บ่าวประจำตัวของเถาซือซือถือจดหมายฉบับหนึ่งเดินไปยังเรือนใหญ่เพื่อขอพบจื้อเหม่ยลี่ ตามคำสั่งของนายสาว
"กู้ฮูหยิน พอดีคุณหนูต้องการให้ข้าน้อยนำจดหมายฉบับนี้แจ้งข่าวให้กับพี่ชายต่างมารดาที่อยู่นอกเมือง คุณหนูเกรงว่าจะไม่สมควรจึงให้กู้ฮูหยินดูเนื้อความในจดหมายก่อนเจ้าค่ะ"
"นี่เป็นจดหมายส่วนตัว ให้ข้าดูได้อย่างไร"
"เรียนกู้ฮูหยิน ปกตินายท่านมักสอนสั่งคุณหนูเสมอว่าทำสิ่งใดควรเปิดเผย แม้จดหมายฉบับนี้จะเป็นเรื่องส่วนตัวก็จริง แต่เวลานี้คุณหนูมาอยู่จวนผู้อื่น การส่งจดหมายออกไปเกรงว่าจะถูกเข้าใจผิด สู้แสดงความจริงใจให้ท่านรู้เสียเองจะดีกว่ารู้จากปากผู้อื่น กู้ฮูหยินตรวจสอบเถิดเจ้าค่ะ" นางเห็นเนื้อความไม่มีอะไรพิเศษ เพียงแจ้งความเป็นอยู่ของตนและสิ่งที่ประสบมาก่อนที่จะได้มาอาศัยอยู่ที่จวนสกุลกู้
"พี่ชายของคุณหนู เป็นห่วงคุณหนูมากเป็นแน่ เกรงว่าไม่วันใดวันหนึ่งอาจจะเดินทางมาเยี่ยมคุณหนู"
"หากจะมาข้าก็ไม่ว่าอะไร ไปเถอะ เจ้ารีบนำจดหมายนี้ไปส่งเถิด" เมื่อเจ้าของจวนอนุญาต สาวใช้ก็สืบเท้าถอยหลังไป เมื่อพ้นสาวใช้ของเถาซือซือก็พอดีกับที่สาวใช้ข้างกายของจื้อเหม่ยลี่ยกเครื่องหอมพร้อมเครื่องประทินผิวเข้ามาภายในจวน
จริงอย่างที่สาวใช้ของเถาซือซือเอ่ยล่วงหน้าไว้ เพราะเมื่อยามซื่อ ในอีกสองวันต่อมา มีบุรุษรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวหน้าคมเข้ม แต่งกายราวกับบัณฑิต ขอเข้าพบเถาซือซือ กู้หรูอวี้เดินผ่านเรือนรับรองเข้าพอดี เห็นชายแปลกหน้าจึงได้เข้าไปดูสักนิด เห็นชายรูปงามจึงได้ไต่ถาม
"ท่านพ่อบ้าน ชายผู้นี้คือ? " พ่อบ้านหันมาแจ้งความประสงค์ของเขาทั้งยังทำให้นางรับรู้ว่าชายรูปงามผู้นี้คือพี่ชายของแม่นางเถาที่มาอาศัยอยู่ที่จวนของตน นางแสดงตัวเพื่อคารวะผู้มาเยือน
"คารวะคุณหนูกู้ ข้าน้อยเถาเหยา วันนี้มารบกวนต้องขออภัย" เขาสบตากับกู้หรูอวี้เพียงเพราะนางเป็นคู่สนทนา มิได้ส่งสายตาแสดงความสนอกสนใจในตัวสตรีเบื้องหน้าเหมือนกับชายทั่วไปที่เห็นสาวงาม
กู้หรูอวี้แต่เดิมผู้ใดพบเห็น ต่างจ้องมองจนบางครั้งแลดูจะเสียมารยาท ทว่าบัดนี้กริยาของเถาเหยาชายผู้มาเยือน กลับแสดงทีท่าไม่สนใจนาง แทนที่นางจะรู้สึกพอใจกลับหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
