"กินเยอะๆนะคะผอมไปนะเราอ่ะ"
สไมล์กำลังนั่งทานองุ่นที่ผู้ช่วยของป๋ามินทร์ไปซื้อมาให้อย่างเอร็ดอร่อย พอฟื้นไข้เธอก็อยากทานนั้นทานนี่เต็มไปหมดโชคดีที่มีคนเอาของโปรดมาให้ในเวลาที่เหมาะเจาะก็เลยอิ่มท้องมากๆ
"สไมล์ผอมไปเหรอคะ"
"อื้ม ก็ผอมไปนะ"
"คุณป๋าชอบผู้หญิงอวบๆเหรอคะ"
สไมล์เอ่ยถามพร้อมกับหยิบแอปเปิ้ลในจานเข้าปากไปเต็มคำ ชายหนุ่มหลุดขำออกมาทันทีเด็กสาวจอมซื่อถามอย่างไม่คิดอะไรแต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดนะสิ
"จะอวบจะผอมไม่สำคัญ มันสำคัญที่ว่าคนนั้นคือคนที่เรารักรึเปล่า"
"แล้วคุณป๋ามีคนรักรึยังคะ"
สไมล์ยังมีคำถามอีกมากมายที่ต้องการคำตอบจากชายตรงหน้า เธอจะได้รู้ว่าเขาชอบผู้หญิงแบบไหนจะได้นำมาปรับใช้กับตัวเองไง แต่ถ้าเขาบอกว่ามีคนรักอยู่แล้วเธอก็แห้วนะสิ
"อยากรู้ไปทำไมล่ะ"
"เอ้า สไมล์ก็แค่อยากรู้เอง คุณป๋าทั้งหล่อทั้งรวยเพอร์เฟคขนาดนี้ให้สไมล์เดาคงมีแล้วแหละ"
สไมล์เอ่ยเสียงเบาก่อนจะดันองุ่นออกห่างจากตัวเอง ไม่มีอารมณ์กินล่ะถ้าเขาไม่มีก็คงปฏิเสธไปแล้วแต่นี่เงียบแสดงว่าที่เธอเดาคงจะถูก
"อิ่มแล้วค่ะขอบคุณมากนะคะที่อยู่เป็นเพื่อนสไมล์จะนอนพักแล้วค่ะคุณป๋ากลับไปพักผ่อนเถอะค่ะไม่รบกวนแล้ว"
ความรู้สึกเหมือนคนอกหักมันเป็นแบบนี้เองสินะ เขาไม่ได้เป็นอะไรกับเธอแท้ๆไหงรู้สึกแย่แบบนี้ล่ะ สงสัยต้องเปลี่ยนเป้าหมายเป็นคนอื่นแล้วล่ะมั่งแล้วจะไปหาจากไหนเนี้ย เธอไม่กล้าพอแย่งของคนอื่นหรอกนะมันไม่ดีแม่เธอเคยสอนไว้ว่าอย่าไปแย่งของคนอื่น
ทางด้านของป๋ามินทร์ยืนงงอยู่ตรงที่เดิมมองสไมล์ที่หันหลังให้เขานอนตะแคงนิ่งแถมไล่เขากลับอีก เขาหันไปมองแมนที่มองมาแล้วยิ้มแห้งๆไม่พูดอะไร
'นี่เขาทำอะไรผิด?'
เขาเดินไปดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวหญิงสาวไว้ก่อนจะยื่นมือไปลูบผมเธอเพื่อกล่อมให้หลับ สไมล์ที่ตอนนี้กำลังคิดอะไรต่างๆนาๆจะไปต่อกับชีวิตยังไงดีจะอยู่แบบนี้มันดีจริงเหรอเธอควรจะได้เผชิญหน้ากับทุกคนสิไม่ใช่หลบอยู่ในห้องแบบนี้ ความหวังเดียวของเธอคือคุณป๋าแต่เหมือนว่าเขาจะมีคนรักแล้วเธอจะเอายังไงต่อดีล่ะ
"ไหนบอกจะนอนไงทำไมหน้าเคร่งเครียดขนาดนั้น"
สไมล์สะดุ้งตกใจพอรู้สึกตัวอีกทีใบหน้าของเขาก็จ้องหน้าเธออยู่ก่อนแล้ว
"เอ่อ คือว่าสไมล์..."
"โกรธอะไรผมรึเปล่า เมื่อกี้ผมพูดอะไรผิดไป"
สไมล์มีสีหน้าที่สลดลงเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาพร้อมกับส่ายหน้าปฏิเสธ
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะสไมล์แค่เกรงใจป๋ามินทร์ที่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนที่นี่ ตอนนี้สไมล์ดีขึ้นแล้วค่ะสักแปปเบนนี่คงมาแล้ว"
เขาเริ่มรู้สึกได้เลยว่าสรรพนามที่เรียกเขาดูแปลกไปนั้นแสดงว่าโกรธอะไรบางอย่างแน่นอนแต่ปากแข็งไม่ยอมพูด
"แมนออกไปก่อน"
เขาเงยหน้าขึ้นไปมองผู้ช่วยของตัวเอง เวลานี้เขาอยากคุยกับสไมล์สองคนมากกว่าถ้าเขากลับไปโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดมันก็รู้สึกแย่มาก อีกอย่างเขาอยากจะติดต่อกับสไมล์ไม่ได้อยากตัดความสัมพันธ์แค่ตรงนี้
"โกรธอะไรผมไหนพูดมาสิ"
ป๋ามินทร์นั่งลงตรงหน้าสไมล์พร้อมกับเอ่ยถามเสียงอ่อนโยน คุยกับเด็กนี่มันต้องใช้ความใจเย็นสูงมากจริงๆ เขาคือผู้ชายที่ใจเย็นที่สุดคนหนึ่งเลยนะแต่พอเจอสไมล์ต้องใจเย็นมากกว่าเดิมอีกเท่าตัวเลย
"เปล่าซะหน่อยสไมล์ปกติค่ะ"
"ไหนลองเรียกผมสิ"
"ป๋ามินทร์.. ให้เรียกทำไมคะ"
"นั้นไงล่ะโกรธจริงด้วย สไมล์คนปกติจะต้องเรียกคุณป๋าไม่ใช่เหรอ"
เขาเอ่ยถามตามตรงบทจะพูดตรงก็ตรงมาก พอบทจะงอนทำไมพูดไม่รู้เรื่องขนาดนี้เล่นเอาเขาไปไม่ถูกเลย
"เรียกไม่ได้หรอกค่ะคำนั้นเอาไว้ให้คนรักของคุณเรียกดีกว่า สไมล์ไม่ควรเรียกแบบนั้นค่ะ"
เขาเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาแล้วล่ะ ที่งอนอยู่ตอนนี้คือกำลังเข้าใจว่าเขามีคนรักแล้วก็เลยเกรงใจไม่อยากยุ่งด้วยเขาเข้าใจถูกใช่มั้ย
"ผมชอบให้สไมล์เรียกมากกว่ามันน่ารักดีนะ"
"ไม่ค่ะไม่เรียกแล้ว อีกอย่างหลังจากนี้เราคงไม่ได้เจอกันแล้วใช่มั้ยคะ"
สไมล์เอ่ยออกมาอย่างน้อยใจคนตรงหน้า เธออุตส่าห์ยอมเจ็บตัวเพราะอยากเจอเขาอีกแท้ๆพอรู้ว่าเขามีคนรักมันก็จะรู้สึกแย่หน่อยๆ หลังจากนี้ไม่ต้องเจอกันก็ได้เพราะเธอจะไม่นึกถึงเขาแล้ว
"ไม่รู้สิถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆก็คงเป็นเพราะสไมล์เองที่ไม่อยากเจอผมแล้วใช่มั้ย"
"...."
สไมล์เงียบกริบไม่ตอบอะไรป๋ามินทร์ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นยืน
"ผมยังไม่มีคนรักหรอกถ้าสไมล์กำลังเข้าใจเรื่องนี้ผิดผมก็จะอธิบาย เอาเป็นว่าถ้ายังอยากเจอกันผมจะรอคุณติดต่อไปนะ"
เขามองหญิงสาวที่ตาโตเมื่อได้ยินคำอธิบายของเขาด้วยหัวใจที่พองโต เมื่อกี้เขาพูดว่าอะไรนะ! เขายังไม่มีคนรักใช่มั้ย
"คะ..คุณป๋า!!"
ป๋ามินทร์ที่กำลังจะเดินออกไปหยุดชะงักก่อนจะยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ แสดงว่าโกรธเรื่องนี้จริงสินะทำไมถึงคิดว่าเขามีคนรักแล้วล่ะ อีกอย่างถ้ามีจริงๆเขาไม่มานั่งเฝ้าเธอแบบนี้หรอก
"หือ.. ว่าไงคะ"
"สไมล์อยากดื่มน้ำเย็นๆค่ะแต่ว่าเดินไม่ไหวเลย คุณป๋าช่วยหยิบให้หน่อยได้มั้ยคะ"
สไมล์ยิ้มออกมาแก้มปริป๋ามินทร์เห็นดังนั้นก็อดยิ้มตามเด็กน้อยตรงหน้าไม่ได้ เขาเดินไปตู้เย็นหยิบน้ำเย็นใส่แก้วจนเต็มแล้วเดินมายืนตรงหน้าสไมล์พร้อมกับยื่นน้ำเย็นไปตรงหน้าเธอ
"น้ำเย็นค่ะ"
"ขอบคุณค่ะ"
สไมล์อมยิ้มรับแก้วน้ำมาจากมือเขาแล้วดื่มจนหมดแก้วเหลือบสายตามองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างดีใจที่เขายังโสดไม่มีใคร
'ไม่ได้ๆนะสไมล์เธอจะแสดงออกนอกหน้าขนาดนี้ไม่ได้นะ!'
"เอาอีกมั้ย"
ป๋ามินทร์เอ่ยถามเสียงอ่อนโยน ท่าทางจะอารมณ์ดีขึ้นมาแล้วล่ะมั้งเป็นผู้หญิงคนแรกเลยนะที่คิดอะไรก็แสดงออกมาแบบนั้นเลยโกหกไม่เก่งเลยให้ตายสิ
"ไม่แล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ"
"ตกลงว่าผมกลับได้ยัง"
ป๋ามินทร์ลองเชิงถามหญิงสาว สไมล์ตาโตส่ายหน้าทันที จะกลับได้ยังไงใครจะยอมให้กลับกันล่ะ
"จะรีบกลับไปไหนคะไหนบอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อนสไมล์ไง"
"ก็สไมล์บอกเองว่าอยู่ได้สบายมาก เดี๋ยวเพื่อนก็มาแล้วนี่นา"
เขาเอ่ยตัดเพ้อเด็กน้อยตรงหน้า น่าน้อยใจชะมัดเลยเมื่อกี้ออกปากไล่กันไม่แคร์ความรู้สึกเขาเลยทีแบบนี้นะ... หึ
"เบนนี่งานยุ่งมากค่ะยังไม่มาตอนนี้หรอก แต่ถ้าคุณป๋ารีบก็ไม่เป็นอะไรค่ะสไมล์อยู่ได้"
สไมล์มองชายหนุ่มกระพริบตาปริบๆอย่างน่าสงสารจนป๋ามินทร์อดที่จะยื่นมือไปหยีหัวเด็กน้อยอย่างหมั่นไส้
"โอ๊ยๆ คุณป๋าสไมล์ผมยุ่งนะ"
"คราวหลังจะพูดจะจาอะไรหัดนึกถึงความรู้สึกคนอื่นบ้าง เอะอะไล่ๆมันน่าอยู่ด้วยมั้ยล่ะ"
"ก็สไมล์คิดว่าคุณป๋ามีคนระ... อุ๊บ!!! ไม่มีอะไรค่ะ ไม่มี้ไม่มี"
ทั้งสองคนมองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาพร้อมกัน อยู่กับสไมล์ปวดหัวชะมัดแต่ว่าเธอทำให้เขายิ้มได้...
'อยู่กับเด็กก็ไม่ได้แย่นะ มีความสุขดีออก :)'