“โอ้โฮ ธาร! ปากแบบนี้แสดงว่าหายดีแล้วดิ...” สกายพูดพร้อมกับผลักหัวฉันเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองหน้ากับคีรินแล้วก็มาแทน
“หายแล้ว! และถ้าออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่จะกลับไปตีหัวนาย!...” ฉันพูดพร้อมกับคาดโทษสกายเอาไว้ เพราะช่วงที่ฉันอยู่โรงพยาบาล ฉันก็มาไล่อ่านข่าวต่าง ๆ ย้อนหลังของสกาย
ข่าวหมอนี่ควงไอดอลสาวดังไปทั่วเลย = =’
“โห่!!! นี่ยัยโหด!”
“ทำไมฮะ ไอ้ตี๋!”
“เออใช่ดิ! เรามันไม่ใช่แทนไง เราทำไรก็ผิดแหละธาร” ฉันมองหน้าสกายที่พูดด้วยน้ำเสียงเหมือนติดน้อยใจนิด ๆ ก่อนจะหน้ามุ่ยขึ้นมาทันที
ฉันหลุดขำออกมาให้กับท่าทีของสกายตอนนี้ก่อนคีรินจะพูดขึ้นมาว่า
“มึงไม่บอกธารไปอะว่าวันที่ธารเข้าโรงพยาบาลวันแรก มึงไปร้องไห้อยู่หน้าห้องฉุกเฉินอะ...”
“ฮะ?! นายเนี่ยนะ? ไปร้องไห้อยู่หน้าห้องฉุกเฉิน?” ฉันถามด้วยความประหลาดใจก่อนจะมองสกายอึ้ง ๆ
“อะไร ๆ ฉันก็แค่...” สกายอึกอักแล้วก็ดูมีท่าทีเคอะเขินขึ้นมาทันที
“แค่อะไร?” ฉันถามพร้อมกับขำออกมา
“เออ ร้องก็ร้องวะ ก็มันเป็นห่วงนี่โว้ย! ฉันกับเธอตีกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ถ้ายัยคนขี้บ่นอย่างเธอหายไปฉันคงเหงาหูแย่”
“จริง ๆ ตอนมันรู้ว่าธารโดนยิง มันมาร้องไห้อยู่หน้าห้องฉุกเฉินนะ โวยวายเหมือนคนบ้าเลย…” คีรินพูดขึ้นมาขำ ๆ ก่อนจะมองหน้าสกายที่ตอนนี้เลิ่กลั่กไม่ไหว
“มันถึงขั้นที่บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์เลยอะ ว่าถ้าเธอรอดพ้นขีดอันตราย” มาแทนพูดเว้นจังหวะก่อนจะหันไปมองหน้าสกายนิด ๆ แล้วพูดต่อ
“มันจะเลิกเจ้าชู้ เลิกควงเด็กในวงการ…”
“ขอแค่เธอรอด มันจะทำทุกอย่างเลย…”
“ไอ้เหี้ยแทนมึงหยุดพูดเลย…” สกายพูดพร้อมกับเดินมาล็อกคอมาแทนไว้แก้เขิน ฉันอมยิ้มให้กับอาการของสกายที่เขินอายจนทำตัวไม่ถูกแล้วละ
“อย่ามาขำยัยโหด วันนั้นฉันตกใจเฉย ๆ เลยร้องไห้หนักขนาดนั้น…”
“อ๋อ ๆ …” ฉันพูดพร้อมทำหน้าตากวน ๆ ใส่สกาย…
“ไอ้เหี้ย เกิดเป็นกูน่าสงสารฉิบหาย เพื่อนไม่เคยเข้าข้างเลย…” สกายหน้ามุ่ยขึ้นมาทันทีก่อนจะเดินไปคว้าถ้วยเกี๊ยวกุ้งของฉันขึ้นมาพร้อมกับตักเข้าปาก
“ใครให้มึงกินอะไอ้กาย” มาแทนพูดพร้อมกับมองไปที่เพื่อนก่อนจะยิ้มขำออกมา
“ก็กูหิวอะ...”
“หิวหรือกินแก้เขิน?” ฉันถามแหย่พร้อมกับจิ้ม ๆ ไปที่แก้มตุ่ย ๆ ของสกายที่มีเกี๊ยวกุ้งอยู่ในปาก
“ถ้าเธอยังไม่เลิกแซวฉัน เธอโดนแน่”
“โดนอะไร?”
“โดนฉันจูบไง!” สกายพูดทีเล่นทีจริงก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันจนฉันเองตั้งตัวไม่ทัน แต่คนที่ไวกว่าฉันก็คือมาแทนเพราะเขาเข้ามาผลักหน้าสกายให้ออกห่างจากหน้าฉันอย่างรวดเร็วจนสกายเกือบหงายหลัง
เอาจริง ๆ พวกสกายมักจะเล่นกับฉันแบบนี้บ่อย ๆ นั่นแหละ อาจจะเป็นเพราะฉันกับสกายสนิทกันตั้งแต่เด็กด้วยมั้ง
“ไอ้เหี้ยแทน! ผลักกูแรงไปนะสัส” สกายโวยวายขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะมองหน้ามาแทนที่นั่งนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ก็มึงเล่นเหี้ยไรไม่รู้เรื่อง...”
“เดี๋ยว ๆ อันนี้ที่ผลักกูออก เพราะเป็นห่วงธารกลัวเจ็บแผล หรือมึงหวงธารมันไม่ทราบ...”
ฉันหันไปมองหน้ามาแทนก่อนจะเห็นว่าตอนนี้เขากำลังมองหน้าฉันสลับกับหน้าของสกายอย่างเลิ่กลั่ก
“อะไรของมึง ธารยังไม่หายดี มึงจะเล่นเหี้ยไรก็ดูก่อน...” มาแทนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ต่างจากฉันที่นั่งหน้าแห้วอยู่ เพราะแอบไปคิดว่าเขาจะรู้สึกอะไรบ้าง...
“ละคืนนี้ใครนอนเฝ้าธารอะ...” คีรินถามขึ้นหลังจากนั่งเงียบไปสักพัก
“กูไง”
“ไม่ต้องก็ได้แทน เดี๋ยวพรุ่งนี้ธารก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว”
“ไม่ได้ ไอ้โยก็ยังไม่หาย พ่อแม่เธอก็ไม่อยู่บ้าน”
“แต่ว่าฉันนอนคนเดียวได้ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้นายค่อยมารับฉันก็ได้...”
“ไม่ดื้อสักวันมันจะตายไง?” มาแทนพูดพร้อมกับมองหน้าฉัน
ให้ตายสิทำไมฉันต้องกลัวให้กับสายตานิ่ง ๆ ของเขาด้วยวะ = =’
“ทำไมกูรู้สึกว่าภาพตรงหน้ากูเหมือนคู่รักกำลังนั่งทะเลาะกันเลยวะ
ไอ้คีย์”
“มึงไม่ต้องหาพวก กูไม่อยากโดนธารบ่น...”
“ไอ้เหี้ย เกิดเป็นกูนี่น่าสงสารจริง ๆ ด้วยแหละ = =’”
“ถ้ามึงสองคนไม่มีอะไรแล้วก็กลับได้แล้ว” มาแทนพูดพร้อมกับมองหน้าเพื่อนทั้งสองคน คีรินกับสกายมองหน้ากันไปมารวมถึงฉันด้วยที่จู่ ๆ มาแทนก็พูดขึ้นมาแบบนั้น
“อ้าวทีงี้ทำไล่...พวกกูเพิ่งมาถึงเองจะรีบให้พวกกูกลับไปไหนล่ะ” สกายพูดก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์หรี่ตามองมาแทน
“ธารจะได้พัก ขืนถ้ามึงยังอยู่ธารไม่ได้พักแน่ ๆ ...”
“ไอ้แทนมึงรู้ตัวไหม?”
“อาการมึงชักน่าสงสัยขึ้นทุกวัน...”
“สงสัยเหี้ยไรมึง? ไอ้คีย์มึงเอาไอ้ตี๋นี่กลับไปซิ” มาแทนพูดด้วยน้ำเสียงติดหงุดหงิดนิด ๆ คีรินยิ้มขำก่อนจะเดินมาล็อกคอสกายให้ขยับไปอยู่ข้าง ๆ
“เออ ๆ กูกลับก่อนก็ได้ บ่ายมีงานพอดีเดี๋ยวเจอกันที่บริษัทเลยนะเจ๊โหด…”
สกายพูดก่อนจะยักคิ้วใส่ฉันนิด ๆ
“ได้เจอฉันแน่ ไม่ต้องห่วง”
“ไปก่อนนะธารนะ เดี๋ยวไว้เจอกัน...” คีรินพูดนิ่ง ๆ ก่อนจะยิ้มตามสไตล์เจ้าตัว ฉันนั่งมองสองคนนั้นที่เดินออกจากห้องพักไป ก่อนจะหันมามองร่างสูงที่นั่งหน้านิ่งก้มมองข่าวอะไรสักอย่างในโทรศัพท์
ฉันนั่งมองใบหน้าหล่อเหลาของที่ทำให้ฉันตกหลุมรักมาตั้งแต่เด็ก...ในบรรดาเพื่อนพี่โย มาแทนเป็นคนเดียวที่ทำให้ฉันยอมทุกอย่าง ฉันรู้ตัวว่าฉันเป็นคนเอาแต่ใจมาก ๆ เจ้ากี้เจ้าการ แล้วฉันก็ไม่เคยยอมให้ใคร
แต่กับแทน เขาคือข้อยกเว้นทั้งหมดของฉัน
แล้วเขาก็ทำให้ฉันเรียนรู้ที่จะโตขึ้นในทุก ๆ วัน เขาเป็นคนที่ทำให้ฉันอยากเป็นคนที่ดีขึ้นกว่านี้
มันคงจะดีไม่น้อย ถ้าเขารู้สึกกับฉันเหมือนที่ฉันรู้สึกกับเขา
“ถามอะไรหน่อยสิ…” มาแทนเงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉันพร้อมกับเลิกคิ้วตัวเองขึ้นนิด ๆ เป็นเชิงถาม...
“วันนั้นนายกลัวไหม?” ฉันถามไปด้วยความอยากรู้
ฉันอยากรู้ว่าเขาจะรู้สึกกลัวบ้างไหม…
กลัวว่าฉันจะเป็นอะไรไปบ้างไหม...
“กลัวอะไร?”
“กลัวว่าฉันจะตายน่ะ...” ฉันถามพร้อมกับสบตาเขา...นัยน์ตาของมาแทนวูบไหวจนฉันรับรู้ได้...
ร่างสูงตรงหน้าฉันนิ่งเงียบไปอึดใจหนึ่งก่อนที่เสียงทุ้มจะเอ่ยขึ้น
“ยังต้องถามอีกหรือไง?”
“หืม?”
“ที่ฉันตามมาเฝ้าเธอทุกวันแบบนี้…”
“ยังไม่รู้คำตอบอีกเหรอ?” มาแทนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมกับสบตาฉัน…
ฉันสบตาเขาด้วยหัวใจที่เต้นรัว…
สายตาที่มาแทนใช้มองฉันในตอนนี้ มันดูแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่มันต่างไปจากเดิมมาก ๆ
ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าฉันคิดไปเองไหม…
ราวกับว่ามีแรงดึงดูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ใบหน้าของฉัน และเขาขยับเข้ามาใกล้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ
จนฉันรับรู้ได้ถึงลมหายใจของฉันและเขา…
และอีกนิดเดียว ริมฝีปากของเราทั้งคู่ก็เกือบจะ...
แอดดด!
“มึงอะขี้ลืมไอ้คีย์! เสียเวลาไอ้สัส!”
เสียงประตูห้องพักของฉันถูกเปิดออกอีกครั้ง ตามมาด้วยสกายที่โวยวายดังขึ้นมา
ฉันกับมาแทนผละใบหน้าออกจากกันโดยอัตโนมัติ…
บ้าจริง…
“มึงจะทำอะไรเบา ๆ ไม่ได้เลยไงไอ้กาย กูอายคนอื่นเขาฉิบหาย” คีรินพูดด้วยน้ำเสียงติดรำคาญนิด ๆ
“แล้วกูเสียงดังตรงไหน... อ้าว แล้วทำไมหน้าเป็นงั้นอะธาร?” สกายหันไปตอบคีรินก่อนจะหันมามองหน้าฉันแล้วถาม
ฉันละอยากจะกระโดดลงจากเตียงแล้วเดินไปขยี้หัวไอ้ตี๋ตรงหน้าซะเดี๋ยวนั้น
ฉันหงุดหงิด หงุดหงิดจริง ๆ นะ
ให้ตายสิ!
“ฉันเบื่อขี้หน้านาย!” ฉันพูดออกไปด้วยความเซ็ง เมื่อกี้มันอีกนิดเดียวจริง ๆ นะ อีกนิดเดียวเอง T^T
หลังจากที่ สกายกับคีรินออกไปจากห้อง ฉันก็อยู่ในห้องกับมาแทนกันสองคน แต่ก็ได้เวลาที่พยาบาลเข้ามาให้ยาอีกครั้ง แล้วพอฉันได้ยาตัวนั้น
ฉันก็ต้องนอนพัก บวกกับมาแทนก็กลับไปที่คอนโดตัวเองเพื่อเอาเสื้อผ้ากลับมานอนเฝ้าฉัน...กลายเป็นว่าพลาดโอกาสดี ๆ ไปซะแล้ว
หลายวันต่อมา
@The One Ent.
วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันได้กลับเข้ามาทำงานหลังจากที่หยุดไปหนึ่งเดือนเต็ม ๆ หลายสิ่งไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ไปจากเดิม ทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติหลังจากที่พ่อของพี่อลิซโดนจับ ต่างก็แค่เปลี่ยนบอร์ดบริหารใหม่ทั้งหมด หุ้นของบริษัทก็ถูกซื้อไปทั้งหมดโดยตระกูลของสกาย...
ว่าง่าย ๆ ก็คือตอนนี้สกายเป็นลูกเจ้าของค่าย The One Ent.
แล้วก็ยังเป็น ดาราศิลปินของค่ายด้วย
ฉันเดินเข้ามาในห้องทำงานของตัวเอง ซึ่งปกติฉันไม่ค่อยได้เข้ามาทำงานในห้องนี้หรอก
“ยินดีต้อนรับกลับมาทำงานนะธาร…” พอฉันเปิดประตูเข้าไปก็เห็นดารัณยืนยิ้มหวานพร้อมกับถือช่อดอกไม้รอฉันอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของฉัน
ฉันละอิจฉาดารัณมาก ๆ เลยที่มีรอยยิ้มที่สดใสได้ขนาดนั้น…
อยากเป็นผู้หญิงที่มองแล้วสบายตาสบายใจได้อย่างรัณชะมัดเลยอะ…
“ขอบคุณนะรัณ...” ฉันเดินไปรับช่อดอกไม้จากรัณ ก่อนจะอดรู้สึกขอบคุณแล้วก็ขอโทษผู้หญิงตรงหน้าที่ฉันเคยมองเขาไม่ดีไม่ได้ ยิ่งผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน
ฉันยิ่งรู้สึกโกรธตัวเองที่เคยทำเรื่องแย่ ๆ แบบนั้นกับรัณไป
“ต่อไปนี้เราจะมีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามากันนะ...”
“ใช่รัณ...เรื่องแย่ ๆ แบบนั้น ไม่เอาอีกแล้วนะกลัวตาย...” ฉันพูดติดตลกนิด ๆ แต่ก็แอบคิดจริง ๆ ว่าถ้าให้ฉันไปรับกระสุนแทนใครอีก ฉันก็ไม่เอาแล้ว...
พอรอดตายมาได้ ก็กลัวตายขึ้นมาซะอย่างงั้น
“ปะ ๆ ไปนั่งที่โต๊ะนะ...” ดารัณดันหลังฉันให้เดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน ก่อนที่จะขยับไอแพดงานมาวางตรงหน้าฉัน ฉันหยิบไอแพดขึ้นมาเช็กตารางงานทั้งก่อน และหลังจากที่ฉันจะเข้าโรงพยาบาล
งานของพวกมาแทนจ่อคิวเต็มทั้งปีเลย...
“เฮ้อออ...หนึ่งเดือนเต็ม ๆ ที่ฉันไม่ได้ทำงานเลย จะเป็นง่อยแล้ว” งานของฉันคือการตามพ่อหนุ่ม ๆ ในสังกัดทั้งหลายไปงานแต่ละงานที่ติดต่อมา…แต่ฉันก็ไม่ได้ไปทุกงานนะ บางงานฉันก็ให้เมเนเจอร์คนอื่นไป แต่ถ้างานใหญ่ ๆ ฉันต้องเป็นคนไปเอง
“งานจ่อคิวปีนี้เยอะมากเลยอะ…”
“ใช่ ของมาแทน สกาย คีริน ปีนี้เต็มหมดเลย…”
“แล้วของพี่โยยังไม่ได้รับงานเพิ่มใช่ไหมอะ…” ฉันเปิดดูตารางงานในไอแพดไปพร้อมกับถามดารัณไปด้วย
“ใช่ ๆ ของโยต้องพักเอาไว้ก่อนอะธาร…โยยังไม่รับงานช่วงนี้…”
“โอเค ๆ …ไหนขอดูหน่อยสิ อาทิตย์หน้าต้องไปไหน…” ฉันเปิดดูคิวตารางงานของแต่ละคน
“อาทิตย์หน้าแทนถูกเชิญให้ไปรวมงานแฟชั่นโชว์ที่ปารีสเหรอ…” ฉันดูตารางงานไปเรื่อย ๆ ก่อนจะไปสะดุดเข้ากับตารางงานของมาแทน
“อืม ที่รัณดูให้คร่าว ๆ Versace เขาส่งจดหมายมาเชิญอะ แล้วก็ถัดไปอีกอาทิตย์หนึ่งต่อด้วย GUCCI…”
“ก็เท่ากับว่าต้องไปสองงาน...” ฉันทำโน้ตใหญ่เอาไว้กันพลาด...