"พี่หมอ!"
ธยาดาโทรมาเช็คที่โรงพยาบาลจึงทราบว่าหมอตะวันยังไม่เข้าเวร เธอจึงมาแอบดักรอตรงลานจอดรถ ยังไงวันนี้ธยาดาจะต้องพบเจอกับหมอตะวันให้ได้
"ยาดา"
"ยาดามีเรื่องที่จะคุยกับพี่หมอ"
หมอตะวันมองซ้ายมองขวา เขารู้ดีว่าธยาดากำลังหลบผู้คนอยู่
"งั้นมาทางนี้"
หมอตะวันเดินนำธยาดาเข้าไปในร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งที่เปิดอยู่ข้างโรงพยาบาล ก่อนจะหาที่นั่งและและเดินไปสั่งเครื่องดื่มเอง แล้วเดินกลับมาตรงโต๊ะที่ธยาดานั่งรออยู่
"มาได้ยังไงน่ะ?"
"ขับมอไซค์มาค่ะ"
"แล้วมีเรื่องอะไรจะคุยกับพี่?"
หมอตะวันเลิกคิ้วตาม สายตาภายใต้กรอบแว่นส่อแววสงสัยซะจนดูเครียดไปชั่วขณะ
"คืองี้ค่ะ"
ธยาดาเริ่มเล่าทั้งแต่ต้นจนจบ แม้จะเว้นบางช่วงไปบ้าง ก็คือช่วงที่เธอโดนปล้ำอะไรแบบนี้ ธยาดาก็จะเล่าข้ามๆไป ธยาดาแลกไลน์กับหมอตะวันแล้วส่งรูปที่เธอแอบถ่ายมาจากรูปต้นฉบับของภูรินทร์ส่งให้หมอตะวันในแชทดู
"พี่หมอตะวัน พอจะรู้มั้ยคะว่าผู้หญิงในรูปเป็นใคร?"
หมอตะวันเพ่งมองดูรูปสลับกับมองหน้าของธยาดา
"ไม่ใช่ยาดาหรอกเหรอ?"
ธยาดารีบส่ายหน้าปฏิเสธ
"ไม่ใช่ค่ะ ดูเหมือนยาดามากใช่มั้ยคะ?"
"ถ้ามองผ่านๆก็ใช่ แต่ถ้ามองดีๆ ยาดาไม่เคยย้อมผมสีบรอนด์แบบนี้ เท่าที่พี่รู้จักมานะ ไม่เคยเห็นยาดาย้อมผม"
ธยาดาถึงกับอึ้ง คนเป็นสามีของเธอยังไม่มองทุกอย่างละเอียดแบบนี้ กลายเป็นคนอื่นที่สังเกตุสิ่งเล็กๆเหล่านี้ได้
"ใช่มั้ยคะ ยาดาไม่เคยย้อมผมหรือโกรกผม ยืดผมอะไรเลยตั้งแต่เกิดมา เพราะผมของยาดาตรงอยู่แล้ว แต่ภูเขาไม่เชื่อ นอกจากจะไม่เชื่อแล้ว เขายังไม่ฟังด้วย"
หมอตะวันเงียบไปอย่างใช้ความคิด อีกใจนึงก็รู้สึกโกรธภูรินทร์มาก เขาเชื่อธยาดาหมดใจถึงแม้ว่าจะเป็นไปได้ยากว่าผู้หญิงคนนี้อาจจะไม่ใช่ธยาดา แต่ลองมองให้ดีๆสไตล์การแต่งตัวของคนในรูปไม่น่าจะใช่ธยาดา
"ไปพาพ่อแม่บุญธรรมของยาดามา หรือไม่ก็ข้อมูลการรักษาของยาดาที่โรงพยาบาล"
ธยาดาถอนหายใจออกมา
"ยาดาว่าเขาไม่เชื่อ คงคิดว่ายาดาจ้างใครมาอีก อีกอย่างหนึ่งยาดาไม่เคยรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ไหนเลย เนื่องจากพ่อแม่บุญธรรมกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย เลยรักษาแต่กับหมอแผนโบราณ"
หมอตะวันพิงพนักลงไปบนเก้าอี้ มองหน้าธยาดาอย่างใช้ความคิด เขาไม่คิดเลยว่าธยาดาจะมาลำบากทุกข์ยากแบบนี้ ดูท่าคงโดนคุกคามจากภูรินทร์ไม่น้อย
"ให้พี่ช่วยพาหนีมั้ย?"
อยู่ๆหมอตะวันก็พูดขึ้นมา ทำเอาธยาดาถึงกับตกใจ มันเกินคาดธยาดาไปนิดนึงว่าหมอตะวันจะหานกล้าทำอะไรบ้าบิ่นขนาดนี้
"ไม่ค่ะ ถ้ายาดาจะไป ภูต้องเป็นคนเอ่ยปากไล่ยาดาเท่านั้น ยาดาไม่อยากหนีไป เพราะเท่ากับว่ายาดาทำผิดจริง อีกอย่างยาดาไม่อยากห่างลูกไปด้วย หนีไปครั้งนี้คงไม่มีโอกาสที่จะได้เจอแล้ว"
น้ำตาใสๆเริ่มรื้นขอบตาเมื่อเอ่ยเรื่องลูกมันเซนซิทีฟสำหรับธยาดามาก หมอตะวันยื่นทิชชู่ส่งให้ธยาดา มองเจ้าหล่อนด้วยความสงสารจับใจ ถ้าธยาดาเลือกเขาจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้เด็ดขาด
"ยาดาจำวันที่หายไปจากที่นี่เมื่อห้าปีก่อนไม่ได้ค่ะ ไม่รู้ว่ายาดาไปนอนอยู่ข้างถนนได้ยังไงกัน?"
"ยาดาวางใจเถอะ พี่จะช่วยหาคนในรูปให้นะ ต่อจากนี้มีอะไรต้องบอกพี่ทุกอย่าง เราคือทีมเดียวกันแล้วนะรู้มั้ย?"
หมอตะวันแตะหลังมือเล็กเบาๆ ส่งสายตาอบอุ่นให้ธยาดาให้รู้สึกใจชื้นว่ายังมีเขาอยู่เคียงข้างเธออีกหนึ่งคน
"ขอบคุณนะคะ และขอโทษที่รบกวน ยาดาไม่มีที่พึ่งที่ไหนแล้วจริงๆ"
"อย่าพูดอย่างนี้อีก ยาดา..ก็เหมือน...น้องสาวของพี่คนหนึ่งนั่นแหละ"
"ขอบคุณค่ะ"
ธยาดายกมือไหว้ขอบคุณหมอตะวัน แต่อีกฝ่ายประคองมือของเธอลง ไม่อยากให้ธยาดาไหว้เขาแบบนี้ ถ้าจะให้ไหว้ ไหว้ในแบบพิธีอย่างอื่นคงจะดีกว่า เขายังคงหวั่นไหวกับสายตาหวานซึ้งคู่นี้เสมอ แม้ว่าธยาดาจะไม่เคยมองเขาเลยก็ตาม
ทั้งคู่นั่งคุยกันอยู่พักใหญ่ก่อนที่ธยาดาจะขอตัวกลับ เพราะเกรงว่าหายออกมานานจะผิดสังเกตุเพราะเธออยู่ในช่วงที่ห้ามออกนอกไร่ภูรินทร์เด็ดขาด
เวลาผ่านไปจนเกือบบ่ายคล้อย
ธยาดามานั่งเล่นอยู่ริมลำธาร คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ป่านนี้ทุกคนคงยุ่งอยู่ที่บ้านใหญ่ วันเกิดลูกของเธอแท้ๆ แต่กลับไม่มีสิทธิ์อยู่ด้วย เนื่องจากเป็นบุคคลต้องห้าม เพียงเพราะผู้หญิงของเขาไม่ชอบขี้หน้าของเธอ เพียงเท่านั้น
ธยาดานั่งหน้าเศร้าแต่ไม่ได้หลั่งน้ำตาออกมาแต่อย่างใด
"พี่ยาดา!"
เสียงกาหยูร้องเรียกหาเธอเสียงดัง ทำให้ธยาดาต้องเปล่งเสียงขานรับตอบกลับไปเสียงดังพอกัน
"อยู่นี่!"
ธยาดาโบกมือให้กาหยู
"เฮ้อ!โล่งใจไปทีที่พี่ยังอยู่ นึกว่ายังไม่กลับซะอีก"
"ทำไมถึงกลับมา"
กาหยูทำหน้าเซ็ง ก่อนจะนั่งลงข้างๆธยาดา
"คนที่พี่กล้าชอบมา โคตรเซ็งเลย"
ธยาดาหันขวับมามองหน้ากาหยู ส่งสายตาถามกาหยูรัวๆด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
"มันเรื่องอะไรกัน?"
"ไม่มีอะไรกัน แค่พี่กล้าไม่ได้รักกาหยู กาหยูคือคนทำลายชีวิตของพี่กล้าทำให้พี่กล้าเรียนไม่จบ เพราะปีก่อนกาหยูเกิดพลาดตั้งท้อง"
"ตั้งท้อง แล้วลูกล่ะ?"
ธยาดาตกใจ เธอมัวแต่สนใจปัญหาของตัวเองจนลืมใส่ใจกาหยูไปเสียสนิท
"หมอบอกเด็กไม่สมบูรณ์ เลยต้องยุติการตั้งครรภ์ พอกาหยูไม่มีลูกอีก พี่กล้าก็เย็นชากับกาหยูมากๆ มีแต่กาหยูที่หลงรักเขาข้างเดียว วันนี้ผู้หญิงคนที่เขาชอบมางานด้วย ชื่อว่านงนุชเป็นลูกสาวของผู้ใหญ่บ้าน พี่กล้าออกอาการจนกาหยูต้องหนีออกมาจากงาน"
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้กาหยูก็ปล่อยโฮออกมา จนธยาดาต้องดึงร่างของกาหยูไปกอดปลอบ
"ฮึก!กาหยูจะทำอย่างไรดี? "
เอ่ยถามอย่างหมดทางไปแล้วจริงๆ
"โธ่ กาหยู ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร เขาไม่รักก็ไม่ต้องทน ปล่อยเขาไปเถอะ"
แม้ว่าไม่ใช่การปลอบโยนที่ดี แต่ธยาดาจำเป็นต้องเอ่ยออกมาตรงๆ อนาคตของกาหยูอีกไกลที่จะเอาชีวิตทั้งหมดมาทิ้งไว้กับผู้ชายที่ไม่ได้รัก
"แต่กาหยูทำใจไม่ได้ อยู่กันมาเนิ่นนานถึงขนาดนี้ ความผูกพันธ์ก็มีอยู่มาก"
พูดในขณะที่กำลังอยู่ในอ้อมกอดของธยาดาและสะอึกสะอื้นจนตัวสั่น
"งั้นก็ต้องมาคุยกันให้รู้เรื่อง ถามกล้าตรงๆไปเลยว่ายินดีจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมั้ย?"
"กาหยูกลัวคำตอบ"
ธยาดาผละออกมา มือทั้งสองข้างรีบเช็ดน้ำตาให้กาหยู คนที่ธยาดามองว่าเธอคือน้องสาวแท้ๆคนหนึ่ง ธยาดาอดที่จะเป็นห่วงอนาคตของกาหยูไม่ได้ เพราะกาหยูอายุยังน้อยมากๆ ถ้าเรื่องมันเป็นอย่างว่าจริงๆกาหยูก็ไม่ควรทนเลย
"กาหยูฟังพี่นะ กาหยูยังสาวยังสวย หน้าตาแบบนี้ประกวดมิสแกรนด์ยังได้เลย ชีวิตของเราต้องไปต่อ อย่าเอาตัวเองไปจมปลักกับคนที่เขาไม่ได้รักเรา ดูพี่สิปีนี้สามสิบปีแล้ว ชีวิตพี่สูญเปล่าไปเยอะ และลำบากกว่ากาหยูเยอะมากเห็นมั้ยพี่ยังสู้ต่อเพื่อลูกเลย พี่ไม่ได้สู้เพื่อคนที่เขาไม่รัก แต่พี่สู้เพื่อหนูดี เป้าหมายของพี่คือลูก ส่วนกาหยูอายุเพิ่งจะสิบเก้าเอง กลับไปเรียนต่อและทำเพื่อตัวเองเถอะนะ หากมั่นใจว่าเขาไม่รักก็ไม่ต้องทน โอเคมั้ย?"