“หมอ!”
เสียงเล็กเอ่ยพูดเสียงดัง พลันดวงตาเบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ เรียวปากบางอ้าค้างอยู่อย่างนั้นราวกับไม่เชื่อสายตาตนเอง เพิร์ลลดายังจำได้ดีว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนไปสร้างเรื่องขายหน้าอะไรเอาไว้ ตั้งใจจะเต๊าะคุณหมอหน้าหล่อท่านหนึ่งแต่โดนอีกฝ่ายช็อตฟีลจนหน้าหงาย
แล้วทำไมหมอรูปหล่อคนนั้นถึงมาโผล่ที่บ้านเธอได้ ไม่จริงน่า!...เธอเพิ่งจะไปจุดธูปขอพรจากพระให้ช่วยประทานพ่อของลูกที่มีเรือนร่างและรูปร่างหน้าตาเหมือนคนในความคิดมากที่สุดลงมาจุติในเร็ววัน ใครจะไปคิดว่าสิ่งที่เธอขอจะเห็นผลทันตาขนาดนี้
เดี๋ยว! คุ้น ๆ เหมือนจะได้ยินแม่พูดว่าอะไรนะ...พี่ชายข้างบ้านงั้นเหรอ ?
“พี่ป่าลูกป้าฟ้าที่อยู่ข้างบ้านไงลูก เล่นกันตั้งแต่เด็ก...จำพี่เขาได้แล้วใช่ไหม”
สิ้นเสียงของมารดา คนที่ยังงุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้าก็พยายามนึกย้อนตามคำพูดของผู้เป็นแม่ทันที
พี่ชายข้างบ้าน ? ที่เล่นกันในวัยเด็ก ? เท่าที่นึกออกแบบเลือนรางมาก ๆ ก็มีอยู่แค่คนเดียว อย่าบอกนะว่า...คุณหมอคนนั้นจะเป็นคนเดียวกันกับพี่ชายข้างบ้านที่เธอแอบชอบตอนเด็กน่ะ
พลันเสียงร้องไห้งอแงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นในความทรงจำ ไม่ใช่ใครที่ไหน เด็กที่ผูกผมเปียสองข้างก็คือเธอนั่นเอง ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา เรียวปากเบะคว่ำพร้อมกับตะเบ็งเสียงร้องดูน่าปวดหัวและแสบแก้วหูไม่น้อย
‘น้องเพิร์ล...อย่าร้องไห้สิครับ โอ๋ ๆ นะ’
เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูพร้อมกับสัมผัสจากฝ่ามือร้อนกำลังลูบศีรษะปลอบประโลม ใบหน้าหล่อเหลาของเด็กชายอายุย่างสิบขวบเริ่มเป็นกังวลเพราะไม่ว่าจะปลอบยังไงเด็กหญิงเพิร์ลลดาตัวน้อยก็ไม่หยุดร้องเสียที
‘พี่ต้องไปแล้ว ไว้พี่จะกลับมาหาบ่อย ๆ นะครับ’
พี่ชายใจดีคนนั้นโบกมือลาพร้อมกับส่งยิ้มบาง ๆ ให้เธอที่ยืนน้ำตาคลอเกาะรั้วบ้านเอาไว้แน่น เธอในตอนนั้นปักใจเชื่อว่าเขาจะกลับมาหากันตามที่พูด
แต่ไม่เลย...หลังจากนั้นเธอก็ไม่เจอพี่ป่าอีก ซ้ำอีกคนยังหายไปจากสมองอันน้อย ๆ ของเธอ มิน่าคราแรกที่เราเจอกันเธอไม่เอะใจกับชื่อของอีกคนเลยสักนิด จำไม่ได้ไม่ว่าแต่ลืมไปเลยต่างหาก!
“...”