“คุณหนูถามอะไรแบบนี้ครับ เมาก็ขึ้นไปนอนเดี๋ยวบอดี้การ์ดของท่านไคเห็นคุณหนูอยู่ในห้องผม ผมจะซวยเอา” ยายคุณหนูตัวแสบนี่ยังไงกันมาถามอะไรแบบนี้ เป็นผู้หญิงแท้ๆแรดซะไม่มี
“ไม่มีใครเข้ามาหรอกถ้าไม่ได้รับอนุญาต นายเองก็น่าจะรู้”
“มันไม่เหมาะไงครับ”
“ไม่สน ฉันจะนอนกับนาย”
มายูพลิกตัวไปห่มผ้าเธอแอบยิ้มเบาๆทำให้พระรามเริ่มหนักใจ ดูท่าคุณหนูจะปลื้มตนเข้าแล้วแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลมงานที่ได้รับมองหมายมายังไม่ได้เริ่มจะมามีเมียตอนนี้ไม่ได้
ไม่มีเสียงตอบกลับคุณหนูมายูชิ่งนอนไปแล้วผมแทบเครียดสุดท้ายผมก็ต้องเดินออกมานอนข้างนอกขืนนอนร่วมเตียงมีหวังเสียตัวแน่ๆ
"เด็กอันตราย!"
วันต่อมา
ผมพยายามลืมตาขึ้นเพราะรู้สึกว่าตัวเองขยับไม่ได้อาการคล้ายๆผีอำ หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่าSleep Paralysis เป็นภาวะที่ร่างกายรู้สึกตัว แต่ไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวส่วนต่างๆได้
“คุณหนู!!”
ใช่ครับคนที่นอนทับร่างของผมคือคุณหนูมายูไม่ใช่ผีเธอนอนน้ำลายยืดใส่ผมด้วย ผมพยายามเขย่าตัวจนคุณหนูลุกขึ้นมานั่งโดยที่เธอคร่อมร่างของผม
“คุณหนูลุกครับเดี๋ยวใครมาเห็น” ไม่ตื่นตอนนี้ลูกผมตื่นมันจะยุ่งนะครับมันพร้อมรบมากนะบอกเลย
“รามคะ ยังไม่อยากตื่นเลย”
ตื่นเถอะครับตอนนี้ลูกผมเตรียมเคารพธงชาติแล้ว ผมรีบจับคุณหนูให้ลุกขึ้นจนเสียงประตูแม่บ้านเปิดออกดีที่ทุกคนไม่เห็นภาพเมื่อกี้
“ตื่นกันแล้วหรือคะวันนี้ตื่นเช้าจังเลยนะ”
“พอดีไฟที่ห้องมายูเสียค่ะเลยมาตามรามไปเปลี่ยนให้หน่อย”
“คุณหนู” ผมเค้นเสียงเรียกคุณหนูเบาๆ ผมรู้ว่าไฟห้องของเธอมันไม่ได้เสียแต่คุณหนูอยากเสียตัวมากกว่า
“นะรามไปเปลี่ยนให้หน่อย ย้งไม่อยู่ฉันไม่ไว้ใจใคร”
“ไปเถอะรามห้องคุณหนูไม่มีผีหรอก” เสียงแม่บ้านตะโกนออกมาจากในครัวทำให้ผมต้องจำใยยอมเดินนำคุณหนูขึ้นมาบนห้อง
แกร๊ก!
กึก!
ประตูห้องถูกล็อคเรียบร้อยให้ตายเถอะผมอยากแจ้งความจับคุณหนูจอมหื่นนี่จริงๆ ข้อหาอะไรดีนะข่มขืน กักขังหน่วงเหนี่ยวได้ไหมพอดีผมเป็นผู้ชายบอบบาง
“รามคะ”
“คุณหนูผมไม่เล่นนะครับ!”
“ฉันแค่อยากลองจูบเฉยๆ สอนหน่อยนะ”
“ผมทำไม่เป็น” ผมตอบบ่ายเบี่ยงก่อนจะเดินหนีแต่แรงของเด็กตัวเล็กเยอะอย่างกับแรงช้างเธอผลักผมลงไปที่เตียง
“โอ้ย! คุณหนูอย่าทำแบบนี้นะครับผมเป็นผู้ชายเป็นแค่บอดี้การ์ดจนๆ อย่าให้คุณหนูต้องมาแปดเปื้อนเพราะผมเลย”
มายูค่อยๆคลานขึ้นไปคร่อมร่างของพระราม ตอนนี้พระรามเริ่มกลืนน้ำลายเพราะคุณหนูดูเซ็กซี่มากเมื่อเธอเปลี่ยนจากสาวเรียบร้อยกลายเป็นนางยั่วสวาท
“สอนจูบหน่อยได้ไหมนะราม แล้วฉันจะไม่วุ่นวายกับนายอีก”
“แน่ใจนะครับ ผมกลัวว่าคุณหนูจะติดใจจนอยากจูบอีก”
“นายคงไม่เก่งขนาดนั้นหรอกมั้ง”
น่านไงพูดแบบนี้มันดูถูกกันชัดๆ ผมจับคุณหนูให้พลิกลงมานอนอยากจูบใช่ไหมเดี๋ยวผมจะสอนเอง ผมกดริมฝีปากลงไปเบาๆจากนั้นก็ขยับปากเพื่อให้คุณหนูได้ทำตาม
“อื้อ..”
เสียงเธอเริ่มครางออกมาและตอนนี้ผมก็หยุดไม่ได้ ผมจูบเธอแรงขึ้นลิ้นเริ่มสอดใส่พันกัน แต่ไอ้ลูกชายที่ผงกหัวอยู่นี่สิมันทำให้ผมต้องหยุดชะงัก
“หยุดทำไมรามฉันกำลังเพลินเลย”
“ผมว่าพอเถอะไม่งั้นคุณหนูอาจจะเจ็บตัว”
“อืม...นายไปเถอะเดี๋ยววันนี้ฉันต้องไปกินเลี้ยงวันเกิดของพี่รหัสขอบคุณที่สอนนะ”
เดี๋ยวหมายความว่าไงให้ผมสอนเพื่อไปจูบกับคนอื่นหรอกเหรอ แบบนี้ถ้าท่านไครู้ผมอาจจะตายก็ได้นะ รู้สึกเคว้งคว้างยังไงก็ไม่รู้
“ไปที่ไหนครับผมจะได้บอกท่านไค”
“ห้ามบอก นายออกไปได้แล้ว!”
อะไรวะไบโพลาร์หรือไงเมื่อกี้ยังรามคะอยู่เลย ผมเดินออกมาด้วยความสับสน หรือคุณหนูจะมีปัญหากับสมองเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
หลังจากที่ทั้งสองจัดแจงตัวเองเสร็จมายูก็เตรียมไปเรียนด้วยอาการเหนื่อยใจไม่ใช่เหนื่อยใจกับเรื่องเรียนแต่เพราะเหนื่อยใจกับคนนี่แหละ ทำไมถึงได้จืดชืดขนาดนี้ไม่เห็นเหมือนในคลิปที่เธอดูเลย
“คุณหนูไปงานเลี้ยงตอนไหนครับ”
“เย็น!”
“กลับมาเปลี่ยนชุดก่อนไหมครับ”
“ไม่!”
“ใส่ชุดนักศึกษาแบบนี้ผมว่ามันจะไม่เหมาะนะครับคุณหนู”
“ฉันว่าตื่นเต้นดีออก”
ผมหมดคำพูดกับคุณหนูแล้วจริงๆวันนี้ผมเดินดูความเรียบร้อยใกล้ๆห้องเรียนของคุณหนู เสียเวลาตอนแรกคิดว่าจะได้เข้าไปดูแลเรื่องความปลอดภัยของแลปหมอคิม
ถึงเวลาเลิกเรียนทั้งสองคนก็ขึ้นมาบนรถตอนนี้คุณหนูมายูหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นมาจากนั้นก็ถอดชุดนักศึกษาออกจนหมดทำให้พระรามมองผ่านกระจกถึงกับขับรถส่ายเป็นงู
“ขับดีๆฉันจะเปลี่ยนชุด”
“คุณหนูผมเป็นผู้ชายคุณหนูทำแบบนี้มันไม่ดีนะครับ”
เชี่ย!!
บราสีชมพูอ่อนลายลูกไม้ถูกโยนมาบนตักของพระรามทำให้พระรามกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ ตอนนี้คุณหนูมายูกำลังปิดจุกสีชมพูด้วยแผ่นแปะขนาดเล็ก ภาพทุกอย่างถูกถ่ายถอดมายังกระจกมองหลัง
“ขับดีๆหน่อยได้ไหม!”