ธยาดาและกาหยูเดินกลับมาที่กระท่อมก็พบว่ากล้ากำลังตอกตะปูซ่อมบันไดให้เธออยู่อย่างเขมักเขม้น อุปกรณ์ขนมาครบมือไม่ว่าจะเป็นมีดพร้า จอบ เสียม ต่างๆ
"พี่กล้า พี่กินข้าวหรือยังจ้ะ?"
กาหยูเปลี่ยนเป็นเสียงสองเมื่อคุยกับกล้าจนธยาดาเองถึงกับอมยิ้มออกมา
ดูท่ากาหยูคงจะรักนายกล้าเอามากๆและดูท่าแล้วกาหยูจะเป็นฝ่ายที่ตามใจและเชื่อฟังผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ผัว! มากอยู่พอสมควร
"กินกับนายหัวมาแล้ว"
ตอบในขณะที่กำลังสาละวนอยู่กับบันไดของกระท่อมโดยไม่ได้หันมามองผู้เป็นเมีย ธยาดาหุบยิ้มอย่างไม่รู้ตัวเมื่อกล้าเอ่ยถึงผู้เป็นนายหัว ความจริงแล้วเมื่อก่อนเรื่องอาหารการกินไม่เคยมีมื้อไหนที่เขาจะไม่กลับมากินฝีมือของเธอที่บ้าน ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดใจจนต้องเบนหน้าหนีหลบความสั่นไหวในแววตา
"ขอบใจนะกล้าที่มาช่วย"
ธยาดายิ้มขอบคุณ
"ไม่เป็นไรครับคุณยาดา"
กล้าก้มหน้าพร้อมรอยยิ้ม เขายังดูนอบน้อมเป็นเด็กน่ารักคนเดิมคนนั้นของธยาดาแม้ว่าจะโตเป็นหนุ่มจนมีภรรยาแล้วก็ตาม
"นี่ยาดา เธอไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวค่ำมืดจะไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน"
กาหยูหันมาบอกธยาดาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าธยาดาต้องไปอาบน้ำตรงลำธาร ทำเอากล้าถึงกับมองแรงที่เห็นผู้เป็นเมียดูไม่ค่อยมีสัมมาคาราวะกับอดีตผู้เป็นนายเท่าไหร่
"กาหยู ทำไมเรียกคุณยาดาแบบนั้น รู้มั้ยว่า"
"กล้า! ไม่เป็นไรหรอก เอาเป็นว่ากาหยูเรียกฉันว่าพี่ยาดาล่ะกันนะ ฉันน่าจะอายุเยอะกว่าเธอหลายปีเลยล่ะ"
ไม่ทันที่นายกล้าจะเอ่ยออกมาจบประโยค ธยาดารีบขัดซะก่อนเพราะรู้ว่ากล้าจะเอ่ยอะไรออกมา
"เหรอ? โทษทีกาหยูเห็นหน้าคุณดูเด็กก็นึกว่ารุ่นราวคราวเดียวกัน "
กาหยูยิ้มแห้งๆ เพราะเข้าใจว่าที่กล้าเอ็ดเมื่อครู่คือไปเรียกธยาดาว่ายาดาเฉยๆเนื่องจากธยาดามีอายุมากกว่า แท้จริงแล้วไม่ใช่ นายกล้ากำลังจะบอกความจริงว่าธยาดาเคยเป็นใคร แต่โดนธยาดาขัดเสียก่อน เธอไม่อยากให้กาหยูต้องมาเกลียดเธออีกคน เพราะไม่รู้ว่าข่าวลือในอดีตของเธอเป็นอย่างไร
"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะกาหยูไม่ต้องขอโทษ"
ธยาดายิ้มให้กาหยูด้วยแววตาที่มีแต่ความเมตตาและอบอุ่น กล้ายังมองไม่ออกเลยว่าผู้หญิงคนนี้ร้ายอย่างไร ถึงได้โดนเกลียดชังจากผู้เป็นนายซะเหลือเกิน
"กาหยูไปเป็นเพื่อนที่ลำธารนะ ในห้องน้ำยังไม่มีน้ำอาบใช่มั้ย?"
กล้ากระโดดลงมาจากบันไดเมื่องานทุกอย่างเสร็จสรรพแล้ว
"ไม่เป็นไรจ้ะ รบกวนทั้งคู่มาเยอะแล้ว กาหยูกลับไปพร้อมกล้าเถอะ ลำธารอยู่ใกล้นิดเดียวเอง ฉันไปคนเดียวได้"
"แต่ว่า..."
กาหยูยังลังเลเพราะรู้สึกเป็นห่วงธยาดาไม่ได้เนื่องจากเหตุการณ์ที่โรงอาหารวันนี้
"ไม่มีใครกล้าเข้ามาในเขตนี้หรอก เอ็งอย่าห่วงไปเลยนังกาหยู นายหัวสั่งห้ามไม่ให้ใครเดินมาแถวกระท่อมเด็ดขาด"
"อืม..ก็ได้จ้ะ"กาหยูยอมกลับแต่โดยดี ไม่รู้ทำไมเหมือนกันเธอถึงรู้สึกอยากดูแลอยู่ใกล้ๆธยาดา
ธยาดาพยักหน้ายืนยันคำพูดของกล้าอีกคนบอกให้กาหยูรู้ว่าอย่าได้เป็นกังวล
"กลับกันเถอะ คุณยาดาเค้าจะได้พักผ่อน"
"ขอบใจเธอทั้งสองคนมากๆนะ"
ธยาดายิ้มอย่างรู้สึกขอบอกขอบใจอีกครั้ง
"งั้นเดี๋ยวคืนนี้กาหยูมาเรียกนะ"
"จ้า"
เมื่อทั้งคู่กลับไปแล้ว ธยาดาก็รีบเดินขึ้นไปบนกระท่อมเพื่อจัดการจัดแจงปูฟูกที่นอนเอาไว้ก่อน แต่ต้องแปลกใจเมื่อขึ้นมาเห็นว่ากระท่อมถูกซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดไปหมดแล้ว
"สงสัยจะเป็นกล้า"
ธยาดายิ้มออกมานิดหน่อย อย่างน้อยก็ใช่ว่าเธอจะไม่เหลือใครซะทีเดียว ยังมีกล้าและกาหยูที่คอยช่วยเหลือเธออยู่
ซึ่งภูรินทร์ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้ทั้งคู่มาช่วย แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของภูรินทร์เรื่องที่ว่าเธอหนีตามผู้ชายไป อยากรู้จังทำไมภูรินทร์ถึงได้เชื่ออะไรแบบนั้น
"ป่านนี้หนูดีของแม่ทำอะไรอยู่นะ? แม่อยากกอดหนูเหลือเกิน"
คิดได้แบบนั้นก็อดที่จะเมียงมองไปทางบ้านหลังใหญ่ไม่ได้ บ้านที่เธอเคยอยู่อย่างมีความสุข
เรื่องราวระหว่างเธอกับภูรินทร์เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน
ธยาดากับภูรินทร์เจอกันที่กรุงเทพฯ ทั้งคู่เป็นนิสิตนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งได้พบรักกันและคบหากันอยู่หลายปี
พอเรียนจบธยาดาก็ตั้งท้องทันที ภูรินทร์จึงพาเธอกลับมาบ้านเกิดด้วย ซึ่งในตอนนั้นธยาดาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าภูรินทร์นั้นรวยมาก
เนื่องจากตอนที่คบกันภูรินทร์เขาทำตัวธรรมดามากๆไม่เคยอวดร่ำอวยรวยแถมยังบอกตรงๆว่าเขาคือเด็กบ้านนอกที่มาจากต่างจังหวัด
แต่ ธยาดาเองก็ไม่เคยคิดรังเกียจเพราะว่าเธอเองก็เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่ และธยาดาเองก็เคยอยู่ในสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้ามาก่อน
ส่วนบิดามารดาของภูรินทร์นั้นเสียชีวิตไปหลายปีแล้วเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากสามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งตอนนั้นพ่อกับแม่ของเขาโดนระเบิดตอนเดินทางไปดูสวนยางที่จังหวัดนราธิวาส
ทำให้ปัจจุบันภูรินทร์เหลือแค่คุณปู่สิงขรที่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ แต่ท่านก็อาศัยอยู่ในตัวอำเภอเมืองของจังหวัดนครศรีธรรมราช นานๆทีจะมาโผล่ที่บ้านภูรินทร์สักครั้ง
ธยาดานั่งเอื่อยอยู่ที่ลำธารพร้อมกับคิดถึงความหลังไปด้วย ลำธารตรงนี้เธอเคยมาเล่นน้ำกับภูรินทร์บ่อยๆ แถวนี้ภูรินทร์จะไม่ให้คนงานเข้ามายุ่มย่าม เนื่องจากมันเป็นเขตส่วนตัวที่เขาจะมาว่ายน้ำเล่นๆอยู่บ่อยๆ
"ถ้าไม่อยากโดนลากไปข่มขืน ก็ควรจะรีบๆอาบและกลับไปให้เร็ว"
คนตัวสูงยืนกอดอกมองเธอจากริมลำธาร ซึ่งไม่รู้ว่ามาทั้งแต่เมื่อไหร่
"ภู!"
ธยาดาคลี่ยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจที่เจอเขา ไม่ได้รู้สึกอายที่เธออยู่ในสภาพที่ใส่ผ้าถุงกระโจมอกเพียงผืนเดียว
เนื่องจากภูรินทร์ก็คือสามีของเธอเองเธอยังคิดแบบนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะเกลียดชังเธอแค่ไหนก็ตาม
"แถวนี้ไม่มีใครให้อ่อยหรอกนะ เก็บอาการกระหิวกระหายผู้ชายของเธอเอาไปใช้ที่กรุงเทพโน่น ที่นี่ไม่เหมาะกับเธอ"
ภูรินทร์มองมาด้วยสายตาที่รังเกียจและเหยียดหยาม ธยาดาเองก็นึกฉุนขึ้นมาบ้างที่เขาเอาแต่ด่าทอเธออยู่ข้างเดียวโดยที่ไม่ถามอะไรสักคำ
"ไม่แน่หรอกค่ะ เผื่อว่าจะหลงมาสักคนสองคน"
พูดประชดเขาเสร็จธยาดาก็รีบลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่มาคลุมร่าง
หมับ!
ข้อมือของเธอถูกฉุดรั้งไว้โดยคนตัวใหญ่ที่ใบหน้ามีแต่ความโกรธขึ้งไปหมด
"โอ้ย!ปล่อยนะภู"
"ก็ไม่ได้อยากจับเท่าไหร่หรอกนะ เน่าไปถึงไหนต่อไหนแล้วล่ะ เห็นทีว่าที่กรุงเทพก็คงไม่มีใครเอาแล้วสินะถึงได้หน้าด้านหน้าทนกลับมา"
พูดพรางกวาดสายตาสำรวจทั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะสลัดมือออก ธยาดาถึงกับเซถลาไป ในใจได้แต่ตั้งคำถามว่าเขาเป็นบ้าอะไร?
ธยาดาพยายามถอยออกห่างภูรินทร์อย่างระวังตัว
"แล้วแต่จะคิด คนที่มีความคิดสกปรกก็มักจะคิดว่าคนอื่นจะสกปรกเหมือนตัวเอง"
เขาเดินเพียงสามก้าวก็ถึงตัวเธอแล้วแขนของเธอถูกเขาดึงรั้งเอาไว้และกระชากเข้าหาร่างของเขาทันทีอย่างลงทัณฑ์
แววตาดุคู่นั้นพร้อมจะแผดเผาธยาดาทุกได้ทุกเมื่อ
"คนที่สกปรกคือเธอ จำใส่หัวเอาไว้ด้วยว่าฉันเกลียดและขยะแขยงเธอมากกว่าขยะเน่าเหม็นซะอีก สมใจอยากเมื่อไหร่ก็รีบไสหัวไปจากที่นี่ ก่อนที่เสนียดจัญไรมันจะติดตัวฉันไปมากกว่านี้"
เพียะ!
ธยาดาทนไม่ไหวอีกต่อไป ฝ่ามือน้อยๆตบลงไปบนใบหน้าหล่อคมเข้มเข้าฉาดใหญ่ แรงฟาดของฝ่ามือทำให้ภูรินทร์ถึงกับหน้าหันไปตามแรงปะทะ
"มันจะมากเกินไปแล้วนะภู! "
ธยาดาตวาดออกมาอย่างหมดความอดทนแววตาคู่สวยเต็มไปด้วยหยาดน้ำตารื้นจนล้นขอบตา รู้สึกเจ็บจากคำพูดของเขาเหลือคณา
"ธยาดา!"
แขนทั้งสองข้างของเธอถูกคนร่างใหญ่ดึงกระชากเข้าไปหาด้วยความแรง จูบรุนแรงด้วยความโกรธบดขยี้ลงมาจนธยาดารู้สึกเจ็บระบมริมฝีปากไปหมดกับจูบป่าเถื่อนที่เขามอบให้รุนแรง...บอกตรงๆแบบนี้ธยาดาเธอไม่เคยพบเจอ
อึก!
น้ำตาไหลลงมาทันทีที่เขาปล่อยให้เธอเป็นอิสระก่อนจะเดินผละหนีจากไปอย่างไวเหมือนเดิม ทำร้ายจิตใจเสร็จแล้วก็หนีไปแบบนี้ทุกครั้ง
ทำไมนะภู ภูถึงใจร้ายกับยาดาเหลือเกิน! ได้แต่คิดตัดพ้อทั้งน้ำตา มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเขาไม่ถามเธอสักคำ พอจะบอกเขาก็หาว่าแก้ตัว ตอแหลปั้นน้ำเป็นตัว แล้วเธอจะทำอย่างไรดี?