@สนามบินปารีสออร์ลี (Paris – Orly Airport)
“ถึงสักที...” ฉันพูดหลังจากที่มาถึงสนามบินปารีสออร์ลี สำหรับฉันการบินมาปารีสครั้งนี้มันน่ากลัวแล้วก็ยาวนานสำหรับฉันมาก ๆ เพราะเครื่องบินตกหลุมอากาศบ่อยจนฉันใจไม่ดีเลยสักนิด
“กลัวขนาดนั้นเลยหรือไง?” มาแทนเดินมาหยุดอยู่ข้างฉันเอ่ยพูดพร้อมกับหันมามองหน้าฉันนิ่ง ๆ
“กลัวดิ บินรอบนี้เครื่องบินตกหลุมอากาศบ่อยมากอะ...”
“ฉันเชื่อแล้วว่าเธอกลัวจริง ๆ เพราะเธอเล่นจิกมือฉันเป็นรอย
หมดเลย...” ว่าจบร่างสูงก็ยกมือขึ้นให้ธารน้ำดูร่องรอยเล็บของเจ้าตัวที่
จิกมือเขาไว้ตอนเครื่องบินตกหลุมอากาศ
“เป็นรอยหมดเลยอะแทน เจ็บมากไหม...” ธารน้ำเบิกตากว้างตกใจก่อนจะจับมือเขาขึ้นมาดู มือบางลูบที่รอยแผลบนมือมาแทนเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้ามองเขาอย่างรู้สึกผิด
“ขอโทษนะ เป็นแผลเลยอะ...”
“ช่างมัน ฉันไม่ได้เจ็บอะไร...” มาแทนพูดเสียงเรียบก่อนจะดึงมือตัวเองกลับมาเพราะทีมงานอีก 3 คนที่ติดตามมาด้วยเดินมาถึงกันครบหมดแล้ว...
“รถจอดรออยู่ทางนี้นะคะน้องธาร...” หนึ่งในทีมงานเดินมาบอกธารน้ำกับมาแทนก่อนจะเดินนำทั้งคู่ไปขึ้นรถที่ทางโรงแรมจัดเตรียมมารอรับที่สนามบิน
“พี่ธาร!!!” แต่แล้วเสียงใสของใครบางคนก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของเธอ ธารน้ำชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดินก่อนจะหันกลับไปมอง…
“อ้าวแอล!?…” ธารน้ำเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจที่จู่ ๆ ก็มาเจอแอลลี่ที่ปารีส ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้แอลลี่บอกว่าอยู่เมืองไทยแล้ว
“พี่ธาร พี่ธารจริง ๆ ด้วย บังเอิญจังค่ะ >.@Ritz Paris
ทันทีที่มาถึงโรงแรมซึ่งทางทีมงานของ Versace จัดเตรียมไว้ให้
ทุกคนก็เดินไปตามห้องพักของแต่ละคน...และทุกคนในที่นี้ต่างก็เหนื่อยล้าจากการนั่งเครื่องบินเป็นเวลาหลายชั่วโมง
ธารน้ำก็เหมือนกันเพราะตอนที่นั่งเครื่องมาเธอไม่ได้หลับเลย
“เจอกันตอนมื้อเย็นเลยนะ...ธารขอนอนก่อน” ทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่หน้าห้องพักของตัวเองก่อนที่ร่างบางจะหันไปบอกร่างสูง
“วันนี้เป็น วันบัสตีย์ (Bastille Day) ของที่นี่ เธอไม่อยากไปดูงานเหรอ?” ร่างสูงถามธารน้ำเสียงเรียบ
“จริงด้วย วันนี้ที่นี่มีงานนี่...”
“อืม...”
“งั้นเราไปกันไหม...” ร่างบางถามร่างสูงด้วยสายตาที่เป็นประกายขึ้นมา...เธอลืมไปเลยว่าวันนี้เป็นวันที่ปารีสจะจัดงานวันบัสตีย์ที่บริเวณ
หอไอเฟล
“ไม่นอนแล้วไง?” ร่างสูงพูดพร้อมกับเลิกคิ้วตัวเองขึ้นนิด ๆ ร่างบางตรงหน้านิ่งคิด
“งั้นขอนอนชั่วโมงเดียวนะ...”
