ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้จื้อซิ่งเหมี่ยนและจื้อลี่เจียงหยุดสนทนา มองไปยังประตู
"ขอโทษเจ้าค่ะ เหนียนอ๋องขอพบคุณหนูจื้อ" จื้อลี่เจียงพอทราบว่าใครมาหาบุตรสาวของตน นางก็ขอตัวเดินออกไป
จื้อลี่เจียงคารวะเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา และปลีกตัวออกไปโดยไม่ลืมปิดประตู
“มาทำไม ที่นี่หอนางโลม หาใช่จวนสกุลใหญ่ที่มีหน้ามีตาใน
ราชสำนัก” เขาไม่ใส่ใจคำถากถางของนางนักเพียงแต่เดินเข้ามาใกล้
"เขาทำอะไรเจ้าหรือไม่? " เขาตรงเข้ามาเลื่อนเก้าอี้มานั่งใกล้นางพร้อมใช้สายตาพิจารณาเรือนกายที่พอจะใช้สายตากวาดดูได้
"ข้าไม่เป็นอะไร เห็นแล้วก็กลับไปซะ" นางเขยิบกายหนีห่างเขา
"ได้ยินว่ารุ่ยอ๋องนำบางอย่างไปจากเจ้า? " หัวคิ้วของนางขดเข้ามาหากัน ข่าวเรื่องนางถึงหูเขาเร็วเกินไปหรือไม่?
"ท่านรู้ได้อย่างไร? " น้ำเสียงแข็งเปล่งออกมา เขาไม่มีทีท่าตกใจ
“ข้ารู้แล้วกัน” คำตอบของเขาดูจะไม่ได้ทำให้นางพอใจ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเพียงไม่ถึงชั่วยาม และเป็นไปไม่ได้ที่เฟิ่งไห่หรือมารดาของตนจะนำไปรายงาน
"ออกมา!" เสียงคำสั่งทำให้ชายผู้หนึ่งที่เร้นกายออกมาคุกเข่าคารวะจ้าวยวี่เสียงและจื้อซิ่งเหมี่ยน
"ข้าน้อยมู่ซานเปียนคารวะหนานอ๋อง คารวะว่าที่พระชายา" นางขมวดคิ้วมุ่น
"ข้าส่งมู่ซานเปียนคอยดูแลอารักขาเจ้าอยู่ห่างๆ "
"เจ้าชื่อมู่ซานเปียน? " นางหันมาสนใจชายที่นั่งคุกเข่าอยู่ โดยไม่สนใจจ้าวยวี่เสียง "ขอรับ"
"เจ้ามาอยู่ดูแลข้านานหรือยัง? " หัวใจที่ร้อนรุ่มต่างจากใบหน้าที่ราบเรียบ ดวงตาจับจ้องไปยังบุรุษที่ยังคงนั่งคุกเข่าให้กับตนเอง
"ตั้งแต่วันแรกที่เหนียนอ๋องเสด็จมาถึงหอแห่งนี้ขอรับ" ใบหน้านางแข็งค้าง นั่นไม่ใช่ว่าเรื่องทั้งหมดของนาง ไม่ได้เป็นความลับสำหรับจ้าวยวี่เสียง ความเดือดดาลคุกรุ่นในอก ทำให้นางหายใจยาวเร็ว
"ดี! มู่ซานเปียน ในเมื่อเหนียนอ๋องส่งเจ้าดูแลข้า แสดงว่าเจ้ากลายเป็นคนของข้า ไม่ใช่คนของเหนียนอ๋องแล้ว" มู่ซานเปียนเงยหน้าสบตาจื้อซิ่งเหมี่ยน เห็นแววตาเย็นเยือกที่จ้องมองมาที่เขาอย่างไม่มีแววปรานี
"ข้ายกมู่ซานเปียนให้เจ้า!"
"นั่นคือสิ่งที่ถูกแล้ว ในเมื่อท่านเสนอคนมาให้ข้าเอง ข้าก็มิคิดเกรงใจจะใช้งาน แต่ท่านไม่มีสิทธิ์ในตัวมู่ซานเปียนอีกต่อไป"
"ได้! ปกติมู่ซานเปียนก็ไม่มีประโยชน์ต่อข้าอยู่แล้ว"
มู่ซานเปียนก้มหน้า อยากจะร้องไห้ที่นายเก่าไม่เห็นคุณค่าของตนต่อหน้าสตรี อีกทั้งถีบหัวส่งหวังเอาใจว่าที่ฮูหยินมิน่าเล่าผู้คนถึงกล่าวว่าเลือกนายต้องเลือกให้ดี
"ได้ยินแล้วนะมู่ซานเปียน เจ้าเป็นคนของข้า เรื่องใดที่ได้ยินได้ฟัง ข้าไม่อนุญาตให้เจ้ารายงานแก่ผู้ใด แม้แต่ผู้ที่เคยเป็นอดีตนาย!"
"ขอรับนายหญิง" จื้อซิ่งเหมี่ยนถลึงตาใส่เขาไม่พึงใจในคำตอบ นางแต่งให้จ้าวยวี่เสียงตั้งแต่เมื่อใดกัน คราแรกยังเรียกนางว่า'ว่าที่พระชายา' แล้วจบลงด้วยคำว่า 'นายหญิง' คงอยากให้นางอาละวาดกระมัง ส่วนมู่ซานเปียนมิกล้าสบตาได้แต่ก้มหน้ารับคำแม้ในใจจะคิดแย้งเพราะถึงอย่างไร เขาก็ต้องรายงานเหนียนอ๋องอยู่ดี
“เจ้าออกไปก่อน” จ้าวยวี่เสียงเอ่ยให้องครักษ์ที่บัดนี้ส่งมอบให้สาวคู่กายออกไป เขาก็มิขัดกลับนึกขอบคุณ เมื่อพ้นร่างมู่ซานเปียนแล้ว เขาก็หยิบบางสิ่งออกมาจากอก และจับข้อแขนของจื้อซิ่งเหมี่ยนขึ้นมา
“ห้ามถอดเด็ดขาด สิ่งนี้จะช่วยเจ้าได้ในยามคับขัน”
“นี่คือ!” นางพิจารณากำไรที่หล่อจากทองสัมฤทธิ์ประดับด้วยอัญมณี แม้จะดูงดงามแต่นางกลับรู้สึกว่ามันใหญ่เกินไปสำหรับข้อมือนาง
“ด้านในบรรจุลูกศรเล็กๆ ที่อาบยาพิษ” เขาอธิบายพร้อมสาธิตให้นางดูว่านางต้องหมุนอย่างไร และแต่ละสีที่บรรจุอัญมณีด้านในมีอะไรบรรจุลงไปบ้าง
ทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ในห้องเป็นเวลานานเพื่อโอภาปราศรัยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน