“เออฉันจะกลับไปเรียน! แต่บอกไว้ก่อนนะต่อให้นายมีสิทธิ์ในบ้านหลังนี้ครึ่งหนึ่งแต่ถ้านายพายัยแฟนนายหรือผู้หญิงคนไหนมาที่บ้านฉัน ฉันจะเอาเลือดหัวนายกับผู้หญิงของนายมาเทลงกลางบ้าน!”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ผมไม่พาผู้หญิงของผมมาให้เด็กงี่เง่าอย่างคุณระรานแน่นอน เพราะอะไรรู้ไหม...เพราะการโดนเด็กงี่เง่าเอาแต่ใจโตไม่เป็นคิดไม่เป็นระรานมันโคตรน่ารำคาญเลยไอริส”
“นายว่าอะไรนะไอ้ดิน!” ฉันเสียงดังลั่นบ้านจนแม่บ้านในบ้านรีบเดินออกมาชะโงกดู
“ผมพูดอีกครั้งได้ แต่คุณจะรับได้รึเปล่า รับได้แล้วสงบได้รึเปล่าหรือเอาแต่เสียงดังทำตัวไม่ต่างจากพวกคุณหนูขี้วีนเอาแต่ใจ”
“ไอ้!...” อยากด่าแต่เพิ่งโดนพูดดักเอาไว้ สุดท้ายเลยต้องข่มอารมณ์ที่กำลังจะระเบิดจนอกแตกตาย!
“รีบกลับไปเรียนให้จบซะ ระหว่างที่รอเรียนจบก็ฝึกควบคุมอารมณ์ให้มันได้ ไม่งั้นคุณกลับมาทำงานที่บริษัทไม่ได้แน่”
“ไอ้คางคกขึ้นวอ คอยดูสักวันฉันจะผลักนายลงไปเอาให้กระอักเลือดช้ำในตายไปเลย”
“หึ! ก่อนจะทำแบบนั้นไปเรียนให้จบแล้วควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ก่อน คุณต้องจัดการตัวเองให้มีคุณภาพก่อนไอริสแล้วค่อยจัดการคนอื่น” เขายิ้มเยาะเย้ยแล้วเดินผ่านหน้าฉันไปด้วยท่าทางสบาย ๆ ทิ้งให้ฉันยืนโกรธอยู่ตรงนี้ พยายามข่มอารมณ์เพราะไม่อยากโดนไอ้บ้านั่นตอกหน้าแต่สุดท้ายฉันก็ทนไม่ไหว
“ไอ้เลว! ฉันเกลียดนาย! จำใส่หัวเอาไว้ว่าฉันเกลียดนายแล้วฉันจะปัดดินอย่างนายกลับลงไปอยู่ในที่ที่นายควรอยู่!”
ฉันจะทำให้ได้อย่างที่พูดเลยคอยดู!
- วันต่อมา –
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
...อานภา
“เฮ้อ!” เห็นชื่อก็เบื่อ เซ็ง รำคาญ แล้วก็เหมือนจะเพิ่มอีกหนึ่งคำคือเอือมระอา
ติ๊ด!
“คะอานภา” ฉันกดรับสายด้วยเสียงงัวเงียเพราะนี่มันเพิ่งจะเจ็ดโมงเช้า เมื่อคืนกว่าฉันจะหลับก็เกือบตีสามแล้ว
“หนูไอริสตื่นแล้วเหรอลูก ดีจังเลยตื่นเช้ามารับอากาศตอนเช้า” ตื่นแล้วเหรอลูก? สาบานว่าเสียงฉันไม่งัวเงียเหมือนคนเพิ่งตื่น
“ยังค่ะ” ไม่จำเป็นต้องตอบตามมารยาทเพราะฉันกำลังนอน รักษาทำไมในเมื่อคนถามยังไม่รักษามารยาทเลย
“อุ้ยตายจริง เจ็ดโมงเช้าแล้วนะลูก ตื่นได้แล้วหนูไอริส พี่เชนกำลังไปรับนะจ้ะ”
“อะไรนะคะ?”
“พี่เชนเขาอยากพาหนูไปทำบุญให้คุณพ่อ อาเลยให้ไปรับหนูแต่เช้าเลย ใกล้จะถึงแล้วมั้งลูก”
“อานภาคะ จะไปไหนทำอะไรต้องบอกริสล่วงหน้าก่อนสิคะ”
“ลูกขา ไปทำบุญให้คุณพ่อนะคะลูกไม่ต้องบอกล่วงหน้าก็ได้นะอาว่า”
“...”
“ตื่นอาบน้ำแต่งตัวนะจ้ะ พี่เชนน่าจะถึงแล้วเดี๋ยวอาโทรถาม...”
ติ๊ด!
เสียมารยาทมาเสียมารยาทกลับ ฉันไม่เคยโกงใครเรื่องนี้ นอกจากไม่โกงจะทำยิ่งกว่าด้วย
ฟุบ!
ปิดเสียงโทรศัพท์ ปิดการสั่นสะเทือน ปิดสัญญาณแล้วโยนโทรศัพท์ไปให้ไกลตัวจากนั้นก็นอน!
- เวลาต่อมา –
ก๊อก ๆๆ
ก๊อก ๆๆ
“...” เหมือนฉันกำลังหลับสนิทหลังจากที่ใช้เวลาพอสมควรถึงหลับได้เพราะมัวแต่หงุดหงิดอานภา แล้วพอหลับได้นานไหมไม่รู้รู้แค่ไม่เต็มอิ่มเสียงเคาะประตูเบา ๆ ก็ดังขึ้น
โทษใครไม่ได้ โทษตัวเองที่ก่อนนอนเมื่อกี้ลืมบอกคนในบ้านไว้เถอะ
แอด~
“ว่าไงพลอย”
“พลอยขอโทษนะคะคุณไอริส แต่...”
“โอเค พี่เชนใช่ไหม” เห็นสีหน้าที่ลำบากใจของแม่บ้านฉันก็รู้แล้ว
“ค่ะ” พลอยพยักหน้ารับฉันก็เดินออกจากห้องนอนด้วยชุดนอนสายเดี่ยวกระโปรงสั้นแค่คืบแถมเป็นผ้าซาตินบาง ๆ ของวิคตอเรีย ซีเคร็ท แล้วไปหยุดอยู่ใกล้ ๆ บันได
“ออกไป! ฉันจะนอนอย่ามารบกวนเวลานอนให้อารมณ์เสียอีกนะ! แล้วก็จำไว้ถ้าฉันยังไม่ตื่นไม่ลงไปข้างล่างเองไม่ต้องมีใครเสนอหน้าขึ้นมาปลุก! เข้าใจไหม!” ฉันตะโกนลั่นบ้านจนเหนื่อยแล้วก็หันหลังกลับไปมองแม่บ้านอย่างพลอยที่ยืนทำหน้าเอ๋ออยู่ข้างหลังฉัน
แอด~
“...”
“...”
“...เสียงดังทำไม เกิดอะไรขึ้น”
“...” ฉันไม่รู้ว่าเขานอนที่บ้าน ถ้ารู้ฉันคงไม่ออกมานอกห้องนอนในสภาพนี้แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์
“เกิดอะไรขึ้นพลอย” พอฉันไม่ตอบเขาก็ถามแม่บ้านต่อ
“เอ่อ...ไม่มีอะไรค่ะคุณดิน”
“ลงไปได้แล้วไป รู้ใช่ไหมว่าต้องทำอะไร”
“ค่ะคุณไอริส”
“อือ” ฉันอายแทบบ้าแต่ต้องเชิดหน้าทำเป็นมั่นแล้วเดินกลับไปที่ห้องนอนของตัวเองที่อยู่ด้านในสุดถัดไปจากห้องนอนของเขา
“จะออกจากห้องก็ใส่ชุดให้มันเรียบร้อย โตแล้วไม่ใช่เด็ก ๆ”
“ยุ่ง!” ฉันไม่ได้หันกลับไปแค่ขึ้นเสียงแล้วรีบสาวเท้าตรงไปที่ห้องนอนให้เร็วที่สุด
ชุดก็บาง สั้นก็สั้น เสื้อชั้นในก็ไม่ได้ใส่ ไอ้บ้าข้างหลังเห็นว่าฉันอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อยแทนที่จะมีมารยาทกลับเข้าไปในห้องของตัวเองตั้งแต่แรกกลับยืนเสนอหน้าอยู่ที่เดิม กล้าทำได้ยังไง!
ฉันเดินเข้ามาในห้อง แค่ปิดประตูห้องก็รีบวิ่งเข้าห้องแต่งตัวแล้วพุ่งไปที่กระจก
“...”
ฉัน...
“กรี๊ด!!!”
ฉันรับสภาพตัวเองไม่ได้ หน้าอก หน้าอกฉัน ชุดมันบาง หน้าอกมันก็ใหญ่จนดันชุดนอน ดันจนเห็นยอดอกชัดเจน ชัดเจนมากจนเห็นเป็นเม็ดกลม ๆ ชัดเจนทั้งสองข้าง ยังไม่ต้องถึงขั้นจ้องสักสามวินาทีเพราะแค่มองผ่าน ๆ ยังเห็นชัดเจนเลย!
ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด
ติ๊ด!
“ว่าไงหนูไอริส”
“คุณอาคะริสต้องการตั๋วเครื่องบินเร็วที่สุดค่ะ ริสจะกลับแล้ว ไฟล์ทวันนี้ตอนนี้เลยก็ได้ค่ะคุณอา”
“เดี๋ยว ๆ อะไรนะลูก” คุณอาทนายงงฉันเลยต้องรีบบอกอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ต้องตั้งสติสินะไม่งั้นท่านแตกตื่นจนไปถามไอ้บ้านั่นแน่ว่าฉันเป็นอะไรและเกิดอะไรขึ้นกับฉันอยู่ ๆ ถึงจะกลับกระทันหัน
“คือริสจะกลับไปเรียนแล้วค่ะคุณอา ยังไงริสรบกวนให้คนของคุณอาจัดการตั๋วเครื่องบินให้ริสหน่อยนะคะ เร็วที่สุดยิ่งดีนะคะพอดีงานริสที่โน่นมีปัญหาค่ะ”
“กลับเร็วที่สุดของหนูคือวันไหนลูก”
“พรุ่งนี้ค่ะ แต่วันนี้เลยยิ่งดีค่ะ ไฟล์ทค่ำนี้เลยก็ได้นะคะ นั่งชั้นประหยัดก็ได้ค่ะริสไม่เกี่ยง”
“รีบขนาดนั้นเลยเหรอลูก”
“ค่ะคุณอา”
“ได้ลูก เดี๋ยวอาให้คนของอาจัดการให้แล้วอาจะให้ติดต่อกลับไปบอกหนูนะว่าได้ไฟล์ทไหน”
“ค่ะคุณอา ขอบคุณคุณอามาก ๆ นะคะ”
ติ๊ด!
จากที่ง่วงตอนนี้ฉันง่วงไม่ลงแล้ว ยังไม่ได้ตั๋วเครื่องบินแต่ฉันรู้ว่าต้องได้ ยังไงไม่ได้กลับวันนี้พรุ่งนี้ก็ต้องได้กลับเพราะฉะนั้นสิ่งที่ฉันต้องทำคือการเก็บกระเป๋า
ไม่อยู่แล้วค่ะ ไอ้บ้านั่นเห็นหน้าอกฉันชัดขนาดนั้นฉันไม่อยู่มองหน้าเขาแน่!
ยิ่งคำพูดของเขาที่บอกให้แต่งตัวให้เรียบร้อย โตแล้วไม่ใช่เด็ก ๆ นายนั่นหมายถึงอายุหรือหน้าอกฉันก็ไม่แน่ใจ เพราะฉะนั้นฉันไม่อยู่ต่อเด็ดขาด!
- วันต่อมา –
“คุณจะกลับแล้วเหรอ”
“...ยุ่ง!” ที่ฉันจะกลับเพราะไม่อยากเจอหน้าไอ้บ้านี่ แต่ตอนที่ฉันเดินหิ้วกระเป๋าลงมาเพื่อเตรียมตัวไปสนามบินฉันกลับต้องเจอกับต้นเหตุที่ทำให้ฉันต้องรีบกลับ!
“ทำไมอยู่ ๆ ก็รีบกลับ”
“ไม่ต้องยุ่งไง”
“ผมก็แค่ถามตามมารยาทตามประสาคนอยู่บ้านเดียวกัน”
“ไม่จำเป็น ไม่ต้องมีมารยาทอะไรกับฉัน อยู่กันให้เหมือนต่างฝ่ายต่างเป็นอากาศธาตุเลยยิ่งดีฉันต้องการแบบนั้น”
“เหรอ? ที่ผ่านมาผมไม่แน่ใจว่าคุณเคยทำอย่างที่พูดรึเปล่า”
“ก็ช่างเรื่องที่ผ่านมา ฉันหมายถึงตอนนี้เข้าใจไหม”
“โอเค แล้วไม่ได้บอกคุณนภากับพี่เชนของคุณเหรอว่าจะกลับ”
“ไม่ใช่ธุระของนาย”
“ผมรู้ ผมแค่จะขอบคุณที่ไม่บอก เพราะถ้าบอกป่านนี้คงวุ่นวายไปทั้งบ้าน ไม่แน่อาจจะจัดกระเป๋าให้คุณเชนบินไปส่งคุณเลยก็ได้”
“ยุ่ง!” ฉันขึ้นเสียงใส่เขานิดหน่อยแล้วสะบัดหน้าเดินต่อ ที่เขาพูดมาเหมือนกวนประสาทแต่มันก็ถูกทั้งหมดนั่นแหละ ไม่ผิดสักคำเลยไม่เถียงไม่ต่อปากต่อคำ
ดีนะที่ไม่มีใครส่งข่าวบอก แต่ใครจะส่งข่าวได้ในเมื่อแม้แต่แม่บ้านกับคนขับรถยังเพิ่งรู้เมื่อกี้ตอนที่ฉันบอกให้เตรียมรถแล้วก็ให้ขึ้นมาช่วยฉันยกกระเป๋าลงไป
ฉันไม่ได้บอกใครเลยค่ะ มีแค่คุณอาทนายที่รู้เพราะเป็นคนจัดการตั๋วให้ ส่วนเขาก็คงรู้เพราะคุณอาทนายนั่นล่ะ
ไม่อยากเจอสุดท้ายก็เจอจนได้ เห็นฉันพูดกับเขาไม่ใช่ว่าฉันลืมเหตุการณ์เมื่อวานไปแล้วนะคะ ไม่ได้ลืมเลย ยิ่งเห็นหน้ายิ่งตอกย้ำว่าเขาเห็นลูกเกดที่แปะอยู่บนส้มโอไปแล้วเต็มสองตา
“เดินทางปลอดภัยนะคะคุณหนู” ฉันเดินออกมาข้างนอกแม่บ้านทุกคนก็ร่ำลา ฉันก็ไหว้ลาคนที่อาวุโสกว่าทุกคนแล้วก็ขึ้นรถเพื่อไปสนามบิน
ครืด~
ประตูรถเปิดไปแล้วแต่มันกลับถูดเปิดออกทันทีที่ปิดแล้วร่างของใครบางคนก็ขึ้นมานั่งบนรถ
“นี่! จะขึ้นมาทำไม!”
“จะไปส่งคุณไง”
“จะไปส่งทำไม บอกว่าให้ต่างคนต่างอยู่ไง” ฉันขึ้นเสียงนิดหน่อย ใจอยากจะดันเขาให้ลงไปจากรถ แต่ขอโทษเถอะฉันไม่อยากแตะต้องร่างกายเขา
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนก็ได้ ไหน ๆ คุณก็จะเดินทางไกลแล้ว ส่งหน่อยไม่เป็นไรหรอกมั้ง”
“ไม่! ฉันไม่ให้นายไปส่ง ลงไปเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้ดิน!”
“ผมก็ตอบว่า ไม่ เหมือนกัน ให้ผมไปส่งเถอะน่า ชดเชยความผิดที่ผม...” เขากระตุกยิ้มแล้วละสายตาจากการมองหน้าฉันเป็นมองต่ำลงไปนิดหน่อยซึ่งฉันไม่อยากจะยอมรับความจริงเลยว่าเขากกำลังมองอะไร!
“...เป็นสาเหตุให้คุณต้องรีบกลับไปไง”