“แล้วแต่เธอ ไม่ตื่นก็เรื่องของเธอ...” ร่างสูงไหวไหล่ตัวเองนิด ๆ ก่อนจะยิ้มที่มุมปากตัวเอง
“ตื่นสิชั่วโมงเดียวเอง... แต่ถ้าอีก 1 ชั่วโมงฉันยังเงียบอยู่...”
“นายโทรมาปลุกหน่อยนะ...” ร่างบางพูดเสียงอ้อน ๆ ก่อนจะกะพริบตาเป็นเชิงขอร้องเขา...ร่างสูงไม่ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้าน้อย ๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องพักตัวเองไป...
ร่างบางยิ้มดีใจก่อนจะรีบเข้าห้องพักของตัวเอง หญิงสาวเดินสำรวจห้องพักของตัวเองก่อนจะรู้สึกว่ามันใหญ่เกินไปสำหรับการนอนคนเดียวของเธอมาก ๆ ภายในบริเวณห้องมีผนังแยกไว้เป็นสัดส่วนทั้งหมด
“ห้องใหญ่เกินไปไหมเนี่ย...” ร่างบางพูดพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะมองไปรอบ ๆ พลันทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมาแปลก ๆ ใจเธอเริ่มรู้สึกหวิว ๆ
กับห้องนี้ยังไงก็ไม่รู้ เธอรู้มาว่าโรงแรมที่นี่เป็นโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2441 แต่ว่าความหรูหรายังคงไว้เอาไว้มาถึงปัจจุบัน...
ร่างบางเลิกคิดก่อนจะรีบกระโดดขึ้นเตียงนอนคิงไซซ์ทันที ในเวลา
1 ชั่วโมงเธอต้องนอนพักเอาแรงไว้ก่อน...ธารน้ำหลับตาก่อนจะค่อย ๆ เข้าสู่ห้วงนิทราไปเรื่อย ๆ ...แต่ทว่าในสติที่ค่อย ๆ เลือนรางนั้นเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ก็ดังขึ้นราวกับมีคนเดินอยู่ด้านนอกห้องนอนซึ่งก็คือห้องนั่งเล่น
และเสียงเท้านั้นมันก็ดังและหนักขึ้นเรื่อย ๆ
แต่แล้วเสียงบางอย่างก็ดังมาจากในห้องน้ำที่อยู่ในตัวห้องนอนซึ่งเธอนอนอยู่ราวกับว่ามีคนอยู่ในนั้น เพราะมีเสียงกดชักโครกดังขึ้นและยังมีเสียงเปิดฝักบัวดังขึ้นอีกด้วย...
ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ แต่ทว่าร่างกายของเธอกลับขยับไม่ได้...และสิ่งที่ทำให้เธอช็อกสุดขีดก็คือจู่ ๆ ประตูห้องนอนของเธอ
ก็ค่อย ๆ เปิดออกเองแต่กลับไม่มีคนเดินเข้ามา...ดวงตากลมโตเบิกกว้าง
อีกครั้งเมื่อเห็นว่าประตูห้องนอนของเธอมันปิดเอง...
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรอะ...” ธารน้ำพูดในใจอย่างหวาดกลัว...
สายตาของธารน้ำกวาดไปรอบ ๆ ห้องแต่เธอก็ยังขยับตัวไม่ได้อยู่ดี...เธอรับรู้ได้ถึงแรงยวบของที่นอนซึ่งเหมือนกับว่ามีคนมานั่งลงข้าง ๆ เธอ...
แต่ที่ทำให้ร่างบางเริ่มใจสั่นขึ้นมาคือเธอรับรู้ได้ถึงลมเย็น ๆ ราวกับมีใครมาหายใจรดอยู่ข้าง ๆ ใบหูของเธอ...
