#เดย์เจ้าเอย 4

1390 Words
#เดย์เจ้าเอย 4 “โอ๊ะ ๆ นั่น ๆ นั่นพี่เดย์กับเพื่อนนี่” โพธิ์ทักขึ้นอย่างตกใจ ฉันที่ยังไม่ทันจะได้หันไปมองก็ตกใจเมื่อกลุ่มคนพวกนั้นนั่งลงที่โต๊ะข้าง ๆ ฉันเหลือบตามองก็เห็นว่ามีพี่เดย์และมีผู้ชายอีกสามคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคน คนเหล่านั้นจ้องฉันตาไม่กระพริบเลยส่วนผู้หญิงที่นั่งข้างพี่เดย์กำลังมองฉันอย่างไม่ชอบใจอยู่เช่นเดียวกัน พี่ผู้หญิงคนนั้นหน้าคุ้น ๆ เหมือนรุ่นพี่ที่คณะเลยล่ะแต่ฉันนึกชื่อไม่ออก พี่เดย์เดินเข้ามาใกล้และยืนข้าง ๆ ฉันแต่สายตากลับมองเพื่อนฉันและแฟนเพื่อนฉันแทน “จะรังเกียจไหมครับถ้าจะขอรวมโต๊ะ” “ไม่ค่ะ!” ทั้งวิสาและโพธิ์ต่างตอบพร้อมกัน แฟนโพธิ์กลับหัวเราะอย่างสนุกแทนแต่ที่ตอบตกลงไปน่ะทำไมเพื่อนไม่ถามฉันบ้างเลยล่ะ “ขอโทษนะครับช่วยต่อโต๊ะให้หน่อยได้ไหมครับ” พี่เดย์เอ่ยถามพนักงานอย่างสุภาพ ไม่ถึงห้านาทีเราก็รวมโต๊ะกันสำเร็จ จะมีมุมหนึ่งที่ต้องนั่งสองคนและแน่นอนว่าพี่เดย์จับฉันนั่งตรงนั้นและเขาก็ตามเข้ามานั่งด้วย ส่วนที่เหลือก็เพื่อนฉันและเพื่อนที่เดย์ก็จัดแจงที่นั่งกันเอง “สวัสดีครับพี่ชื่อฟาสนะครับ นี่ไอ้พาร์ค ไอ้มอนแล้วก็องุ่น องุ่นเรียนบริหารเหมือนน้อง ๆ เลยนะ” “สวัสดีค่ะพี่ ๆ หนูวิสาค่ะ นั่นโพธิ์แล้วก็พี่กายค่ะแฟนโพธิ์ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” “ยินดีเช่นกันครับ ส่วนน้อง...” พี่ฟาสเหล่ตามองฉันรวมถึงเพื่อนพี่เดย์คนอื่นๆ “สวัสดีค่ะ เจ้าเอยค่ะ” “ว้าวน้องเจ้าเอยสินะ” พวกพี่เขาทำหน้าทำตาแปลก ๆ ระหว่างที่มองพี่เดย์ไปด้วย พวกเขาเป็นอะไรกันมีอะไรเข้าตาอย่างนั้นหรือเปล่า “พอ! อย่ามองน้องแบบนั้นสั่งอาหารไปหรือยัง” พี่เดย์ดุเพื่อนเขาก่อนจะขยับปากถามฉันโดยที่สายตายังจ้องที่เมนูอยู่ “สั่งแล้วค่ะ” “เดย์สั่งอะไรเหรอเราเอาเหมือนเดย์เลยนะ” พี่องุ่นถามพี่เดย์เสียงหวานทั้งยังเอียงตัวเข้ามาชิดกับพี่เดย์เพื่อดูเมนู เอ หรือว่าฉันจะนั่งผิดที่นะตรงนี้ควรจะให้พี่องุ่นมานั่งหรือเปล่า คิดเองก็เจ็บเองไหนจะอาการปวดหนึบ ๆ ที่ใจเมื่อคิดว่าทั้งสองคนช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน “จะไปไหน” พี่เดย์เงยหน้าถามท่อนแขนก็ยกโอบเอวฉันไม่พอเขายังรั้งให้ฉันนั่งชิดอยู่กับเขาอีก “จะดูรูปกับเพื่อนค่ะ” “เดี๋ยวค่อยดูเลือกช่วยพี่ก่อน” พี่เดย์เลื่อนเมนูมาตรงหน้าฉัน โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่ามีใครอีกคนพยายามเอียงหน้าเข้ามาดูเมนูกับเขา “พี่สั่งเถอะค่ะแล้วแต่พี่เลย” “งั้นเราสั่งอะไรพี่เอาอันนั้น” พี่เดย์บอกอย่างดื้อดึง ฉันไม่อยากมองหน้าเขาเลยจิ้มไปที่เมนูมั่ว ๆ พี่เดย์หัวเราะอย่างสนุกก่อนจะหันไปสั่งพนักงานที่รอรับเมนู “เอาชามะนาวแบบรีฟิลนะครับ” “เอาเหมือนกันอีกที่ค่ะ” เสียงพี่องุ่นบอกพนักงาน เป็นแฟนกันก็ต้องกินอะไรเหมือน ๆ กันสินะ บ้าจริง ฉันอยากร้องไห้จัง ระหว่างที่นั่งรออาหารฉันก็เบี่ยงตัวหันหลังให้พี่เดย์ แล้วหันหน้าไปหาเพื่อนตัวเองพยายามคุยกับเพื่อนมากที่สุดเพื่อที่จะได้ไม่มีช่องว่างให้พี่เดย์ได้คุยด้วย ที่จริงเขาคงไม่อยากจะคุยด้วยเท่าไหร่หรอกฉันรู้ “ทุกคนเรามาถ่ายรูปกัน เดี๋ยวพี่จะแท็กทุกคนเองเพิ่มเพื่อนพี่มานะ” พี่พาร์คเอ่ยชวน อยากจะปฏิเสธแต่พอเห็นทุกคนสนุกเลยไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ ฉันไม่เข้าใจอยู่นิดหน่อยว่าทำไมพี่เดย์ถึงต้องขยับตัวเอียงมาเบียดฉันขนาดนั้น “ทำไมไม่มองหน้าเลย” พี่เดย์กระซิบถาม ไม่สนใจเลยสักนิดว่าพี่พาร์ครัวถ่ายรูปมากแค่ไหน ถ้ามีหน้าเหวอจะขำให้ดู ไม่ใช่พี่เดย์นะ ฉันนี่แหละ อย่าเพิ่งชวนคุยได้ไหมคะ! “เดย์มองกล้องสักรูปหน่อยมึง มองแต่น้อง” พี่พาร์คเอ่ยขึ้นเพื่อนเขาหัวเราะเบา ๆ ส่วนเพื่อนฉันยกมือปิดหน้าเขินกันไปตาม ๆ กัน “มองกล้องก่อน” ฉันบอกเสียงอุบอิบ พี่เดย์ยกมือยีผมฉันเบา ๆ ก่อนจะหันกลับไปมองหน้าจอโทรศัพท์ของพี่พาร์คที่ตอนนี้ชูสูงขึ้นเพื่อถ่ายรูปรวมพวกเราไว้ “โอเค เพิ่มเพื่อนพี่มานะเดี๋ยวจะแท็กทุกคนเอง” ฉันเตรียมหยิบโทรศัพท์ออกมาเพิ่มเพื่อนกับพี่ที่ชื่อพี่พาร์ค พี่เดย์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กลับเป็นฝ่ายที่ดึงโทรศัพท์ฉันไปปลดล็อคแล้วจัดการเพิ่มเพื่อนพี่ ๆ ให้จนหมด “กินข้าวเสร็จไปเดินเล่นไหม” “จะไปดูหนังกับเพื่อนค่ะ” ฉันตอบพร้อมกับทำหน้าตื่นเต้นเมื่ออาหารที่สั่งไปถูกนำมาเสิร์ฟ หิวแล้วตอนนี้จะบ่ายโมงแล้วด้วยไม่แปลกที่ฉันจะหิวขนาดนี้ มื้อเช้าก็ไม่ได้กินอะไรเลยตอนนี้เลยรู้สึกหิวมาก