สัญญาว่าจ้างของนวินดามีระยะเวลาหนึ่งปีเต็ม หากว่าหญิงสาวชอบงานนี้ยลรดีก็จะจ้างงานเธอต่อ แต่ว่าหากหางานทำที่ชอบที่อื่นได้ก็สามารถไปทำงานที่ใหม่ได้ทันทีไม่มีข้อผูกมัด เธอรู้สึกว่าการใช้ชีวิตเรียบง่ายในไร่แห่งนี้ปรับตัวได้ไม่ยากเลยยกเว้นกับลูกชายคนเล็กของบ้านที่ดูจะชอบหาเรื่องเธออยู่เรื่อยไป ซึ่งชายหนุ่มเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ หน้าคม ผิวเข้มตามฉบับลูกชายของพ่อเลี้ยงไววิทย์
วันต่อมาหลังจากกลับจากดูแลความเรียบร้อยของไร่ดรัณภพก็ตรงกลับบ้านใหญ่ทันที ทันทีที่เท้าก้าวเข้ามายังตัวบ้านก็ได้กลิ่นหอมๆลอยมาเตะจมูก เขาจึงไม่รอช้าเดินตามหาต้นตอของกลิ่นหอมๆนั่นแล้วก็พบกับคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ดูก็รู้ว่าหญิงสาวคงจะชอบการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ
“ตาภพ! มายืนทำอะไรตรงนี้ลูก” ไม่ใช่แค่ชายหนุ่มที่ตกใจแต่ว่าคนที่กำลังจัดเรียงอาหารบนจานก็สะดุ้งไม่ต่างกันทำเอาซอสที่เธอปาดบนจานเบี้ยวไปนิดนึง
“คือผม...”
“หิวแล้วหรอลูกแต่ว่าหนูดาเขายังทำอาหารไม่เสร็จเลยนี่หน่า”
“ยังหรอกครับแม่ ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนดีกว่าตัวมีแต่เหงื่อ”
“งั้นก็ตามใจแต่อีกเดี๋ยวก็คงเสร็จแล้วใช่ไหมจ๊ะหนูดา”
“ใช่ค่ะคุณป้า รอสักครู่นะคะ” หญิงสาวตั้งใจทำอาหารแข่งกับเวลาเพราะรู้ดีว่าสมาชิกในบ้านนี้จะทานอาหารตอนกี่โมง
“จ้ะๆ เมื่อวานเสียดายแทนลูกเลยนะที่ไม่ได้ชิมอาหารฝีมือหนูดาเขา”
“ถ้ามัวมานั่งกินอาหารสบายใจคงจะเกิดปัญหาใหญ่แล้วล่ะครับแม่”
“แล้วสรุปว่า...”
“เรียบร้อยดีแล้วครับ ก็แค่ไอ้พวกหมาลอบกัด มันทำอะไรผมไม่ได้หรอก” เมื่อวานผละออกจากบ้านมาได้ไม่ทันไรก็เกิดเรื่องในไร่ขึ้น โกดังเก็บปุ๋ยเกิดไฟลุกไหม้แต่โชคดีที่คนงานช่วยกันดับไฟได้ทันไม่อย่างนั้นไม่อยากจะคิดถึงความเสียหายเลย
“พวกเราต้องเพิ่มคนดูแลรอบๆไร่แล้วสินะ”
“ใช่ครับ แต่แม่วางใจเถอะครับจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อีก”
“คุณย่า อาภพ”
“ว่าไงจ้ะหลานรักของย่า มาให้ย่าหอมหน่อยเร็ว” หนุ่มน้อยวิ่งเข้าไปกอดคนเป็นย่าอย่างเอาอกเอาใจ ไม่รู้ว่าปฏิกิริยาอย่างนี้คนเป็นพ่อและแม่ได้สอนหรือไม่แต่ว่ามันน่าเอ็นดูสุดๆไปเลย
“วันนี้ว่ายน้ำเหนื่อยไหมครับ”
“ไม่เหนื่อยเลยคร๊าบ มีเพื่อนด้วย”
“เก่งมากครับ” ชายหนุ่มยื่นมือของไปลูบผมหลานชายเบาๆ จากนั้นก็ขอตัวไปอาบน้ำ ส่วนหนุ่มน้อยก็วิ่งจู๊ดไปเกาะขานวินดาแน่น
“น้องเบย์คนเก่งนี่เอง หิวหรือยังครับ”
“หิวแล้วคร๊าบ”
“ทำอะไรคะเนี่ยน้องดา กลิ่นหอมลอยออกไปถึงข้างนอกเลย”
“ทำเมนูโปรดของทุกคนเลยค่ะ ดาแอบสืบมาจากคุณป้า”หญิงสาวตอบกลับยิ้มๆแต่มือก็ยังคงจัดจานอยู่
“หนูดาเขาน่ารักนะจ๊ะหนูบัว คอยเอาใจใส่ทุกคนในบ้านเลย คุณพ่อของลูกน่ะสุขภาพภาพไม่ดีหนูดาก็ทำอาหารให้โดยเฉพาะเลย”
“เยี่ยมไปเลยค่ะ อีกหน่อยอาการของคุณพ่อก็คงจะดีขึ้น” ด้วยความที่พ่อเลี้ยงของไร่อายุมากแล้วก็เป็นธรรมดาที่โรคต่างๆจะถามหา แต่ผู้เป็นภรรยาอย่างยลรดีก็เชื่อว่าถ้าปรับอาหารทุกอย่างก็จะดีขึ้น
“ใช่จ้ะ ต้องขอบคุณหนูดาเขาที่ทำอาหารสุขภาพให้แต่ว่ารสชาติยังดีเยี่ยม”
“ชมเกินไปแล้วค่ะคุณป้า อาหารเสร็จพอดีค่ะ ให้ตั้งตะเลยไหมคะ”
“ตั้งโต๊ะได้เลยจ้ะ”
ดรัณภพหลังจากตัดสินใจลาออกตามความต้องการของผู้เป็นแม่แล้วก็มาทำงานในไร่เต็มตัวโดยมีพี่ชายคอยส่งต่อวิชาต่างๆให้อย่างละเอียด แต่ความจริงแล้วภาระหน้าที่ต่างๆตกเป็นของผู้จัดการไร่อย่างสิงขร ชายหนุ่มทำหน้าที่เพียงดูแลควบคุมเท่านั้น หลังจากมีสาวใช้ขึ้นไปตามดรัณภพก็ลงมาร่วมทานอาหารกับครอบครัว ทุกคนเอ่ยชมเชฟสาวของบ้านกันไม่หยุดปากโดยเฉพาะบิดาของเขา
“เติมข้าวไหมคะ”
“อีกสักจานก็ดีเหมือนกันนะแม่เลี้ยง”
“คุณพ่อเก่งมากเลยค่ะ” ลูกสะใภ้ของบ้านเอ่ยชมพ่อสามี
“ก็ไม่เห็นจะต่างจากทุกวันนี่ครับ” ปากบอกออกไปอย่างนั้นแต่มือยังตักอาหารไม่หยุด ยลรดียิ้มขำให้กับความปากแข็งของลูกชายตัวดีเพราะแทนที่จะชมคนทำกับบอกว่าอาหารตรงหน้านั้นก็ไม่ได้ต่างจากที่เคยเป็นมา
“มันต้องต่างสิตาภพเพราะว่าคนทำเขาตั้งใจทำมากๆ เอ๊ะ! นั่นมือของหนูเป็นแผลนี่” ยลรดีร้องถามด้วยความตกใจ
“โดนน้ำมันนิดหน่อยค่ะคุณป้า” ดรัณภพแอบมองมือบางของหญิงสาวแล้วก็คิ้วขมวด ด้วยความที่หญิงสาวเป็นคนผิวขาวจัดทำให้เมื่อได้รับบาดเจ็บก็จะสามารถมองเห็นได้ชัดเจน เขาได้แต่พึมพำเบาๆว่าหญิงสาวไม่ระมัดระวังเอาเสียเลย
“รีบไปทายาก่อนดีกว่านะหนูดา”
“เดี๋ยวบัวพาน้องไปเองค่ะ ฝากลูกหน่อยนะคะ” หญิงสาวหันไปบอกกับผู้เป็นสามี
“ไปเถอะครับ ไม่ต้องห่วงเจ้าเบย์หรอก” ดนุภัทร์ตอบกลับภรรยาน้ำเสียงอบอุ่น เขารู้ว่าภรรยารักลูกที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจแค่ไหนเพราะเขาก็รักไม่ต่างกัน