ธยาดากลับมาถึงกระท่อมเล่นซะเกือบพลบค่ำแล้ว โชคดีหน่อยที่ภูรินทร์ยังใจดีต่อไฟให้ใช้ ไม่ถึงขั้นลำบากเป็นนางเอกละครเรื่องจำเลยรักอะไรขนาดนั้น ใช่สิ! ก็เพราะเธอมันไม่ใช่นางเอกเป็นนางร้ายในสายตาเขาตั้งแต่วันแรกที่กลับมา หางตาที่มองมาถึงได้มีแต่ความเกลียดชัง ถ้าไม่ติดกับหนูดีธยาดาจะขอกลับกรุงเทพตั้งแต่วันแรกที่โดนไล่ให้กลับแล้วเชียว
ตี๊ด~~
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ธยาดาถึงกับยิ้มออกมาเมื่อเห็นปลายสายที่โทรเข้ามา เธอมัวแต่ยุ่งจนลืมโทรศัพท์มือถือไปสนิทเลย
"ค่ะ แม่"
(เป็นยังไงบ้างลูก ไปถึงนครฯแล้วทุกอย่างราบรื่นดีใช่มั้ย?)
"ถึงแล้วค่ะแม่ ก็..ราบรื่นดีค่ะ พ่อล่ะ?"
โกหกคำโต! T T
(นั่งฟังกันอยู่ นี่ก็เปิดลำโพงให้พ่อเขาฟังด้วยนั่นแหละ อย่าลืมพาหนูดีมาหาพ่อกับแม่บ้างนะ)
"ได้ค่ะแม่ ห่าว! แต่วันนี้ใหม่ขอนอนหลับก่อนนะคะ เหนื่อยมากๆ"
รีบตัดบท!
(จ้าพักผ่อนเยอะๆ ฝันดีนะลูก)
ธยาดาวางสายจากผู้เป็นพ่อแม่บุญธรรม ชื่อของเธอตอนสมองเสื่อมก็คือวันใหม่ ท่านทั้งสองพาธยาดามาจากข้างถนนในตอนที่กำลังนอนสลบอยู่เมื่อห้าปีก่อน
พอฟื้นขึ้นมาธยาดาจำอะไรไม่ได้เลย ซึ่งท่านก็ไม่ได้พาไปแจ้งความเนื่องจากไม่รู้ว่าใครที่ทำร้ายธยาดากลัวว่าจะกลับมาทำร้ายเธออีกหากรู้ว่าธยาดายังมีชีวิตอยู่ จึงทำได้เพียงรอให้ความทรงจำของธยาดากลับมาก่อน
แต่ผ่านไปวันแล้ววันเล่าธยาดาก็ยังจำไม่ได้ท่านก็เลยเลี้ยงดูประหนึ่งว่าธยาดาเป็นลูกสาวคนหนึ่งเสมอมา
เนื่องจากทั้งคู่ไม่มีบุตรสักคน พวกท่านเป็นเพียงชาวบ้านชาวสวนธรรมดาที่มีฐานะปานกลางในจังหวัดนครปฐม ธยาดาใช้ชีวิตกับท่านทั้งสองอย่างเรียบง่ายเสมอมา
จนเมื่อไม่กี่วันที่แล้ว อยู่ๆ ธยาดาก็จำตัวเองขึ้นมาได้ว่าเป็นใครมาจากไหน และก็สภาพล่าสุดก็เป็นอย่างที่เห็น กลับมาพร้อมกับข้อกล่าวหา คงจะเป็นข้อกล่าวหาที่น่ารังเกียจไม่น้อย หนีตามชู้รัก
"ชีวิตจริงบางครั้งก็ยิ่งกว่านิยายแหะ อยู่ๆนึกว่าจะกลับมามีความสุขกับครอบครัวที่ไหนได้ต้องมาอยู่กระท่อม เหมือนนักโทษที่แหกคุกและกลับมารับโทษทัณฑ์ เห้อ! "
ธยาดานอนพร่ำบ่นกับตัวเองไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่หนังตาจะค่อยๆหนักอึ้งและเผลอหลับไปจริงๆด้วยความเพลียและเหนื่อยอ่อนจากการเดินทาง ไหนต้องมาสู้รบกับผัวหมาบ้าอีก และไม่รู้ว่าจะโดนแบบนี้อีกกี่ครั้ง ธยาดาก็แอบกลัวว่าเธอจะถอดใจแล้วจากไปจริงๆ จากไปทั้งๆที่ความจริงเธอคือผู้บริสุทธิ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เขากล่าวหาแม้แต่นิด
ตีสอง
"พี่ยาดา ๆ "
เสียงปลุกเรียกจากกาหยูดังอยู่ข้างล่างของกระท่อมทำให้ธยาดาต้องรีบตื่น แต่ก็ยังรู้สึกง่วงสุด มองนาฬิกาในโทรศัพท์
"ตีสอง!"
ธยาดาลุกลงมาหากาหยูตามเสียงเรียก ในสภาพที่ยังงัวเงีย ปากก็ยังหาวอยู่ตลอดเวลา
"กาหยู ทำไมตื่นไวจัง"
"กาหยูเอาชุดกรีดยางมาให้ และก็อุปกรณ์ รองเท้า รีบเปลี่ยนเถอะ ไปกันได้เวลาทำงานแล้ว"
ธยาดาถึงกับถอนหายใจ เธอลืมไปเลยว่าเธออยู่ในฐานะคนงานใหม่ที่ภูรินทร์รับไว้
"รอแป๊บนะ "
กาหยูพยักหน้า ธยาดารีบไปตักน้ำในโอ่งที่เธอเตรียมเอาไว้ล้างหน้าแปรงฟัน ใช้เวลาประมานสิบนาทีเธอก็อยู่ในชุดทะมัดทะแมง เสื้อเชิ้ตเก่าตัวโคร่งกับกางเกงยีนส์ขายาวเก่าๆ รองเท้าบูทยางสีดำถึงเข่า ทั้งหมดนี้กาหยูเตรียมมาให้ทั้งหมดซึ่งธยาดาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากาหยูรู้ไซส์ของเธอได้ยังไง
"กาหยูว่าแต่ว่า ไอ้ไฟฉายนี้เราใส่ยังไง"
ธยาดาเก้ๆกังๆจับผิดจับถูก เพราะเกิดมาเธอไม่เคยสักครั้งที่จะลงมาลองกรีดยาง แม้จะเคยเห็นภูรินทร์ทำมาบ้างแล้ว แม้ในตอนนั้นอยากลองแต่เขาก็ไม่อนุญาตบอกว่ายุงเยอะบ้าง กลัวเมียเหนื่อยบ้าง แต่ตอนนี้เขาคงไม่ต้องกลัวสิ่งเหล่านนั้นอีกแล้ว
"มาๆๆ กาหยูช่วยใส่ให้ พี่ไหวแน่นะ"
"ฮ่าว! ไม่ไหวก็ต้องไหว ก็เขารับมาทำงานแล้วนี่นา"
ธยาดาเอามือป้องปากไปบ่นไป เอาตรงๆก็ไม่ได้อยากจะทำเท่าไหร่ แต่อยากจะพิสูจน์ให้คนเถื่อนนั้นเห็นว่าเธอทำได้ กาหยูเอาไฟฉายคาดหัวให้ธยาดาเรียบร้อยแล้วก็ยื่นมีดกรีดยางให้
"พี่กล้าบอกว่าให้เราสองคนกรีดเบอร์นี้เลย ใกล้ๆขนำของพี่พอดี จะได้ไม่เดินไกลและปลอดภัยด้วย"
"เบอร์คืออะไร?"
"เบอร์ของสวนยาง หนึ่งเบอร์ก็กรีดหนึ่งเจ้าแล้วแต่ว่าจะกรีดกี่ไร่ เบอร์11 คือที่เราจะไปกรีดก็มีประมานห้าร้อยต้น พี่ไม่เคยกรีดเดี๋ยวฉันจะสอนให้ กรีดดีๆนะ ถ้ากรีดไม่ดีมีหวังโดนไล่ออกทั้งคู่"
ธยาดาเดินตามกาหยูไป ฟังไป ทำตามที่กาหยูสอนและเปิดคลิปดูในยูทูบไปด้วย แม้จะไม่ได้กรีดดีอย่างกาหยูแต่เธอก็ตั้งใจสุดๆ กว่าจะได้สักต้นมันก็เหนื่อยเหมือนกันแหะ เพิ่งรู้ว่าการทำสวนยางมันเหนื่อยแบบนี้นี่เอง
"แล้วกล้าล่ะ กาหยูไม่ไปกรีดกับกล้าเหรอ?"
ธยาดาอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้
"พี่กล้าบอกให้ฉันมาช่วยพี่ก่อน แต่ตะกี้เห็นแวบๆเหมือนนายหัวจะลงมากรีดด้วย เดี๋ยวก็คงเจอ"
"เป็นถึงเจ้าของ ทำไมไม่นอนหลับให้สบาย"
ธยาดาเผลอพูดแหน็บแนมออกมา เพราะเป็นห่วงลูกถ้าเขาลงมาทำงานกลัวลูกจะไม่มีคนดูแล แต่...เขาน่าจะจ้างพี่เลี้ยงดูแลแหล่ะ คิดถึงลูกสาวทีไรเธอก็ชะเง้อไปฝั่งบ้านหลังใหญ่ทุกที
"คนรวยก็งี้แหละพี่ อยู่เฉยๆไม่ค่อยได้ นายหัวลงมาแทบทุกคืน คงอยากจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกน้อง"
"กรี๊ดดดด!"
"อะไรพี่ยาดา!"
"ตะกาบ! กาหยูตะกาบ "
ธยาดากระโดดโหยงอย่างตกใจสุดขีด
"เกิดอะไรขึ้นน่ะ กาหยู?"
ภูรินทร์ที่อยู่ไม่ไกลเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ด เขาวิ่งมาอย่างเร็ว ขายาวๆทั้งวิ่งทั้งกระโดดไม่กี่ก้าวก็ถึงตรงที่เกิดเหตุทันทีพอดี