ๆ มากถึงมากที่สุดเลยล่ะ “งั้นเหรอ จะไปดูหนังเหรอพี่ขอไปด้วยได้ไหมครับ” นี่มันวันอะไร! ทำไมเขาต้องขอตามไปด้วยทุกที่เลยล่ะ!! “ดะ ได้ค่ะ แต่แบบว่ากินเสร็จหนูขอถ่ายรูปกับพี่ได้ไหมคะ หนูเป็นแฟนคลับพี่” วิสาเอ่ยถามอย่างเกรงใจทั้งยังบิดตัวไปมา ก็ว่าอยู่ทำไมถึงตื่นเต้นตอนที่ถามว่าฉันรู้จักกับพี่เดย์หรือเปล่า “ได้ครับ” “ไปด้วยอยากดูหนังด้วย” เพื่อนพี่เดย์อีกตามเคยที่เอ่ยขอ เหมือนพวกเขาจงใจจะแกล้งพี่เดย์เลยล่ะ “ได้ค่ะ ไปเยอะ ๆ สนุกดี” เพื่อนฉันนี่ยังไง ทำไมถึงยอมให้พวกเขาตามไปง่าย ๆ ล่ะ “ไม่ต้องมาดุทางสายตาเลยนะยัยลูกแมว” วิสาหันมามองก่อนจะเอ่ยอย่างรู้ทัน ก็ฉันอยากไปแค่กับเพื่อนนี่ ฉันยังไม่พร้อมจะเจอหรือคุยกับคนข้างๆนี่นา จะให้เวลาทำใจหน่อยก็ไม่ได้แล้วไหนจะยังมานั่งตัวติดกับฉันอีก ฉันเบ้ปากทำหน้าจะร้องไห้แต่เพื่อนกลับหัวเราะเสียอย่างนั้น นี่พวกมันเห็นความลำบากใจของฉันเป็นเรื่องตลกเหรอ ฉันจะร้องไห้จริง ๆ แล้วนะ “กินได้แล้ว” พี่เดย์บอกมือเขาก็หั่นสเต๊กในจานตัวเองทั้งยังป้อนไม่สิเรียกว่ายัดจะเหมาะกว่า เขายัดเข้าปากฉันโดยที่ไม่สนใจสีหน้าฉันเลยว่าฉันโอเคหรือเปล่า “โทรหาแม่บ้างหรือยัง” แม่เหรอ? กรี๊ด! ฉันลืมโทรหาแม่ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว “ลืม?” พี่เดย์ถามย้ำพอเห็นว่าพยักหน้าเขาก็ส่ายหน้าระอาก่อนจะบอกให้รีบกินต่อ “แล้วหนังจะดูเรื่องอะไร” “คิงคอง” ฉันตอบกลับไปอย่างมั่นใจแต่เสียงเพื่อนที่เอ่ยแก้ทำให้พี่ ๆ หัวเราะลั่น “ก็อดซิลา!” “อย่ามาหัวเราะนะ” ฉันยกมือตีต้นขาคนที่นั่งข้าง ๆ อย่างงอน ๆ ก็เขาหัวเราะไม่หยุดเลยนี่ฉันเองก็อายเหมือนกันนะ “โอ๊ย! ไม่แล้ว ๆ ไม่ขำแล้ว โอ๋พี่ไม่ขำแล้วครับ” พี่เดย์รวบฉันเข้าไปกอดน้ำเสียงยังฟังดูกลั้นขำอยู่เลย ก็คนมันแยกไม่ออกนี่ทำไมต้องมาขำกันแบบนี้ด้วย “กูว่าแปลกจริง อยู่กับน้องนี่คนละคนกับอยู่พวกเรา” “กับคนที่ไม่สนิทนี่นึกว่าเป็นใบ้” “พอมันอยู่กับน้องมันดูพูดเยอะแล้วยังขี้แกล้งอีก” “อยู่กับเราถ้าไม่แกล้งให้มันโมโหมันไม่พูดด้วยนะ แต่นี่อะไรวะ” “กูนึกว่ากูฝันไป” “มึงถามมันซิว่าน้องใช่คนเดียวกับรูปเด็กในกระเป๋าตังค์มันไหม”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD