Chapter 5

1514 Words
โรงพยาบาล...  ป๋ามินทร์อุ้มสไมล์เข้ามายังประตูห้องฉุกเฉินด้วยความกังวลใจเป็นอย่างมาก ตัวร้อนจี๋ไร้สติไม่รู้ว่านอนซมมานานแค่ไหนแล้วเขารู้สึกแย่ชะมัดเลยที่ไม่พาเธอมาตั้งแต่เมื่อคืน "ญาติรอข้างนอกนะคะ" เบนนี่ ป๋ามินทร์และแมนผู้ช่วยของเขาตอนนี้ยืนรออยู่หน้าห้องด้วยความเป็นห่วงคนด้านในไม่ต่างกันต่างฝ่ายต่างโทษตัวเองที่ไม่พาไปโรงพยาบาลตั้งแต่ทีแรก "เบนนี่ไม่น่าปล่อยให้สไมล์อยู่คนเดียวเลย ถ้าตอนนั้นฉุกคิดสักนิดคงไม่เป็นแบบนี้" "อย่าโทษตัวเองเลยเบนนี่ สไมล์เขาดื้อเองไม่ใช่เหรอ.." ป๋ามินทร์มองเบนนี่พูดปลอบใจเพื่อให้เธอเลิกโทษตัวเอง เขาเชื่อว่าคนอย่างเบนนี่ไม่มีทางปล่อยให้เพื่อนนอนเจ็บเพราะดูจากความเป็นห่วงของเธอที่มีต่อสไมล์แล้วเขาว่าเป็นที่สไมล์เองมากกว่าที่ดื้อเอง "เบนนี่ไม่รู้จะคุยยังไงแล้วค่ะ รายนั้นพูดไม่ค่อยรู้เรื่องชอบทำให้เป็นห่วงตลอด เห้อออ" เบนนี่พูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปยืนหน้าห้องฉุกเฉินมองลอดผ่านกระจกพอดีกับที่สไมล์กำลังนอนอยู่พอดี คุณหมอกับพยาบาลช่วยกันปฐมพยาบาลอย่างรวดเร็วใช้เวลาเพียงไม่นานก็เปิดประตูออกมา แอ๊ดดดดดดดด "เป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ สไมล์ดีขึ้นมั้ยคะ" "ปลอดภัยดีแล้วครับไข้ลดลงแล้ว แผลอักเสบมากก็เลยไข้ขึ้นสูงตอนนี้ดีขึ้นแล้วครับยังไงเดี๋ยวหมอให้ย้ายไปห้องพักฟื้นนอนดูอาการสักวันหนึ่งก่อน" "ขอบคุณมากครับคุณหมอ" ทั้งสามคนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจก่อนจะพากันไปรอยังห้องพักฟื้นสักพักใหญ่สไมล์น่าจะถูกย้ายมาที่นี่แล้ว "ว่าไงคะแม่" เบนนี่รับสายจากผู้เป็นแม่เธอทิ้งร้านอาหารออกมาดูเพื่อนสาวจนลืมบอกแม่ไปเลย ตอนนี้สไมล์ปลอดภัยแล้วเธอควรจะกลับไปเคลียร์งานที่เหลือแล้วมานอนเฝ้าเพื่อนตอนเย็น "ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูกลับไปจัดการคืนนี้หนูเฝ้าสไมล์เองได้ค่ะแม่" เบนนี่กดวางสายก่อนจะหันมามองทางประตู พยาบาลพาสไมล์มานอนลงบนเตียงนอนในห้องพักฟื้น เพื่อนสาวของเธอค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆโดยมีป๋ามินทร์ยืนอยู่ข้างเตียงไม่ยอมห่าง "อื้อออ คะ...คุณป๋า" "สไมล์ฟื้นแล้วเหรอคะเป็นยังไงบ้างยังเจ็บอยู่มั้ย" "สไมล์ปวดหัวค่ะ อ๊ะ! เจ็บแผลด้วยว่าแต่สไมล์มาที่โรงพยาบาลได้ยังไงคะ" สไมล์หันไปมองรอบๆห้องอย่างมึนๆปนสงสัย ก่อนนอนเธอจำได้ว่านอนอยู่ในห้องนี่นาแล้วตื่นมาอีกทีโผล่ที่โรงพยาบาลได้ไง "ฉันกับป๋ามินทร์เนี้ยแหละพามา แกนอนซมอยู่บนเตียงตัวร้อนไม่ได้สติทุกคนเป็นห่วงมากเลยนะบอกแล้วใช่มั้ยว่าให้มาหาหมอ" เบนนี่โมโหเพื่อนสาวเป็นอย่างมาก เอาความเจ็บของตัวเองมาล้อเล่นมันใช้ได้ที่ไหนกันมันไม่คุ้มเลยสักนิดเดียว "ขอโทษนะเบนนี่ก็ตอนแรกมันไม่ได้เจ็บมากนี่นาก็เลยคิดว่าตื่นมาคงหาย ดูสิลำบากป๋ามินทร์แย่เลยสไมล์ขอโทษนะคะที่สร้างความวุ่นวายให้ทุกคน" สไมล์เอ่ยขอโทษเสียงอ่อน เธอรู้สึกผิดกับเพื่อนจริงๆนะดูจากอาการแล้วเบนนี่เป็นห่วงเธอจริงๆ ไม่น่าเล่นใหญ่จนตัวเองเป็นหนักเลย "ทำไมพูดแบบนั้นคะสไมล์ไม่มีใครอยากให้มันเกิดหรอกนะ" สไมล์สะอึกไปเล็กน้อยกับประโยคที่บอกว่าไม่มีใครอยากให้มันเกิด จริงๆแล้วเธอต้องการให้มันเป็นแบบนี้แต่ว่าไม่ใช่แบบนี้งงกันมั้ย "สไมล์ขอโทษค่ะ T^T" "ฉันจะต้องไปทำงานก่อนนะสไมล์ อยู่ได้ใช่มั้ยเดี๋ยวตอนเย็นฉันจะมาอยู่เป็นเพื่อน" "อื้มอยู่ได้สบายมาก ขอบคุณน้าเพื่อนรัก" "จ้าๆ" เบนนี่มองเพื่อนสาวก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ เวลาแบบนี้เธอรู้แหละว่าไม่ควรอยู่เพียงแค่เห็นว่าสไมล์ดีขึ้นเธอก็สบายใจ จากนี้ปล่อยให้เพื่อนรักของเธอทำคะแนนเอาชนะใจชายหนุ่มได้ก็พอแล้ว "ยังไงเบนนี่ฝากด้วยนะคะ ต้องรีบไปทำงานจริงๆ" "ผมดูแลให้เองไม่ต้องเป็นห่วงนะเบนนี่" "ขอบคุณค่ะ" เบนนี่เดินออกไปจากห้องพักฟื้นทันทีปล่อยให้ป๋ามินทร์และสไมล์นั่งอยู่ด้วยกันข้างๆเตียงนอน ผู้ช่วยของป๋ามินทร์เห็นท่าจะอยู่เป็นก้างขวางคอสองคนซะเปล่าก็เลยหาวิธีที่จะออกไปจากตรงนั้น "ผมไปหาอะไรมาให้ทานดีกว่าครับป๋า" "อืม ฝากของคุณสไมล์ด้วยนะแมน เอาผลไม้มาด้วยสไมล์ชอบทานผลไม้มั้ยคะ" ป๋ามินทร์หันมาถามสไมล์ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หญิงสาวนิ่งคิดเพียงแปบเดียวก็ยิ้มกว้างออกมาทันที "สไมล์ชอบทานแอปเปิ้ลค่ะ แล้วก็องุ่นสีเขียวด้วย" "เอาตามนั้นแหละ" ป๋ามินทร์เหลือสายตามองไปยังผู้ช่วยก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ แมนได้ยินดังนั้นก็โค้งตัวรับทราบก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ตอนนี้ภายในห้องมีแค่สไมล์และป๋ามินทร์อยู่ด้วยหันสองคน ชายหนุ่มยื่นมือไปเปิดผ้าห่มเพื่อดูแผลเด็กสาว "ขอดูแผลหน่อยค่ะ" "คุณหมอทำแผลให้แล้วค่ะ ไข้ก็ไม่มีแล้วด้วยคุณป๋าไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นแล้วค่ะ" ป๋ามินทร์เลิกคิ้วเล็กน้อยเขาไม่ค่อยเข้าใจว่าตัวเองทำหน้ายังไงอยู่  "ผมก็ทำหน้าปกตินะ" "ไม่เลยค่ะ มันดูกังวลแปลกๆ หรือว่าเครียดเรื่องงานเหรอคะระบายให้สไมล์ฟังได้น้า" เด็กสาวไร้เดียงสาเอ่ยเสียงหวานมองสบตากับเขา มันทำให้เขายิ่งเอ็นดูเธอหนักขึ้นไปอีก ป๋ามินทร์ยื่นมือไปลูบผมเด็กสาวอย่างแผ่วเบาความอบอุ่นผ่านสัมผัสมันทำให้สไมล์รู้สึกสบายใจและปลอดภัยอยูไม่น้อย "ผมเป็นห่วงสไมล์ต่างหาก ถ้าให้ผมพามาโรงพยาบาลแต่แรกก็คงไม่เป็นแบบนี้" "ถ้าสไมล์ไม่ทำแบบนี้แล้ววันนี้จะได้เจอคุณป๋าอีกเหรอคะ อุ๊บ!" สไมล์หลุดปากเอ่ยออกไปตามที่คิดคนอย่างเธอเสแสร้งไม่ได้นานหรอกเพราะเป็นคนแบบนี้แหละใครก็เดาความรู้สึกเธอออก ป๋ามินทร์ยิ้มออกมาอย่างพอใจแสดงว่าเป็นแผนที่จะได้เจอเขาอีกใช่รึเปล่า "แสดงว่าตั้งใจที่จะไม่มาโรงพยาบาลแต่แรกเหรอ..เพราะอยากเจอกันอีก... งั้นเหรอ" สไมล์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เบือนหน้าหนีเขาไปอีกทางซ่อนรอยยิ้มที่เขินอายไม่ให้เขาเห็น ป๋ามินทร์ลอบมองหญิงสาวมันเห็นรอยยิ้มหวานมันทำให้เขาอดยิ้มตามไม่ได้ "ไม่ใช่สักหน่อย สไมล์ก็แค่คิดว่าไม่เป็นอะไรมากแค่นั้นเอง" "จริงเหรอ.." "แหนะ! จับผิดสไมล์เหรอคะ" "เปล่าซะหน่อย :)" ทั้งสองคนมองหน้ากันต่างฝ่ายต่างอมยิ้มไม่พูดอะไร นั้นคงทำให้ทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างรับรู้ความรู้สึกของกันและกันเป็นอย่างดี  "คุณป๋าไม่ทำงานเหรอคะ" "ไม่ล่ะผมอยากคุยกับสไมล์ ได้มั้ยล่ะ" ป๋ามินทร์ยื่นมือมาหยีหัวเด็กสาวตรงหน้าอย่างหมั่นเขี้ยว หญิงสาวเบี่ยงตัวหนีก่อนจะหัวเราะร่าอย่างมีความสุข "อร๊ายยย อย่าแกล้งสไมล์นะ" "ตอบก่อนว่าอยู่คุยด้วยได้มั้ย" "ถ้าไม่เบื่อที่สไมล์พูดมากล่ะก็อยู่นานๆเลยค่ะ" สไมล์อมยิ้มแก้มปริในที่สุดเธอก็ทำให้เขาอยากอยู่กับเธอนานๆได้แล้ว น่าดีใจชะมัดแผนที่วางไว้พังหมดแต่เขากลับมาหาเธอได้มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญซะแล้ว "ไม่มีทางเบื่อคุยกับสไมล์สนุกจะตาย" "ว่าแต่รู้ได้ยังไงคะว่าสไมล์อยู่ที่นี่" สไมล์ยังมีความคาใจอยู่เล็กน้อย ทำไมอยู่ๆเขาถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ เธอไม่ได้โทรหาเขาเลยนะ "ก็คนบางคนรับปากว่าจะโทรมาแต่ก็หาย วันนี้เป็นห่วงเลยมาตามหา" สไมล์อึ้งไปไม่คิดว่าเขาจะตามหาเธอถึงที่ร้าน ถ้าไม่มีใจไม่มีทางทำแบบนี้ใช่ป่ะ >< "งื้อออ แสดงว่าคุณป๋ารอให้สไมล์โทรไปหาใช่ม๊า" "ถ้าใช่แล้วจะทำไม :)" "งื้ออออ สไมล์เขินงะคุณป๋ากำลังทำให้สไมล์เขินน้า อร๊ายยยย"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD