บทที่ 7

1365 Words
กิจกรรมและเกมต่างๆ รวมทั้งของขวัญมีแจกแบบไม่อั้น เด็กๆ หลายคนต้องเอาของขวัญไปเก็บบนรถ หรือไม่ก็ฝากครูพี่เลี้ยงไว้ ก่อนจะกลับมาเล่นเกมต่ออีกครั้ง ซึ่งกาญต์พิชชาก็เป็นเด็กน้อยหนึ่งในนั้น ที่ได้ทำเฉกเช่นเดียวกันกับเพื่อนๆ ของเธอ แต่มีสิ่งหนึ่งที่กาญต์พิชชาไม่ยอมเฉียดเข้าไปใกล้ในช่วงเช้าก็คือลานสเก็ตน้ำแข็ง เพราะเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาลานสเก็ตน้ำแข็งเต็มไปด้วยบรรดาเด็กน้อยจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ซึ่งล้วนเป็นเพื่อนเป็นน้องของเธอต่างก็เข้าไปเล่นกันอย่างสนุกสนานเต็มลานสเก็ตจนเธอไม่สามารถเข้าไปได้ เมื่อมีคนเล่นเต็มลานสเก็ตก็ใช่ว่ากาญต์พิชชาจะไม่อยากเล่นด้วย แต่เด็กน้อยรอให้คนบางตากว่าในช่วงเช้า เด็กน้อยตั้งใจไว้ว่าจะลองเข้าไปสัมผัสความหนาวเย็นของลานสเก็ต เข้าไปสัมผัสกับกีฬาสเก็ตน้ำแข็ง ซึ่งนักกีฬามืออาชีพได้เล่นอย่างพริ้วสวยงามในช่วงบ่ายๆ และในตอนบ่ายคล้อยบนลานสเก็ตก็เริ่มร้างลาเด็กๆ จากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว กาญต์พิชชาจึงไม่รอช้ารีบเดินเร็วๆ เกือบเป็นวิ่งตรงไปยังลานสเก็ตซึ่งมีทั้งหมดสามลานให้เลือกเล่นตามใจชอบ “ไปเล่นลานไหนดีนะ” กาญต์พิชชาพึมพำถามตัวเองขณะยืนหันรีหันขวางเลือกไม่ถูกว่าจะเข้าไปเล่นสเก็ตลานไหนดี เพราะแต่ละลานต่างก็ดูใหญ่โตกว้างขวางน่าเล่นด้วยกันทั้งนั้น “ลานหนึ่งคนเยอะไปหน่อย ลานสองมีคนมากไปนิด ถ้างั้นก็ไปเล่นลานสามก็แล้วกัน” ไม่รู้ว่าด้วยบุญวาสนาหรือโชคชะตาชักนำพา กาญต์พิชชาได้ตัดสินใจเลือกหลังจากยืนพิจารณาลานสเก็ตทั้งสามลานอยู่นานหลายนาที เท้าเล็กในร้องเท้าแตะกลางเก่ากลางใหม่ พาผู้เป็นเจ้าของเดินตรงไปยังลานสเก็ตลานที่สามตามหัวสมองสั่งการให้เลือกเล่นสเก็ตในลานนี้ “ว้าว! น่าเล่นชะมัดเลย” เด็กน้อยเลือดผสมอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น เมื่อเดินมาถึงลานสเก็ตลานที่สามแล้ว ซึ่งลานสเก็ตดังกล่าวมีคนเล่นอยู่แค่เพียงห้าคนเท่านั้น และด้วยความคิดที่ว่าอยากเล่นสเก็ตน้ำแข็งบนลานที่มีคนน้อยๆ เพื่อตนเองจะได้หัดเล่นได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องไปเบียดเสียดกับคนอื่น กาญต์พิชชาจึงรีบเดินไปหยิบรองเท้าสเก็ตคู่ที่เหมาะกับเท้าเล็กๆ ของตนเองมาคู่หนึ่ง ทว่าไม่ทันสวมรองเท้าสเก็ตตามต้องการ ก็มีเสียงแหลมๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในนักกีฬาทั้งห้าคนที่กำลังเล่นสเก็ตอยู่บนลาน ได้เดินมาใกล้เธอพร้อมกับตวาดลั่นด้วยความไม่พอใจ “หนู! ใครอนุญาตให้มาเล่นสเก็ตบนลานนี้!” “เอ่อ...