"พี่ใหญ่!" เสียงเถาซือซือร้องด้วยความดีใจ ทำให้เถาเหยาส่งสายตาเลยผ่านร่างของกู้หรูอวี้ไป เถาซือซือเดินมาคารวะพี่ชายด้วยความน้อมนอบ "ข้าไม่คิดว่าพี่ใหญ่จะมารับ"
"ข้าย่อมต้องมารับคุณหนูเถาอยู่แล้ว" นางยิ้มพิมพ์ใจส่งให้ และเหมือนคิดได้ว่าตนไม่ได้อยู่เพียงลำพังกับเถาเหยา
"อ๋อ...นี่คุณหนูกู้หรูอวี้ นางได้รับขนานนามว่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงเลยนะเจ้าคะพี่ใหญ่" นางหันไปแนะนำ
กู้หรูอวี้ให้พี่ชายตนเองรู้จัก "ข้าเจอนางเมื่อครู่แล้ว" เขาตอบสั้นๆ เนื้อเสียงไม่ได้แสดงความสนอกสนใจใดๆ กับสตรีเบื้องหน้า เพียงส่งยิ้มให้เท่านั้นและก็กลับมาสนใจน้องสาวของตนเองอีกครั้ง
ทว่าความสนใจของเขาเริ่มกลับมาอีกครั้งเมื่อนายหญิงของจวนเดินออกมาต้อนรับ
"ข้าน้อยเถาเหยาคารวะกู้ฮูหยิน" นางพยักหน้ารับคราหนึ่งและหันไปตำหนิพ่อบ้านที่ต้อนรับบุตรชายของใต้เท้าเถาเพียงน้ำชาเท่านั้น
"เชิญสวนหลังจวนดีกว่า ในเรือนออกจะร้อนอบอ้าว" จื้อเหม่ยลี่เดินนำเพื่อต้อนรับแขกคนใหม่ของจวน เถาซือซือ เห็นกู้หรูอวี้จ้องแผ่นหลังของพี่ชายตน แต่รู้ว่าสตรีเช่นกู้หรูอวี้มีบุรุษที่หมายปองอยู่ในใจแล้ว หาใช่พี่ชายของนาง แม้เขาจะรูปงาม แต่สตรีนางนี้จุดมุ่งหมายย่อมสูงกว่าบุรุษที่งามเพียงรูปอย่างเถาเหยา
"คุณหนูกู้อย่าได้ถือสาพี่ชายข้า เขามักจะหลีกเลี่ยงสายตากับสตรีบ่อยครั้ง เพราะบิดามักพร่ำสอนว่าการจ้องมองสตรีนานๆ จะเป็นการเสียมารยาทและทำให้สตรีเกลียดชังได้" นางเดินเคียงคู่กับกู้หรูอวี้ และเอ่ยออกมาอย่างเสียไม่ได้
"มีเช่นนี้ด้วยหรือ? " นางหันมามองเถาซือซือ แววตาคล้ายไม่เชื่อคำ
"มีสิเจ้าคะ แต่สตรีเราต้องส่งสายตาให้ชายที่หมายปองบ่อยๆ เพื่อให้รู้เขารับรู้ความรู้สึกที่เรามีต่อเขา บุรุษส่วนใหญ่มักทึ่มทื่อ น้อยนักที่จะฉลาดเรื่องรัก นอกจากสตรีที่เขาจะสนอกสนใจ เขาจะสวมวิญญาณนักรบทำทุกวิธีเพื่อรุกฆาตสตรีนางนั้น" กู้หรูอวี้เม้มปากแน่น นางต้องทำให้เหนียนอ๋องรู้สินะว่าตนมีใจให้กับเขา
"คุณหนูกู้ ข้าได้ยินว่าเหนียนอ๋องมักไปหอคณิกาบ่อยหรือเจ้าคะ? " คำถามของเถาซือซือสร้างความกระอักกระอ่วนให้นางยิ่ง ทว่านางนึกสงสัยขึ้นมา เถาซือซือผู้นี้เพิ่งมาอาศัยจวนของตนอยู่ไม่กี่วัน รู้เรื่องของนางดี เพราะเหตุใด .สีหน้ากังขานี้ตกอยู่ภายใต้สายตาของเถาซือซือ นางยิ้มและพลางเอ่ย
“สงสัยว่าข้ารู้เรื่องของคุณหนูหรือเจ้าคะ ไม่แปลกที่ข้าจะล่วงรู้ เพราะชื่อเสียงของเหนียนอ๋องมีใครบ้างไม่อยากแต่งเข้า และอีกประการข้าเคยได้ยินจากปากกู้ฮูหยินว่าท่านชอบเหนียนอ๋อง” มองตวัดสายตามองมาที่เถาซือซือด้วยความไม่พอใจ แต่เถาซือซือดูจะไม่สนใจกับท่าทีของนางนัก ปากก็พลางเอ่ยเจื้อยแจ้ว
"มารดาข้าเคยบอกว่าสตรีเราต้องเป็นนางแพศยาบนเตียง บ้างปกปิดเหนียมอายตลอดเวลา บุรุษย่อมเบื่อหน่าย มิน่าบุรุษถึงมักท่องราตรี สตรีหอคณิกาก็มีอยู่ทั่วเมือง"
"มารดาเอ่ยสิ่งนี้กับเจ้าด้วยหรือ? " กู้หรูอวี้เอ่ยปากถาม แม้ในใจจะไม่เชื่อ นางพยักหน้า "เรื่องเหล่านี้มารดาบอกไว้ ผู้หญิงอย่าเก่งแต่ศาสตร์ของสตรี เพราะนั่นไม่ใช่ยางรัดใจชายได้ตลอด ตำราปรนนิบัติสามีในห้องหนังสือของบิดา ข้าอ่านจนช่ำชองอีกทั้ง..." นางยังกล่าวไม่จบก็ถูกกู้หรูอวี้กล่าวแทรก
"เจ้าพูดราวกับ..." นางยิ้มแววตาลุ่มลึกจ้องมองกู้หรูอวี้
"ข้าเคยปลอมเป็นชายไปหอคณิกา!" เสียงตกใจของกู้หรูอวี้ทำให้จื้อเหม่ยลี่และเถาเหยาหันมามอง นางทั้งสองรีบก้มหน้าเมื่อรู้ว่าเสียงสนทนาเมื่อครู่สร้างมารยาทไม่งามออกมา
"เจ้าเคยหรือ? " นางกดเสียงต่ำเอ่ยถ่มอีกฝ่าย เถาซือซือยิ้ม
พยักหน้า แววตาและสีหน้าของสตรีต่างถิ่นสร้างความเชื่อถือให้กับ
กู้หรูอวี้ไปแล้วกว่าหกส่วน
"ข้ายังเห็นการร่วมรักของบุรุษกับสตรีด้วยนะ"
"อย่างไร? "
"อันตำราก็อ่านมามาก ไม่สู้ได้เห็นของจริง ครั้นจะแอบดูบุรุษชายหญิงร่วมอภิรมย์ก็ไม่ดีนัก ข้าจึงเรียกบ่าวในจวนที่เชื่อใจได้ไปด้วย ไม่คิดว่าจะถูกใจเขา"
"แล้ว...เจ้า" นางส่ายหน้า "ข้ายังไม่ออกเรือน หากเส้นพรหมจรรย์ขาดก่อนออกเรือนคงแย่ แต่ข้ามีวิธีปลดเปลื้องความสุขในวิธีของข้า"
"หืม!" กู้หรูอวี้แปลกใจที่คุณหนูตระกูลขุนนางกล้าเอ่ยเช่นนี้ อีกทั้งทำเรื่องอุตริคิดนอกรีตซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่งของสตรี ใบหน้าจิ้มลิ้มของเถาเหยาเหยา เอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้านต่อสายตาที่เคลือบแคลงสงสัยของกู้หรูอวี้
"ใครสนกัน สนมในวัง ยังหาความสุขโดยปราศจากฝ่าบาทได้ แล้วทำไมข้าจะทำไม่ได้เล่า" นางยิ่งพูดกู้หรูอวี้ก็ยิ่งอยากรู้ แต่เพราะนางเป็นสตรี จึงไม่กล้าที่จะเอ่ยถามทำเพียงปิดปากเงียบและหยุดการสนทนาเพียงเท่านี้