ธารน้ำหลับตาลงแน่น เธอรู้แล้วว่าตอนนี้เธอกำลังโดนผีอำเข้าจนได้ ตั้งแต่เกิดมานี่คือครั้งแรกเลยที่เธอเจอเรื่องอะไรแบบนี้
หญิงสาวพยายามสวดมนต์ สวดทุกบทที่เธอพอจำได้ เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ค่อย ๆ ผุดขึ้นที่หน้าผากมน ธารน้ำไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอนอนอยู่โดยที่ขยับตัวไม่ได้ แต่การที่มีเสียงหัวเราะของบางสิ่งที่เธอมองไม่เห็นมาหัวเราะอยู่
ข้าง ๆ หูเธอมันยิ่งทำให้เธอเริ่มสติแตก...
“ฮือออ ไม่เอา!” ร่างบางตะโกนออกมาเสียงดังลั่น และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกตัวและขยับตัวได้ หญิงสาวเหงื่อแตกพลั่กก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องโดยที่หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความกลัว
“ไม่อยู่แล้ว!!!” ธารน้ำพูดเสียงหลงก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าสะพายแล้ววิ่งออกจากห้องเธอไปห้องมาแทน...
ก๊อก ๆ ๆ ๆ !!!
“แทน! แทน ๆ” ธารน้ำเคาะห้องของมาแทนรัว ๆ พร้อมกับตะโกนเรียกมาแทน...ร่างสูงที่นั่งเล่นเกมอยู่ที่ห้องนั่งเล่นมองไปที่ประตูด้วยความประหลาดใจเพราะไม่คิดว่าธารน้ำจะตื่นเร็วขนาดนี้ เวลามันเพิ่งจะผ่านไปครึ่งชั่วโมงเอง
ร่างสูงเดินไปเปิดประตูห้องพักแต่ยังไม่ทันที่จะถามอะไร ร่างบางที่ยืนหน้าตื่นอยู่หน้าประตูก็รีบวิ่งเข้ามาในห้องเขาทันที มาแทนมองใบหน้าสวยที่ตอนนี้มันซีดจนเขาอดแปลกใจไม่ได้
“เป็นอะไร?” มาแทนถามเสียงนิ่งก่อนจะปิดประตูแล้วเดินมาหาธารน้ำ…
“นะ ในห้องธารมัน...”
“มันอะไร?”
“มะ มันมีผีอะแทน ธารโดนผีแกล้ง!” หญิงสาวพูดเสียงหลง ดวงตากลมโตยังคงเบิกกว้างไปด้วยความตกใจ มาแทนมองภาพตรงหน้าก่อนจะอดรู้สึกขำไม่ได้ เพราะตอนนี้ใบหน้าสวย ๆ ของธารน้ำซีดเป็นไก่ต้มเลยจริง ๆ ...
ผมยาวสวยสีดำสนิทของเธอก็ยุ่งเหยิงไปหมด
“แทนขำอะไร ธารไม่ตลกนะ เมื่อกี้ขยับตัวไม่ได้เลย T^T…” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ เพราะเธอกลัวจริง ๆ และดวงตากลมของร่างบางก็เริ่ม
มีน้ำตาคลอขึ้นมานิด ๆ ...
“เธอเหนื่อยเกินไป จนร่างกายมันขยับไม่ได้หรือเปล่า...”
“ไม่อะแทน ธารได้ยินเสียงคนขำ ได้ยินเสียงเท้าคนเดินอยู่ข้างนอก ได้ยินเสียงคนอยู่ในห้องน้ำ...” ธารน้ำพูดรัวออกมาด้วยความกลัว เมื่อกี้เธอกลัวมากจริง ๆ และตอนนี้หยดน้ำตาก็ค่อย ๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยของธารน้ำแล้ว
ในตอนนี้เธอทั้งตกใจทั้งกลัว
มาแทนมองธารด้วยสีหน้าอึ้ง ๆ เพราะไม่คิดว่าเธอจะกลัวมากขนาดนี้...
ร่างสูงชั่งใจคิดก่อนที่เขาจะขยับตัวเข้าไปหาธารน้ำซึ่งยืนตัวสั่นอยู่แล้วค่อย ๆ ดึงร่างบางเข้ามากอดไว้...
“ไม่มีอะไรแล้ว...เธอก็มาอยู่ในห้องฉันแล้วนี่ไง...”
“เมื่อกี้สวดมนต์แล้ว แต่ผีก็ไม่ไปอะแทน ฮึก...” ร่างบางพูดออกมาก่อนจะเบะปากร้องไห้เหมือนเด็กน้อย...มาแทนหลุดขำออกมาด้วยความรู้สึกเอ็นดูให้กับอาการกลัวผีของธารน้ำ...
ในตอนนี้เขาทั้งเอ็นดูแล้วก็ขำอาการของธารน้ำมากจริง ๆ
“ตอนโดนยิงยังไม่ร้องไห้เป็นเด็กแบบนี้เลย...”
“ก็ตอนนั้นมัน ฮึก เจ็บจนร้องไม่ออกอะ ฮือออ...แต่อันนี้มันผีอะ ฮือออ”
“มันหนีก็ไม่ได้ มันขยับตัวก็ไม่ได้อะ ฮือออ”
“โอเค ๆ ไม่เป็นไรแล้ว หยุดร้องไห้ได้แล้ว...” มาแทนพูดพร้อมกับลูบหัวธารน้ำเบา ๆ ธารน้ำซุกหน้าลงกับอกแกร่งของมาแทนพร้อมกอดเขาไว้แน่น
“ยังอยากนอนอีกไหม...” มาแทนถามร่างบางที่ยังคงยืนกอดเขา
ไม่ปล่อย...
“ไม่นอนแล้ว เดี๋ยวผีห้องนู้นตามมา...” ร่างบางผละหน้าออกจาก
อกแกร่งก่อนจะพูดด้วยใบหน้าจริงจัง มาแทนหลุดยิ้มขำออกมาอย่างห้ามไม่ไหว ธารน้ำเห็นแบบนั้นก็ฟาดมือไปที่อกแกร่งทันที
เพียะ!!!
“นายจะยิ้มไรฮะ! คนยิ่งกลัว ๆ อยู่” ร่างบางหน้ามุ่ยก่อนจะมองร่างสูงที่ยังยืนขำอยู่
“เธอนี่มันกลัวอะไรที่ไม่เข้าท่าเลยจริง ๆ ...” มาแทนพูดแค่นั้นก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา ร่างบางมองซ้ายมองขวาไปด้วยความกลัว ก่อนจะรีบเดินตามไปนั่งข้างเขา...
“แทน...”
“ว่า...”
“คืนนี้ฉันมานอนกับนายได้ไหม T^T…” ร่างบางพูดเสียงเบาก่อนจะมองใบหน้าคมที่ยังจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์ตัวเอง
“นอนกับฉัน?” ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองใบหน้าสวยด้วยความประหลาดใจนิด ๆ แต่ร่างบางก็พยักหน้าหงึกหงัก
“ขอร้องละ ฉันกลับไปห้องนั้นไม่ได้อีกแล้ว...”
“อืม...” มาแทนพยักหน้ารับนิด ๆ ก่อนจะหันไปจดจ่อกับเกมในโทรศัพท์อีกครั้ง แต่จริง ๆ แล้วภายในใจเขากลับรู้สึกแปลก ๆ เพราะจริง ๆ นี่เป็นงานแรกที่เขาได้มากับธารน้ำสองคน ปกติพวกเขาจะมากันเป็นกลุ่มแต่ครั้งนี้มันต่างออกไป
“นอนไหม...”
“นอนได้เหรอ...”
“ได้...เธอนอนเถอะ เดี๋ยวฉันปลุก...” มาแทนพูดนิ่ง ๆ ราวกับไม่ได้สนใจอะไร ธารน้ำยิ้มออกมานิด ๆ ก่อนจะขยับตัวลงนอน... ร่างสูงจะขยับตัวเองออกให้ธารน้ำนอนสบาย ๆ แต่มือบางดันคว้าต้นขาของเขาเอาไว้พร้อมกับเอาหัวตัวเองนอนหนุนตักเขา...
มาแทนมองการกระทำของธารน้ำนิ่ง ๆ ความรู้สึกบางอย่างมันก่อตัวอยู่ภายในใจ แต่เขากลับอธิบายไม่ได้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกอะไรอยู่
“ขอหนุนตักหน่อยนะ...” ร่างบางพูดแค่นั้นก่อนจะหลับตาลง...ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไร และเขาเองก็ไม่ได้ขยับตัวหนีธารน้ำไปไหน...