bc

365 วัน ใจดวงนี้ยกให้เธอ

book_age16+
184
FOLLOW
1.0K
READ
HE
sweet
office/work place
like
intro-logo
Blurb

ตั้งแต่ที่มีนวินดาเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตก็ทำให้ชีวิตของเขาไม่สงบสุขอีกต่อไป ถ้าสัญญาสิ้นสุดลงแล้วเขาจะทำอย่างไรในเมื่อเธอมาปั่นป่วนหัวใจของเขาจนไม่อาจมองผู้หญิงคนไหนได้อีก

"หนูดาก็เหมือนลูกสาวแม่อีกคน เพราะฉะนั้นลูกต้องดูแลหนูดาด้วย"

chap-preview
Free preview
บทที่1บทนำ
หลังจากรับสายจากโรงพยาบาลยลรดีก็เป็นลมล้มพับไปเพราะลูกชายคนเล็กของตนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการเข้าร่วมภารกิจสำคัญในการจับกุมพ่อค้ายารายใหญ่ ซึ่งตนและผู้เป็นสามีไม่สามารถไปหาลูกชายในทันทีทำให้ต้องให้ลูกชายคนโตไปดูอาการของน้องก่อน ดรัณภพสละเสื้อเกาะให้เพื่อนตำรวจนายหนึ่ง แม้จะระวังตัวเองแล้วแต่ก็ยังพลาดให้กับคนร้ายอยู่ดี เขาโดนยิงเข้าที่ช่องท้องเสียเลือดเป็นจำนวนมาก ทางโรงพยาบาลประกาศขอรับบริจาคเลือดเพื่อช่วยชีวิตของชายหนุ่มอย่างเร่งด่วน เสียงคุณพยาบาลประกาศขอความร่วมมือนั้นได้ยินมาถึงหูของนวินดาที่ยืนอยู่บริเวณนั้นพอดี เวลานี้เธอไม่มีอะไรจะเสียแล้วขอร่วมทำบุญใหญ่เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ครั้งนี้ก็แล้วกัน หากเธอช่วยใครสักคนได้เธอก็มีเรื่องให้ตนเองภูมิใจแล้ว เธอจึงเสนอตัวจะบริจาคเลือดให้กับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน “ดิฉันช่วยได้ค่ะคุณพยาบาล” “ยินดีเลยค่ะ เชิญทางนี้นะคะ” โชคดีที่เธอสามารถบริจาคให้เขาได้สำเร็จ หลังจากนั้นเธอก็มาดื่มน้ำหวานที่คุณพยาบาลเตรียมเอาไว้ให้และนอนพักสักครู่ ด้านดนุภัทร์พอทราบจากคุณพยาบาลก็รีบมาหาคนใจดีที่บริจาคเลือดช่วยเหลือน้องชายของตนในเวลาคับขัน คนตรงหน้าตัวเล็กนิดเดียวแต่มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่ เขานับถือเธอเลยจริงๆ ที่สำคัญรู้สึกถูกชะตาหญิงสาวตั้งแต่แรกเห็น “คุณนวินดาใช่ไหมครับ” “อะ เอ่อใช่ค่ะ คุณคือ...” “ผมชื่อดนุภัทร์ครับ เรียกผมว่าพี่ภัทรก็ได้ครับดูแล้วผมน่าจะอายุมากกว่าคุณนวินดา ผมเป็นพี่ชายของดรัณภพ คนที่คุณบริจาคเลือดให้น่ะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยทักทายอีกฝ่ายน้ำเสียงเป็นกันเอง “อ่อ อย่างนี้นี่เอง นวินดาค่ะ ดายินดีช่วยเหลือด้วยความเต็มใจค่ะ ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะพี่ภัทร” หญิงสาวตอบกลับน้ำเสียงแผ่วเบา รู้สึกเพลียจากการเสียเลือด “ว่าแต่น้องดามาทำอะไรที่โรงพยาบาลหรอครับ” ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้วเขาอดไม่ได้ที่จะถามออกไปด้วยความเป็นห่วง หากว่าเธอมาเองคนเดียวเขาก็อยากจะไปส่งเธอถึงที่บ้านอย่างปลอดภัย “ดามาเยี่ยมเพื่อนน่ะค่ะ” “วันนี้ให้พี่ไปส่งที่บ้านนะครับ พี่ไม่อยากให้น้องดากลับเองมันอันตราย” “ไม่เป็นไรเลยค่ะแค่นี้สบายมาก” “ถือว่าพี่ขอร้องแล้วกันนะครับ” “ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” “น้องดานอนพักอีกสักหน่อยนะครับ พี่ขอไปดูน้องชายของพี่ก่อนแล้วจะกลับมาครับ” ยลรดีไหว้พระขอพรให้ลูกชายพ้นขีดอันตรายและสุดท้ายมันก็เป็นอย่างที่นางหวัง เวลานี้ดรัณภพพ้นขีดอันตรายแล้ว ทุกคนในครอบครัวของชายหนุ่มรู้สึกโล่งใจมากแต่คุณหมอก้ยังให้พักฟื้นที่โรงพยาบาลต่อจนกว่าชายหนุ่มจะหายดี ดนุภัทร์เล่าเรื่องของนวินดาให้บิดามารดาฟัง มารดาของเขาได้ฟังดังนั้นก็อยากจะพบหน้าหญิงสาวใจดีคนนั้น “น้องดาครับ นี่แม่ของพี่เองครับ” “สวัสดีค่ะคุณป้า” “ป้าชื่อยลรดีจ้ะ ป้าขอบคุณหนูมากนะลูกที่ช่วยลูกชายของป้า ถ้ามีอะไรที่ป้าตอบแทนหนูได้บอกป้ามาเลยนะลูก” “ไม่ต้องตอบแทนอะไรหนูหรอกค่ะคุณป้า หนูพร้อมจะช่วยลูกชายของคุณป้าด้วยความเต็มใจ” “ผมกำลังจะไปส่งน้องครับ” “ดีแล้วล่ะตาภัทรค่ำมืดแบบนี้เป็นผู้หญิงกลับคนเดียวมันอันตราย ป้าขอเบอร์ติดต่อหนูบ้างได้ไหมจ้ะ” “ได้ค่ะ” หลังจากแลกเบอร์โทรศัพท์กันเรียบร้อย ดนุภัทร์ก็พาหญิงสาวไปส่งที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง บรรยายกาศโดยรอบดูเหมือนว่าจะไม่มีความปลอดภัยเอาเสียเลยสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวจนเขานึกสงสัยว่าเธออยู่กับใครหรือเปล่า “น้องดาอยู่กับใครหรอครับ” “ดาอยู่คนเดียวค่ะพี่ภัทร” “คนเดียวพี่ว่ามันอันตรายมากเลยนะครับ” ชายหนุ่มตอบกลับแทบจะทันที ห้องเช่าแห่งนี้อย่าว่าแต่ระบบรักษาความปลอดภัยเลยแค่แสงสว่างยังไม่เพียงพอเลย “ดาไม่มีทางเลือกหรอกค่ะ จริงๆ ดาก็เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ได้สักหนึ่งอาทิตย์” “ก่อนหน้านี้ล่ะครับ” “อยู่ห้องพักของทางโรงแรมน่ะค่ะ พอไม่ได้ทำงานที่นั่นก็เลยต้องย้ายออกมาหาห้องเช่าชั่วคราวก่อน” หญิงสาวตอบกลับอย่างปลงตก เธอต้องกลายเป็นคนตกงานโดยที่ไม่ทันตั้งตัว “ขอถามได้ไหมครับว่าทำไมถึงลาออก” “ไม่ได้ตั้งใจลาออกหรอกนะคะแต่ว่าดาโดนใส่ร้ายจนถูกไล่ออก เพื่อนที่บอกว่ามาเยี่ยมคนนี้แหละค่ะที่ทำร้ายกันได้ลงคอ” “ซับซ้อนจังเลยนะครับ ช่วยเล่าให้พี่ฟังหน่อยได้ไหมครับ” “ได้สิคะ สำหรับดามันไม่ใช่ความลับอยู่แล้วเพียงแต่ดาหาหลักฐานไปแก้ต่างให้ตัวเองไม่ได้” ในเมื่อคนตรงหน้าขอให้เธอเล่าเรื่องให้ฟัง เธอก็ยินดีจะเล่าเพราะอยากหาคนระบายความในใจด้วยอยู่แล้ว แน่นอนว่าเขาต้องไม่เข้าข้างใครง่ายๆเพราะไม่ได้สนิทสนมทั้งกับเธอและคู่กรณีของเธอ ย้อนกลับไปหนึ่งอาทิตย์ก่อน ตอนนั้นเธอกำลังเตรียมอาหารสุดพิเศษให้กับทางผู้บริหารของโรงแรม ถ้าหากว่างานนี้ผู้บริหารถูกปากเธอจะได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าเชฟ แน่นอนว่าเงินเดือนของเธอก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ถึงเวลานั้นเธอคงจะใช้ชีวิตในเมืองหลวงได้สะดวกสบายกว่านี้ แต่ตำแหน่งหัวหน้าเชฟมีได้คนเดียวเท่านั้นและผู้ที่ลงแข่งขันไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว อัญญ่าเพื่อนที่เข้ามาทำงานพร้อมกันกับเธอคบหากับรองหัวหน้าเชฟอย่างอัศวิน นั่นจึงเป็นเหตุผลให้อัญญ่าวางแผนลอบทำร้ายเธอลับหลังเพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าเชฟมาให้กับแฟนหนุ่ม อัญญ่าปวดท้องรุนแรงจากนั้นก็ตะโกนโหวกเหวกโวยวายว่าในอาหารของนวินดานั้นมีสิ่งผิดปกติ อัญญ่าอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของผู้บริหารหล่อนจึงลองเทสอาหารก่อนเสริฟ์จริงและหลังจากรับประทานเข้าไปแล้วก็เป็นอย่างที่ทุกคนเห็น ไม่มีใครเชื่อคำบอกเล่าง่ายๆ แต่ต้องมีสิ่งที่ยืนยันได้ ผู้จัดการโรงแรมจึงส่งอาหารที่หญิงสาวทำไปตรวจสอบและก็พบว่ามียาถ่ายอยู่ในอาหาร หญิงสาวปฏิเสธออกไปแต่ไม่มีใครเชื่อ เธอไม่เข้าใจว่าทุกคนทำไมถึงไม่เชื่อใจเธอ เธอไม่มีทางทำให้ตัวเองเดือดร้อนแบบนี้แน่นอน มันเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ “พี่เชื่อครับว่าน้องดาต้องไม่ทำแบบนั้นแน่ ถ้าทำนั่นก็เท่ากับว่าทำร้ายตัวเองชัดๆ” เรื่องที่หญิงสาวเล่ามาไม่ได้มีอะไรซับซ้อน มีเพียงความอิจฉาริษยาและอยากจะกำจัดคู่แข่งออกไปให้พ้นทาง “นั่นสิคะ พี่ภัทรยังเข้าใจเลยแล้วทำไมคนพวกนั้นไม่เข้าใจ ดาเซ็งมากเลยค่ะ” นวินดาบอกกับคนตัวโตน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงอารมณ์ “เป็นพี่พี่ก็เซ็งครับ ตอนนี้ก็เท่ากับว่าน้องดาว่างงานน่ะสิครับ” “ใช่ค่ะ ดาคงหาอะไรทำชั่วคราวไปก่อน แต่การที่ดาถูกไล่ออกแบบนี้ โรงแรมอื่นก็คงไม่อยากรับดาเข้าทำงานแล้ว" “ถ้าต้องการความช่วยเหลือบอกพี่ได้เลยนะครับ ถ้าน้องชายพี่หายดีคงต้องให้มาขอบคุณน้องดาให้เป็นเรื่องเป็นราว” “ขอบคุณนะคะ ไม่ต้องทำแบบนั้นหรอกนะคะ เอาเป็นว่าไม่บอกเขาได้ไหมคะว่าดาเป็นคนบริจาคเลือดให้เขา” เธอรู้สึกซาบซึ้งใจมากที่คนตัวโตหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้เธอ เธอจะลองหางานทำเองก่อนถ้าไม่มีหนทางจริงๆ ก็คงต้องขอให้เขาช่วยเหลือ “ทำไมล่ะครับ” “ก็เพราะว่าดาไม่ได้ทำดีหวังผลตั้งแต่แรกไงคะ ตอนนั้นดาแค่อยากช่วยจริงๆ” ชายหนุ่มพยักหน้าขึ้นลงเบาๆเป็นอันเข้าใจหญิงสาวแล้ว เขารอจนเธอเดินเข้าไปในอาคารจึงขับรถยนต์คันหรูออกไป "คุณพ่อกลับมาแล้ว" น้องเบย์ลูกชายของดนุภัทร์เอ่ยบอกกับผู้เป็นแม่เสียงใสด้วยความดีใจ "ว่าไงครับคนเก่งของพ่อ ดื้อกับแม่เขาหรือเปล่า" "ไม่ดื้อคร๊าบ" หนุ่มน้อยส่ายหัวไปมาเบาๆ "ภพเป็นยังไงบ้างคะพี่ภัทร" "ปลอดภัยแล้วครับ โชคดีที่น้องดามาบริจาคเลือดให้" "ใครกันคะน้องดา" "รู้จักกันตอนพี่ไปขอบคุณเขาที่ช่วยเหลือตาภพนี่แหละครับที่รัก" "อย่างนี้นี่เอง วันหลังบัวจะทำขนมไปขอบคุณน้องเขา ว่าแต่มีช่องทางการติดต่อกันไหมคะ" "มีเบอร์โทรศัพท์ครับ พี่ไปส่งน้องดาที่ที่พักมาด้วย" "ดีแล้วล่ะค่ะ ยังไม่ได้ทานอะไรมาใช่ไหมคะ" "ใช่ครับ เรื่องตาภพทำให้พี่กินอะไรไม่ลง แต่ว่าตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว พี่ขออะไรอร่อยๆรองท้องหน่อยก็ดีครับ" "จัดให้เลยค่ะคุณสามี ส่วนเจ้าลูกหมูของแม่เอาไก่ทอดใช่ไหมจ๊ะ" "ใช่คร๊าบบ" ยลรดีและไววิทย์ฝากให้ผู้จัดการไร่ดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างแทนในระหว่างที่นางและผู้เป็นสามีมาดูแลลูกชายที่โรงพยาบาล ดรัณภพพื้นตัวอย่างรวดเร็วด้วยเดิมทีแล้วร่างกายของชายหนุ่มแข็งแรงมากไม่ค่อยได้เจ็บไข้ได้ป่วยมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว คนเป็นแม่จึงวางใจเมื่ออยู่ในความดูแลของคุณหมอ “ตาภพมาทานข้าวเช้ากันเถอะลูก” “ผมทานเองได้ครับแม่ แม่ทำเหมือนผมเป็นเด็กสามขวบไปได้” “ก็ลูกยังเป็นเด็กในสายตาแม่นี่หน่า โชคดีแค่ไหนแล้วที่ตอนนั้นมีคนใจดีบริจาคเลือดให้ลูกได้ทันเวลา” “บอกผมได้ไหมครับว่าคนคนนั้นเป็นใคร” “เขาไม่ประสงค์จะบอกชื่อจ้ะ” “ผมโชคดีมากครับ ผมขอให้เขาคนนั้นมีแต่ความสุข” “จ้ะ แม่ก็หวังแบบนั้นเหมือน แม่มีเรื่องอยากจะขอร้องลูกบ้าง” “เรื่องอะไรล่ะครับ” “ลูกก็รู้ว่าแม่ทนไม่ได้ที่ลูกได้รับบาดเจ็บแบบนี้” ยลรดีบอกกับลูกชายเสียงสั่น นึกย้อนกลับไปตอนนั้นหล่อนก็แทบจะขาดใจ หล่อนรักและดูแลลูกชายมาอย่างดี หล่อนและผู้เป็นสามีไม่เคยตีลูกชายเลยด้วยซ้ำได้แต่สั่งสอนลูกด้วยเหตุผล “กลับไปอยู่ที่ไร่เราเถอะนะลูก อย่าทรมานตัวเองแบบนี้เลย ลูกควรจะลืมคนที่ทำให้ลูกต้องเจ็บทั้งกายทั้งใจได้แล้วนะลูก ถือว่าสงสารหัวใจของแม่ก็ได้” มารดาของเขาดวงตาแดงก่ำ นอกจากเขาจะทำร้ายตัวเองแล้วเขายังทำร้ายจิตใจครอบครัวของเขาด้วยสินะ เขาคงต้องตัดสินใจเรื่องนี้ใหม่

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook