“ผมขอโทษครับคุณหนู คุณหนูเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ”
“มะ ไม่เจ็บ ฉันไม่เป็นอะไร”
ทั้งสองคนค่อยๆแยกตัวออกจากกันแต่มายูตอนนี้เธอหน้าแดงก่ำหลบสายตาของพระราม ส่วนพระรามเองก็รีบขอตัวกลับไปพัก เพียงแค่ประตูห้องปิดลงมายูก็รีบหยิบรูปที่วาดไปเพียง50%ไปซ่อนเอาไว้ในลังไม้
“เกือบไปแล้วมายูเอ้ย!”
ภาพความทรงจำที่เธอถูกโจรปล้นร้านทองไล่ยิงกำลังกลับมาฉายอีกครั้ง สายตาคู่นั้นที่เข้ามาช่วยเธอมันยังตราตึงอยู่ในใจ
“อยู่ใกล้กันแค่นี้เองนะ”
^^
วันต่อมา
วันนี้อาจารย์ยกคลาสเรียนเนื่องจากทางหน่วยเหนือพบโรคระบาดตอนนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสแล้วจึงทำให้ทางมหาวิทยาลัยต้องเข้าประชุมกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเตรียมมาตรการป้องกันในครั้งนี้
ฉันเดินลงมาทำขนมคนเดียวในครัวจู่ๆก็มีผู้โชคดีเดินเข้ามาทำให้ฉันต้องกวักมือเรีกให้เข้ามาใกล้ๆ
“รามนายมานี่หน่อยสิ”
แปลกแหะปกติเรียกนายบอดี้การ์ดทำไมวันนี้เรียกราม
“ครับ คุณหนูมีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ”
“อ่ะ อ้าปาก”
เหวอไปดิ คุณหนูตัวแสบวันนี้มีรอยยิ้มแปลกๆแถมยังตักเค้กชาเขียวที่ผมชอบขึ้นมาป้อนผม จะดีเหรือถ้าใครมาเห็นจะทำยังไง
“ผมทานเองก็ได้ครับ” ผมเอื้อมมือไปจับช้อนแต่ก็ถูกคุณหนูตีมือจนต้องละ
“ฉันจะป้อน เร็วๆ”
อั้มม... ทำไมผมต้องทำตามด้วยนะ หืม รสชาติใช้ได้เลยนี่ ผมเองก็เผลอตัวยิ้มให้คุณหนูไปรู้ตัวอีกทีคุณหนูจอมแสบของผมก็หน้าแดงไปถึงหูแล้ว
“คุณหนูเขินผมเหรอครับ”
“บ้า กินให้หมดเลยฉันไปก่อนดีกว่า”
“ครับ...” อะไรของเขาจู่ๆก็วิ่งแจ้นขึ้นไป แล้วผมเป็นอะไรเนี่ยกินเฉยๆก็ได้จะยิ้มทำไม เห็นแก่กินเกินไปแล้ววว
ตกเย็นวันนี้คุณหนูมายูเดินลงมาพร้อมกับยิ้มให้ผมจากนั้นเธอก็รีบวิ่งเข้าครัวไปทำให้ผมต้องหลี่ตามองเธอ เป็นอะไร ยิ้มแบบนี้คืออะไร
“รามท่านไคบอกว่าอาทิตย์นี้ต้องอยู่จัดการปัญหาที่เขตเหนือฝากนายดูแลคุณหนูมายูด้วยนะ” เสียงแม่บ้านเอ่ยปากก่อนจะไปเตรียมอาหารให้กับบอดี้การ์ดด้านนอก
“ครับ ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวมีอะไรผมจะเรียนท่านไคเอง”
หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้วภายในบ้านก็เหลือเพียงแค่พระรามและมายู ตอนนี้มายูกำลังนั่งทานข้าวอยู่ในครัวทำให้พระรามแกล้งเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบน้ำและผลไม้ออกมาแต่เมื่อมายูเห็นก็รีบก้มหน้าทานข้าวพยายามไม่สนใจ ไม่ยิ้มแต่พระรามกับเดินมาใกล้ๆทำให้มายูอดที่จะมองหน้าไม่ได้
วันนี้พระรามใส่ชุดที่ฉันซื้อให้ด้วย หล่อจัง หล่อมากไม่เหมือนคนแก่แล้วเหมือนดาราเกาหลีเลย
“คุณหนูยิ้มอะไรครับ”
“แค่ดีใจที่นายใส่ชุดที่ฉันซื้อให้แล้ว”
“ขอบคุณนะครับที่ซื้อให้ วันนี้คุณหนูอยากไปไหนไหมครับ”
“อืม...ไปซื้อหนังสือกันไหมฉันจดเรื่องที่ไม่เข้าใจเอาไว้ว่าจะไปหาหนังสือมาอ่านเพิ่ม”
“ได้ครับถ้างั้นเดี๋ยวผมไปเปลี่ยนชุดก่อน”
“รามคะ ใส่ชุดนี้ก็ได้” เดี๋ยวฉันพูดอะไรออกไป!!
“ครับ...” เฮ้ย รามคะ หรือว่าผมหูฝาดไม่สิไม่ฝาดเธอเรียกผมว่ารามคะ
หลังจากที่ต่างคนต่างอึ้งกับท่าทีของมายูก็ถึงเวลาที่ทั้งสองต้องเดินทางไปห้างเพื่อไปซื้อหนังสือ แต่การซื้อหนังสือครั้งนี้พระรามที่ผ่านโลกมาก่อนก็เลยเป็นคนเลือกและอธิบายทุกอย่างที่เธอไม่เข้าใจอย่างลืมตัว
“รามนายเป็นหมอหรือไงทำไมถึงพูดอะไรที่มันเหมือนลุงคิมของฉันเลย”
“เอ่อ...ผมเคยเป็นบอดี้การ์ดให้กับคุณหมอมาครับเลยพอรู้มาบ้าง”
“จริงเหรอ” ฉันเดินไปจ้องตากับรามอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าหัวใจฉันมันจะสั่นอีกไหม
“คุณหนูจ้องหน้าผมทำไมครับ ผมแค่ทาครีมมามันวอกไปเหรอ”
“เปล่า นายเป็นคนหน้าตาดีมากเลยนะฉันเพิ่งเห็นนายหล่อก็วันนี้แหละ”
“ฮ่าๆๆ ผมแค่เหนื่อยงานจนไม่มีเวลาดูแลตัวเองต่างหาก”
เมื่อกลับถึงบ้านในช่วงค่ำแม่บ้านและพี่เลี้ยงก็เดินทางกลับกันแล้วเหลือเพียงบอดี้การ์ดที่ยืนดูแลเรื่องความปลอดภัยทำให้รามได้มีเวลาพักผ่อน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ผมเดินมาเปิดประตูก็เห็นคุณหนูยืนอยู่จากนั้นก็เดินเข้ามานั่งบนเตียงผม อะไรกันอ่อยเหรอหรือเป็นอะไร
“คุณหนูมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“รามหนังสือที่นายหยิบมามันมีหนังสือลามกติดมาด้วย” ฉันหยิบหนังสือลามกออกมาจากกระเป๋าผ้าทำให้รามตกใจมากรีบมาดึงออกจากมือฉันด้วยความเร็ว
“ผมขอโทษครับ คุณหนูอย่าถือสาเลยผมไม่ทันได้ดู”
“ไม่เป็นอะไรเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้านายอยากได้ไว้ดูฉันก็ไม่ว่า”
เอาแล้วไงยายคุณหนูเข้าใจว่าผมเป็นพวกโรคจิตแล้ว ผมพยายามอธิบายแต่ดูเหมือนว่าคุณหนูตัวแสบจะไม่ฟัง เธอเอนตัวลงนอนบนเตียงผม แต่เอ๊ะ กลิ่น นี่มันกลิ่นแอลกอฮอล์นี่
“คุณหนูแอบดื่มเหล้ามาเหรอครับ”
“อื้ออ คุณพ่อไม่อยู่ฉันเลยแอบจิ๊กมาดื่มขวดเดียวเอง”
“ไม่ดีเลยนะครับถ้าเกิดท่านไครู้ผมจะโดนตำหนิเอานะ” ตายห่าไอ้รามเอ้ย
“รามคะ รามเคยจูบกับใครไหม”
๐__๐