ที่บริษัทลูกในเครือ KW Group ภณอยู่ในตำแหน่งประธานบริษัท ที่พ่วงหน้าที่ในการดูแลฝ่ายออกแบบและพัฒนาสินค้า เขากำลังนั่งตรวจดูเอกสารตรงหน้า โดยมีเลขานุการสาวคอยเปิดแฟ้มเอกสารชี้แจงรายละเอียดทีละหน้า
“คุณภณเลิกงานแล้วจะไปนั่งดื่มกันต่อที่ห้องของปรางไหมคะ” หญิงสาวชักชวนอยากเปิดเผย
นอกเหนือจากหน้าที่เลขานุการแล้วเธอก็ยังเป็นคู่ขาของเขา แต่รู้ดีว่าคนอย่างภณไม่ได้จริงจังกับใครดังนั้นเธอจึงไม่ได้คิดจะใฝ่สูงมานั่งแท่นเป็นภรรยาของท่านประธาน แต่ยอมเป็นคู่ขาลับเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่เขาหยิบยื่นให้ เพราะรู้ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางเอื้อมถึงตำแหน่งภรรยาของเขา
“ไม่ล่ะ” เขาปฏิเสธเลขานุการของตนเอง วันนี้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะทำอะไรแบบนั้น
“วันนี้คุณภณเครียดๆ นะคะ ให้ปรางนวดให้ไหม” เจ้าหล่อนยังคงถามด้วยน้ำเสียงที่พะเน้าพะนอเพื่อที่จะเอาใจ
ประธานหนุ่มพยักหน้ารับ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำลงสองเม็ดแรกเผยให้เห็นรอยสักที่กลางอก เอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย
ปรางทิพย์ยิ้มกริ่ม เดินอ้อมไปอยู่ด้านหลังเก้าอี้พร้อมกับบีบนวดบ่าไหล่ทั้งสองข้างให้กับเขา
“กลับมาตั้งหลายเดือนแล้ว แต่คุณภณเอาแต่ทำงานทุกวันไม่ได้ลาพักไปเที่ยวไหนเลย วันหยุดยาวนี้ไม่พาปรางไปเที่ยวหน่อยเหรอคะ นอกจากที่ห้องปรางแล้วเรายังไม่เคยไปข้างนอกกันสองต่อสองเลย ปรางอยากไปเที่ยวทะเล” น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความออดอ้อน
“ไม่ล่ะพอดีผมไม่ถูกกับน้ำน่ะ แล้วอีกอย่างนะคุณปราง คุณอย่าลืมว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหน ตอนนี้เป็นเวลางานคุณเป็นเลขานุการของผม ส่วนนอกเวลางานวันไหนที่ผมต้องการผมจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากเอง” ประโยคที่เย็นชานั้นทำให้ปรางทิพย์อยากจะใช้มือนุ่มนิ่มของตนเองบีบเข้าที่ลำคอหน้านั้นนัก แต่ก็ทำได้เพียงแค่คิดในใจแล้วบีบนวดไปเรื่อยๆ
เพราะนอกจากตำแหน่งเลขานุการที่เงินเดือนมากกว่าพนักงานในตำแหน่งอื่นแล้ว ทุกครั้งที่นอนกับเขาอย่างน้อยเธอก็ได้มาครั้งละไม่ต่ำกว่าห้าพัน
“พอได้แล้วคุณกลับไปทำงานเถอะ” ประธานหนุ่มวัยยี่สิบหกกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
ปรางทิพย์ปล่อยมือจากไหล่กว้างบึกบึนของเขา จากนั้นก็เดินบิดสะโพกเล็กน้อยถือแฟ้มเอกสารออกไปนอกห้อง ท่ามกลางสายตาของภณที่มองบั้นท้ายกลมกลึงนั้น
ต้องยอมรับว่าเธอมีเสน่ห์น่าดึงดูดใจไม่น้อย แต่ไม่ถึงขั้นที่ทำให้เขาหลงใหลจนอยากสานสัมพันธ์กับเธออย่างจริงจังเบอร์นั้น เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายก็ไม่ใช่ว่าจะทอดกายให้กับเขาเพียงคนเดียวเสียเมื่อไหร่
ในขณะเดียวกันจริญญาที่มีอาการไข้หวัดจากการตากฝนเมื่อวานนี้ หญิงสาวรับประทานยาและพักผ่อนอย่างเต็มที่ ในช่วงบ่ายจึงรู้สึกสดชื่นขึ้นกว่าเดิม และเดินออกไปนั่งสูดอากาศที่ศาลานั่งเล่นในสวนหย่อม
หญิงสาวทอดสายตาออกไปรอบๆ สวนที่ปลูกดอกไม้นานาชนิด คิดถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ที่ภณวางมือสัมผัสที่ศีรษะของตน และเมื่อเช้าที่เขาเอ่ยปากจะให้เธอติดรถไปบริษัทด้วย มันทำให้หญิงสาวมีกำลังใจจนหายป่วยได้อย่างรวดเร็ว
ความหวังที่จะทำให้เขาหายโกรธเคืองเธอนั้นใกล้จะสำเร็จขึ้นไปทุกที
ภณเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดีและมีเสน่ห์ในแบบที่ดึงดูดสายตาของเพศตรงข้ามได้เพียงมองแค่ครั้งเดียว รูปร่างสูงโปร่ง ผมเซตเป็นทรงตลอดเวลา มีรอยสักที่เธอเคยเห็นแวบๆ ผ่านสาบเสื้อตอนที่เขาปลดกระดุมบ้าน
สไตล์ของเขาดูแบดบอยนิดๆ ไม่ใช่ผู้ชายสายอบอุ่นอย่างภัทร แต่กลับดึงดูดใจของเธอได้มากกว่า
ตอนที่แอบได้ยินวิภาพูดกับประวิตรเมื่อครั้งที่เธอย้ายมาที่บ้านก่อเกียรติวิวัฒน์ช่วงแรกๆ ตอนนั้นวิภาพูดว่าอยากให้เธอเป็นสะใภ้ของหลังนี้ โดยอยากจะจับคู่ให้กับภัทร
หลังจากที่ได้ยินหญิงสาวก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะเธอรักและเคารพภัทรเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง ในขณะที่หัวใจของเธอนั้นมีให้แก่ภณ ชายที่เคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้
แม้เขาจะโกรธเคืองกับเรื่องวัยเยาว์และไม่พอใจเธอที่มาอาศัยอยู่บ้านของเขา แต่บุญคุณที่เขาช่วยชีวิตเธอเอาไว้พ่อแม่ของเธอตอกย้ำให้เธอจดจำจนถึงทุกวันนี้
จนกระทั่งพวกท่านจากไปหญิงสาวก็ยังจดจำคำสั่งสอนนี้อยู่ พร้อมกับหัวใจดวงน้อยที่รู้สึกผิด ที่ตอนนั้นทำให้ภณถูกเข้าใจผิดจนนำมาสู่การผิดใจกันจนถึงตอนนี้
แม้ความเข้าใจนั้นจะได้รับการแก้ไขแล้วก็ตาม แต่เมื่อถูกลงโทษและถูกเข้าใจผิดไปแล้วก็ไม่สามารถกู้คืนความเสียใจที่มีให้กลับคืนมาได้
จากมุมมองบุคคลที่สามประวิตรและวิภานั้นรักลูกทั้งสองเท่ากันแน่นอน แต่เป็นเพราะภัทรเชื่อฟังและอยู่ในกรอบระเบียบมากกว่าจึงไม่ถูกว่ากล่าวตักเตือนอะไร
ต่างกับภณที่เขามักจะดื้อและไม่เชื่อฟังเพราะเคยมีคุณปู่ให้ท้าย และการจากไปของคุณปู่ทำให้เขายิ่งทำตัวตรงข้ามกับที่บุพการีต้องการอยากให้เป็น
ทั้งรอยสัก ทั้งเจาะหู ทั้งเที่ยวเตร่ทำตัวเสเพล นำความปวดหัวมาให้แก่บิดามารดา ทำตรงข้ามกับกรอบที่ประวิตรวางเอาไว้ แสดงความต่อต้านหนักขึ้นหลังจากที่สูญเสียคุณปู่อันเป็นที่รักไป
ทั้งนี้หญิงสาวก็รู้ดีและเข้าใจในสิ่งที่เขาทำ เขานั้นก็รักบุพการีของตน เพียงแต่อยากถูกยอมรับในแบบที่เขาเป็นไม่อยากถูกบังคับ ลึกๆ แล้วภณเป็นคนดีคนหนึ่งที่ไม่อยากอยู่ในกรอบที่คนอื่นวางไว้ให้ก็เท่านั้น
จนกระทั่งเขาเรียนมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยอยู่ประมาณปีสอง ในปีที่เธอมาอาศัยอยู่ด้วย ภณก็ตัดสินใจตามพี่ชายไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่อยากเจอหน้าเธอ ก่อนไปยังพูดอีกด้วยว่าหวังว่าเขากลับมาแล้วเธอจะไม่อยู่ให้เขาเห็นหน้า
ภณยังคงจำได้ถึงเรื่องในอดีตและเขาก็ไม่พอใจการมาของเธอนัก แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งเขารู้สึกไม่ดีกับเธอ เธอก็ยิ่งอยากจะทำดีกับเขาให้มากๆ
ในที่สุดเมื่อเขากลับมา เธอก็ยังอยู่ที่นี่จึงสร้างความไม่พอใจให้แก่ภณ และเขามักจะหาเรื่องกลั่นแกล้งเธออยู่เสมอ
ส่วนเรื่องการแต่งงานของเธอกับภัทรที่ผู้ใหญ่เคยวางเอาไว้เธอก็ยังคงกลุ้มใจอยู่จนถึงตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร
ภัทรเองก็เป็นลูกที่เชื่อฟังพ่อแม่ เธอกังวลเหลือเกินว่าเขาจะไม่กล้าปฏิเสธการแต่งงานเพราะเกรงว่าบุพการีจะเสียใจ การเป็นสุภาพบุรุษของภัทรทำให้หญิงสาวรู้สึกว่าตนเองกำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก
“คุณจ๋าคะ คุณผู้หญิงเรียกให้เข้าไปพบค่ะ” เมื่อพี่ติ๋มสาวใช้วัยสามสิบตอนปลายเดินมาบอก จริญญาก็พยักหน้าและยิ้มรับ
ร่างบางระหงลุกขึ้นอย่างระมัดระวังเพราะเกรงว่าตนเองจะรู้สึกวิงเวียนจนประคองตัวไม่ไหว จากนั้นก็เดินตามสาวใช้เข้าไปในบ้าน
************************