เอ่อ...ไม่มีใครอนุญาตค่ะ” กาญต์พิชชาอึกอักอยู่นานหลายนาทีกว่าจะเอ่ยตอบออกมาตามประสาซื่อ พอดวงตากลมโตปะทะกับใบหน้างดงามทว่าติดถมึงทึงของนักกีฬาสาวผู้ยืนค้ำหัวตัวเองอยู่ ก็ถึงกับผงะถอยหลังเล็กน้อย ใบหน้าเล็กส่อเค้าความงามลออให้เห็นในยามโตเป็นสาวแรกแย้ม ถอดสีเผือดด้วยความหวาดกลัว “ไปเล่นสเก็ตที่ลานอื่น ลานนี้เขามีไว้สำหรับนักกีฬาสเก็ตมืออาชีพเล่นเท่านั้น” นักกีฬาสาวตวาดเด็กน้อย โดยไม่สนใจใบหน้าเล็กซึ่งถอดสีเผือดทำท่าจะร้องไห้ออกมาให้ได้ “เอ่อ...ลานสเก็ตลานอื่นมีคนเล่นอยู่มากแล้ว ข้าวฟ่างขอเล่นลานนี้ด้วยคนได้ไหมคะพี่สาว” มือเล็กทั้งสองถือรองเท้าสเก็ตไว้มั่น ขณะเอ่ยขอร้องเสียงตะกุกตะกัก กาญต์พิชชาก็ส่งสายตาวิงวอนขอความเห็นใจจากอีกฝ่าย แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกหน้าถอดสีอีกครั้งเมื่อถูกตวาดลั่นแถมได้รับการตอบโต้จากนักกีฬาผู้นี้ด้วยกริยาที่ค่อนข้างรุนแรง “ไม่ได้! เธอจะเล่นสเก็ตบนลานนี้ไม่ได้” นักกีฬาสาวตวาดไล่อย่างคนไร้น้ำใจ พร้อมกันนั้นก็กระชากร้องเท้าสเก็ตออกจากมือของกาญต์พิชชาแล้วโยนทิ้งไปข้างตัว โดยไม่ได้หันไปมองว่ารองเท้าสเก็ตทั้งสองข้างลอยหวีดเกือบโดนผู้ที่กำลังก้าวเท้าช้าๆ ทว่ามั่นคงผ่านมาทางนี้พอดี “ไปเล่นลานอื่น อย่ามาเล่นเกะกะเวลาพวกฉันกำลังซ้อมสเก็ตอยู่” นักกีฬาสาวซึ่งเก่งกาจเรื่องการเล่นกีฬาสเก็ตลีลา ทว่าแล้งซึ่งน้ำใจต่อผู้คนรอบข้างยังคงตวาดไล่กาญต์พิชชาอย่างไร้ความปราณี โดยไม่รู้เลยว่าขณะนี้ผู้เป็นเจ้าของสโมสรเดอะเวิลด์ ออฟ ไอซ์ สเก็ต และมีฐานะเป็นเจ้านายเซ็นเช็คจ่ายเงินเดือนนักกีฬาให้กับเธอในแต่ละเดือน ได้มายืนกอดอกฟังอยู่นานแล้ว ทางด้านของกาญต์พิชชาหน้าถอดสีซีดแทบจะร้องไห้ออกมาให้ได้ ในตอนแรกที่เลือกลานสเก็ตลานนี้เพราะเห็นว่ามีคนเล่นอยู่แค่ไม่กี่คน ซึ่งเธอคงเข้ามาเล่นสเก็ตได้โดยสะดวกไม่ต้องไปเบียดเสียดกับเพื่อนๆ ที่มาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยกัน แต่เด็กน้อยหารู้ไม่ว่าลานสเก็ตที่สามซึ่งมีคนเล่นสเก็ตจำนวนจำกัด แถมยังไม่มีเด็กๆ จากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าย่างกรายเข้ามาเลย ก็เป็นเพราะถูกนักกีฬาสาวผู้นี้ไล่ตะเพิดคนแล้วคนเล่า และกาญต์พิชชาก็เป็นเด็กน้อยคนล่าสุดที่ถูกไล่อยู่ในขณะนี้ กาญต์พิชชาทอดสายตามองไปยังลานสเก็ตด้วยสายตาละห้อยเผยแววเศร้าสร้อยให้เห็น และด้วยเป็นเด็กดื้อเงียบกอปรกับอยากเล่นสเก็ตน้ำแข็งจับใจ แม้จะถูกนักกีฬาแสนสวยผู้นี้ออกปากไล่แล้ว แต่เด็กน้อยก็ไม่ยอมจากไปง่ายๆ ยังคงตื้อไม่เลิก ด้วยการเข้าไปจับแขนขาวเนียนของนักกีฬาผู้นี้พร้อมกับเอ่ยขอร้องเสียงแผ่วเบา “ข้าวฟ่างขออยู่เล่นสเก็ตสักครู่ได้ไหมคะ ข้าวฟ่างเล่นตรงขอบๆ ลาน แถวๆ นี้ก็ได้ค่ะ ข้าวฟ่างสัญญาว่าจะไม่เข้าไปเกะกะพี่สาวแน่นอนค่ะ” “เอ๊ะ! บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้สิ ฟังภาษาคนไม่เข้าใจหรือยังไงกัน ออกไปจากลานสเก็ตได้แล้ว” คราวนี้นักกีฬาสาวไม่ได้ไล่ปากเปล่า ทว่าเธอสะบัดแขนให้พ้นจากการจับกุมของมือเล็ก จากนั้นก็ยื่นมือไปผลักกาญต์พิชชาเต็มแรง จนเด็กน้อยเซถลาไปข้างหลังล้มลงก้นจ้ำบ้ำกับพื้นแข็งๆ ในทันที การกระทำค่อนข้างรุนแรงและไร้มารยาทกับเด็กน้อยตัวเล็กๆ ทำให้ผู้เป็นเจ้า ของสโมสรไม่อาจทนดูได้อีกต่อไป พอเห็นร่างเล็กของเด็กน้อยร่างเล็กเซถลาล้มลงก็รีบก้าวเท้ายาวๆ เข้าไปประคอง พร้อมกับส่งสายตาดุคมกริบจ้องมองเขม็ง แล้วเค้นเสียงเย็นยะเยือกตำหนิเหน็บแนมนักกีฬาที่ไร้น้ำใจผู้นี้ “เท่าที่ผมจำได้ ผมสั่งกับรณกรและนักกีฬาทุกคนไว้ว่าวันนี้ให้เด็กๆ จากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเข้ามาเล่นสเก็ตในลานสเก็ตทั้งสามลานของผมได้ตามสบายไม่ใช่หรือครับ” “คะ...คุณ...กรกฎ” นักกีฬาสาวถึงกับหน้าถอดสีเผือดเอ่ยเรียกผู้เป็นเจ้าของสโมสรและเป็นเจ้านายของเธอด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักเพราะความหวาดกลัวต่อสายตาคมกริบที่กำลังจ้องมองมา กรกฎ นนทยุทธ เจ้าของนัยต์ตาคมกริบดุจดวงตาพญาอินทรี ใบหน้าหล่อเหล่าคมเข้มดุดัน เรือนกายล่ำสันไม่ต่างจากนักรบโบราณ เป็นนักธุรกิจหนุ่มผู้ร่ำรวย ได้รับเลือกให้เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแห่งปีด้วยวัยแค่เพียง 24 ปี ช่วยประคองให้ร่างเล็กของหนูน้อยกาญต์พิชชาลุกขึ้นยืนเคียงข้างกายเขา โดยลำแขนแข็งแกร่งข้างหนึ่งยังคงโอบกอดร่างเล็กของกาญต์พิชชาไว้ตลอดเวลาขณะเค้นเสียงตำหนินักกีฬาในสังกัดอีกรอบ “ผมควรมีน้ำใจมากกว่านี้ และไม่ควรทำรุนแรงกับเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นกับเด็กคนนี้หรือเด็กทุกๆ คนที่เข้ามาเล่นสเก็ตบนลานสเก็ตภายในสโมสรของผม ถูกต้องไหมชนิตา”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD