไปรถของพ่อผมก็ขับเข้ามาจอดพอดี เพราะผมคุยกับพ่อแม่เอาไว้แล้วว่าให้มาคุยกับผู้ใหญ่ฝั่งยัยตัวแสบ เลยนัดเจอกันที่บ้านของร่างบาง เมื่อเห็นกันผู้ใหญ่ก็ทักทายกัน เพราะครอบครัวของผมทั้งสองคนค่อยข้างจะสนิทกันมากๆ
“อ้าว ก็ว่ารถใครคุ้นๆ รถของเอ็งนี่เอง ไปๆ เข้าบ้านกันก่อน”
“ป้ากุ้ง ลุงขุน สวัสดีค่ะ”
“ไหว้พระเถอะลูก แล้วลุงป้าอะไรกัน เรียกพ่อกับแม่ได้แล้ว”
ฉันยิ้มให้คุณลุงคุณป้าจากนั้นก็พากันเดินเข้ามานั่งในห้องรับแขกภายในบ้าน พอแม่บ้านยกน้ำและขนมมาวางให้คุณลุงคุณป้าก็เริ่มพูดคุยกับพ่อแม่ของฉัน
“วันนี้เรามาแบบเป็นพิธีหน่อยนะ พ่อดีไอ้ลูกชายเทวดาของเราว่าจะขอคบกับหนูแยม โทรมารบเร้าให้มาพูดคุยแล้วก็เป็นเชิงขออนุญาต ไอ้เราก็คนเคยเห็นกันอยู่ แล้วเรากับพี่ขุนก็รักหนูแยมเหมือนลูกสาวมานานแล้ว วันนี้ก็เลยมาบอกกับทางนี้ด้วยตัวเอง”
“อ่อ หึหึ ไอ้เรื่องนี้เรากับพี่ก้องไม่ได้ติดใจหรือห้ามปรามอะไร เรื่องรักกันให้เด็กเขาตัดสินใจกันเอง เราเองก็เอ็นดูเจ้าบอยมาตั้งแต่เด็ก เห็นเป็นลูกเป็นหลาน หากเจ้าแยมคบกันกับพ่อบอยเรากับพี่ก้องยืนดีเสียด้วยซ้ำ”
“หึหึ อืม ใช่ๆ แต่ว่า ลูกสาวลุงแสบสักหน่อยนะ มีคนเดียว ตามใจมาเยอะ เราอาจจะหัวหมุนบ้างบางครั้งนะ แล้วกล้าพูดแล้วรึ ลุงคิดว่าต้องรอไปอีกนานนะเนี่ย”
ก้องเกียรติพูดกับชายหนุ่มตรงหน้าอย่างอารมณ์ดี เพราะหากว่าลูกสาวของเขามีคนดูแลเป็นเจ้าบอยที่เห็นที่รู้จักกันก็ทำให้เขากับภรรยายินดีมากเสียอีก เพราะก็มีแต่เจ้าบอยที่เขาฝากฝังให้ช่วยดูแลลูกสาวมาตั้งแต่เด็ก แล้วเขากับภรรยาเองก็อาบน้ำร้อนมาก่อน คิดว่าสายตาของคนเองไม่น่าจะมองพลาด ว่าเจ้าบอยชอบลูกสาวของตนเองมาตั้งนานแล้ว เลยเป็นเรื่องที่เขากับภรรยารู้อยู่ภายในใจมานานแล้ว
”ครับคุณลุง เพิ่งกล้าครับ เป็นใบ้มาตั้งนาน”
“ฮ่าๆ”
“รักกันแล้วก็เป็นเรื่องที่ดีแล้วลูก เมื่อรักแล้วก็ต้องใส่ใจกันและกันให้เหมือนวันแรกที่รู้สึกรักกันนะลูกนะ รักแบบนี่เรารักนี่แหละ ไม่ต้องไปเอาตามคู่ใครเขา คู่ใครก็คู่มัน ค่อยๆ ประคองกันไป ไม่ต้องรีบร้อน”
“ครับแม่”
“ค่ะแม่”
“งั้นวันนี้เป็นวันดี เราทำอาหารกินกันเถอะ เดี๋ยวเราเป็นเจ้ามือเอง”
“ไม่ได้ มาบ้านเราต้องเป็นเราสิ”
“งั้นคนละครึ่งแล้วกัน เราไปตลาดกันเถอะ ตลาดเช้ายังเปิดอยู่”
“ปะ น้องแยม หนูอยู่บ้านนะลูก แล้วอย่าแกล้งพ่อบอยเขาล่ะ”
“พ่อดูแม่สิคะ แม่เริ่มลำเอียงแล้วค่ะ“
”พ่อว่าแม่เอียงมานานแล้วนะลูก“
”คิกๆ“
”ฮ่าๆ“
ฉันพากันหัวเราะออกมาจากนั้นพ่อๆ และแม่ๆ ก็พากันไปตลาดเช้า แล้วไปด้วยกันแบบนี้วันนี้พุงกลางแน่ๆ แตนแรกก็ตื่นเต้นนะ แต่พอทุกอย่างดีแบบนี้ความกังวลก็หายไป
“นี่นายว่า ครอบครัวเราสงบสุขเกินไปไหม ทุกคนไม่แปลกใจเลยเหรอ”
“ฉันว่าพ่อแม่รู้แล้วแหละว่าฉันชอบเธอมานาน เธอคิดว่าผู้ใหญ่จะมองไม่ออกเหรอ เฮ้ออ นอนเล่นดีกว่า”
“นอนเล่นอะไร ไปช่วยกันขายของค่ะ”
“ขายของอะไรวะ”
ผมล้มตัวนอนลงบนโซฟาตัวยาวโดยที่หนุนตักยัยตัวแสบเอาไว้ เออ ขับรถมาพอได้ล้มตัวนอนค่อยสบายหน่อย พอได้ยินเมียพูดขึ้นมาผมเลยถามร่างบางออกไปแบบงงๆ
“ก็ไปขายต้นไม้ไง มีเมียเปิดร้านต้นไม้นายจะขายตามสั่งหรือไงล่ะ”
“ไม่ไปเว้ย ขี้เกีียจ”
ฉันมองไอ้คนตัวสูงที่ตอบกลับมาแบบกวนๆ ฉันเลยใช้มือบีบจมูกของนายนี่เอาไว้ก่อนจะใช้มือดันศีรษะของเขาให้ขยับออก เพราะฉันไม่อยากนั่งอยู่เฉยๆ อยากไปดูต้นไม้แล้วก็ไปช่วยพี่ๆ เขาขายต้นไม้ดีกว่า แต่นายนี่ไม่ยอมจ่ะ เลยกลายเป็นว่าตั้งเวทีกันอยู่ในตอนนี้
“นี่ ลุกเลย นายจะนอนก็นอนไปเลย ฉันจะไปข้างนอก”
“ไม่ ฉันเป็นผัวเธอนะเว้ย ผัวอยู่นี่เธอก็ต้องอยู่กับฉันดิวะ ออดอ้อนผัวอะ รู้จักปะ”
“ไม่เอาอะ ฉันจะไปหาเงินซื้อขนม”
“ค่าขนมเธอเท่าไหร่วะ สองแสนพอปะ ฉันโอนให้เลย ให้เธอนั่งอยู่นี่”
ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาพร้อมถามยังตัวแสบที่กำลังพยายามดันผมออก แล้ววันหยุดผมก็อยากพัก ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นแหละ เวลาอยู่บ้านนอกจากนอนผมก็ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น
“นี่นายคิดว่าใช้เงินฟาดฉันได้เหรอห๊ะ”
ฉันใช้มือบีบแก้มของเขาเข้าหากันแล้วก็ถามออกไปด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เอาเรื่อง แล้วบางคนบอกว่าโกรธไหม คู่อื่นไม่รู้ แต่คู่ฉันไม่นะ พูดคุยกันอย่างนี้เป็นปกติ คือก็เหมือนที่แม่ฉันบอก คู่ใครก็คู่นั้น ฉันกับเขาก็เป็นเหมือนเดิมนี่แหละ
“แล้วฟาดได้ปะล่ะ เพิ่มให้อีกแสนหนึ่งด้วย เร็วเลยนะเว้ย โปรโมชั่นนี้จำกัดเวลา ถ้าเลยเวลานี้จะสองแสนนะจะบอกให้”
“แล้วนายจะชักช้าทำไม ก็โอนมาเลยสิ”
“ฮ่าๆ ยัยงกเอ๊ย ดูท่าเมียกูคงจะเค็มกว่าเกลืออีกมั้ง”
“คิกๆ ไอ้บ้า ฉันดูโหนกระแสย้อนหลังดีกว่า”
”เดี๋ยวฉันทักหาพวกไอ้เจก่อน ไม่เจอมันนานละ”
“อืมๆ”
ผมทักหาเพื่อนเก่าในกลุ่มไลน์ที่คุยกันแทบจะทุกวัน แล้วพวกมันก็เรียนต่อแถวบ้าน แล้วเพื่อนผมที่ไปเรียนมหาลัยด้วยกันวันนี้พวกมันไม่ว่าง จะพากันตามมาพรุ่งนี้ โดยที่เมียผมมันโดนพี่หนุ่มดูดไปละ แม่งดูจริงจัง ดูทุกอีพี ดูหมดแล้วก็วนดูตอนเดิมๆ พอพิมพ์บอกเพื่อนเสร็จผมก็หันมาดูโหนกระที่เมียผมกำลังดู
“แม่งดูก็รู้ว่าโกหก คนแม่งก็ยังเชื่อเนาะ”
ฉันละสายตาจากทีวีมามองคนตัวสูงที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย อ่อ อีพีที่ฉันดูมันเป็นข่าวหมอดูที่หลอกเอาเงิน แล้วตอนนี้ผัวฉันก็มีส่วนร่วมแบบสุดๆ ฉันเลยหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะใช้มือสอดไปในผมของเขาแล้วก็ลูบเล่นเบาๆ
“ก็คนเรามีความเชื่อที่ต่างกันปะ”
“หน้าตามันน่าเชื่อถือตรงไหนวะ ทรงแม่งมิจฉาชีพชัดๆ”
“ใครจะเหมือนนายล่ะ มีหมอดูทักว่าดวงตกให้ทำบุญกับเขา นายตอบว่าอะไรนะ”
“อ่อ ดวงไม่ตกหรอกครับ หมอดูอีกคนทักผมมาว่าดวงขึ้นแบบสุดๆ แม่งใบ้แดกไปเลย”
“คิกๆ นายก็ไม่ไว้หน้าเขาเลยเนาะ”
ผมหัวเราะตามยัยตัวแสบออกมาเมื่อนึกถึงตอนที่อยู่มัธยมแล้วมีคนเดินเข้ามาทัก แล้วอะไรพวกนี้ผมไม่เชื่ออะ ดวงเรามันอยู่ที่ความคิดเรานี่แหละ เข้าวัดทำบุญ หรือไม่ก็ทำบุญกับสถานรับเลี้ยงเด็กแบบนั้นผมทำนะ แต่จะไปทำเองถึงที่ ไม่ใช่ทำผ่านหมอดู
“ก็มันจริงนี่หว่า มันมีของจริงไม่กี่เปอร์เซ็นหรอก มีแต่ไอ้พวกที่หลอกลวง ถ้ามันรู้จริงมันต้องรู้อนาคตมันเองด้วย ตัวมันยังหาเงินจากตรงนี้อยู่เลย จะไปช่วยใครให้รวยได้”
“ใจเย็นๆ ลุกเลย ฉันจะไปปลูกบัว”
“ปลูกทำไม”
“เอ้า ก็ฉันอยากปลูกอะ นายไม่ไปงั้นก็นอนอยู่นี่แล้วกัน“
“เรื่องเยอะ ไป ลุก ฉันต้องช่วยเธอทำใช่ไหม”
“แล้วนายคิดว่าไงล่ะ”
“ก็ต้องทำไง โอนเงินคืนมาเลยนะเว้ยยัยสลอธ เธอหลอกลวงผัวนี่หว่า”
“คิกๆ ไม่เว้ย ทำแป๊บเดียว เดี๋ยวพามานอน”
“เออ งั้นไป วันนี้สามน้ำ”
“ทีงี้เร็วเลยนะ”
“ก็เออดิ ไปเปลี่ยนกางเกงก่อน”
ผมดึงยังตัวแสบขึ้นมาบนห้องนอนจากนั้นก็เปลี่ยนจากกางเกงยีนส์ขายาวมาเป็นกางเกงขาสั้นคู่กับเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว เพราะตอนต้องกลายเป็นคนสวนรับใช้คุณนายเขา แล้วอารมณ์ไหนของมันก็ไม่รู้ นึกอยากจะปลูกบังขึ้นมา แต่ถามว่าขัดใจมันได้ไหม ถ้าได้ผมก็คงไม่ขึ้นทาเปลี่ยนชุดหรอกครับผม พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยผมก็พากันเดินมาที่หน้าร้านขายต้นไม้ จากนั้นเมียมันก็สั่งให้พนักงานขนอิฐประสาน ดินเหนียว แล้วก็ต้นดอกบัวไปสิบกว่ากระถาง
“เอาไว้ตรงนี้เลยค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“ให้พวกพี่ช่วยไหมคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวแยมทำกับบอยเองค่ะ”
“ค่ะๆ ถ้ามีอะไรเรียกพวกพี่ได้นะคะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ฉันยิ้มให้พี่ๆ พนักงานในร้าน เพราะขาวเสาร์อาทิตย์ลูกค้าจะเยอะ เลยไม่อยากรบกวนพี่เขา อีกอย่างทำแค่สองคนก็ทำได้แล้ว ฉันสวมถุงมือช่างสีขาวจากนั้นก็จะหันไปยกอิฐ แต่ได้ยินเสียงของคนตัวสูงห้ามเอาไว้ก่อน
“ไม่ต้องยก เดี๋ยวทำเอง เธอจะทำมันยังไง ต้องฉาบปูนด้วยไหม”
“ไม่ต้อง แค่เอาอิฐวางเรียงกันทำให้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าใบอะ กว้างกับยาวพอสมควร แล้วก็เอาผ้าใบอันนี้วางลงไปใช่ปะ แล้วก็เอาอิฐทับตรงขอบผ้าใบ ใส่ดิน เปิดน้ำ เอาบัวลง แค่นี้ก็จบแล้ว ถ้าดอกบัวมีดอกเยอะๆ คงจะสวยน่าดู”
“วันที่ฉันขอเธอเป็นแฟนแม่งน่าจะใช้ดอกบัวแทนกุหลาบนะ”
“เออว่ะ ไม่เหมือนใคร แต่นายจะเอาดอกบัวมาบูชาฉันหรือไง”
“หึหึ เออ ด้วยรักแล้วบูชาไง ถ้ามีพานฉันจะอัญเชิญเธอขึ้นหิ้งแล้วนะ”
“ไอ้บอย ไอ้บ้า”
ฉันหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ แล้วฉันเป็นคนที่ชอบดอกบัวจริงๆ อะ อีกอย่างฉันมีแพลนว่าจะปลูกเพื่อเอาไว้ขาย เพราะตอนนี้ฉันก็ใกล้จะจบแล้ว ถ้าไม่ได้ทำงานอย่างน้อยก็หาขายต้นไม้ดอกไม้ทางโซเซียล เป็นการต่อยอดธุรกิจของทางบ้าน จะให้คนตัวสูงหาเงินอย่างเดียวมันก็ยังไงอยู่ ช่วยกันหา แล้วฉันเองก็ไม่อยากอยู่เฉยๆ ซึ่งตอนแรกฉันก็ว่าจะหากิจกรรมทำ เป็นกิจกรรมคู่รักเบาๆ แต่ไม่ใช่ คนตัวสูงก็คือบอกให้ฉันยืนเฉยๆ ส่วนเขาเป็นคนที่ทำเองทั้งหมด โดยที่ฉันเป็นคนสั่งการ ฉันเลยเท้าเอวก่อนจะพูดกับเขาออกไปด้วยความที่ไม่พอใจเล็กน้อย
“นี่ นายทำคนเดียวเลยอะ ฉันอยากทำบ้าง”
“เธอจะทำให้มันเหนื่อยทำไมวะ มีผัวทำให้ไม่ดีหรือไง”
ผมกำลังเอาก้อนดินเหนียววางลงไปในผ้าใบ ที่ตอนนี้มันเป็นเหมือนอ่างนั่นแหละ ความยาวความกว้างก็เท่าที่เมียผมมันพอใจ แล้วพอเงยหน้าขึ้นมากก็เห็นว่ายัยตัวแสบหน้าหักเป็นปลาทูไปละ
“แต่ฉันอยากทำด้วย”
“เออ ค่อยทำตอนเอาบัวลงน้ำ เดินไปดึงสายยางมาแล้วก็คอยเปิดน้ำ มันต้องเอาน้ำใส่ก่อนใช่ไหม”
“ฉันว่าเราเอาบัวลงก่อนดีกว่า เปิดน้ำให้ดินมันอ่อนตัวแล้วก็เอาดินกลบรากบัวแล้วค่อยเปิดน้ำใส่”
“อืม งั้นไปเอาสายยางมา”
“โอเค”
ฉันตอบคนตัวสูงกลับไปแบบสาวอารมณ์ดีเหมือนไม่เคยเถียงกับแฟนมาก่อน เออ ให้ฉันทำอะไรบ้างอารมณ์ค่อยดีขึ้นมาหน่อย จากนั้นฉันกับคนตัวสูงก็เริ่มนวดดินกับน้ำ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเขานั่นแหละ ส่วนฉันก็ขย้ำน้องเล็กน้อย พอดินอ่อนแล้วก็เอาบัวในกระถางมาลงสิบกระถาง ระยะห่างกันก็ประมาณ 50 เซ็น เผื่อมันขยาย พอลงเสร็จฉันก็เปิดน้ำใส่แล้วเก็บของเข้าที่และชื่นชมผลงานการปลูกบัวในวันนี้ บางต้นน้องก็มีดอกแล้วด้วย
“เห้อออ ถ้านอกกระจายจนแน่นท่าจะดีมาก”
“ครับคุณนายบัวคลี่ ไปล้างมือเข้าบ้าน จะเข้าไปนอนแล้ว หาทำไปเรื่อย”
“นายมันไม่อินกับธรรมชาติและความสวยงาม”
“เออ ฉันไม่อินกับอะไรทั้งนั้นแหละ นอกจากเอาเมีย“
“ไอ้หื่นเอ๊ย”
ผมพากันมาล้างมือล้างขาแลว้ก็เดินเข้าบ้าน พอเดินเข้ามาพ่อแม่แล้วก็เพื่อนผมมาพอดี ยับตัวแสบเลยไปช่วยแม่ทำกับข้าวในครัว ส่วนผม พ่อ แล้วก็พวกไอ้เจพากันมาตั้งวงกินเหล้าที่โซนนั่งเล่นของบ้าน