Chapter 1
'ทำยังไงก็ได้ให้มันตายๆไปซะ ทุกอย่างมันจะได้จบๆไปซักที'
'อ่อ ให้มันดูเป็นอุบัติเหตุที่สุดนะอย่าให้สาวมาถึงตัวฉันได้ล่ะไม่อย่างนั้นซวยกันหมด'
เฮือกกก!!!
แฮ่กๆๆๆๆ
สไมล์สะดุ้งตื่นกลางดึกพร้อมกับเหงื่อที่ซึมท่วมตัวฝันร้ายมันตามหลอกหลอนเธอตลอดหลายเดือนแล้วหลังจากที่เธอรอดออกมาได้ในครั้งนั้นเธอก็หนีมาโดยตลอดเพื่อรอเวลาที่เหมาะสม
"ฝันร้ายอีกแล้ว เห้ออออ"
สไมล์ลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะมองตัวเองในกระจกใบหน้าตื่นกลัวยังอยู่กับเธอตลอดไม่ไปไหน
"แกเป็นอะไรเนี้ยสไมล์ อย่าบอกนะว่าฝันร้ายอีกแล้วนะ"
สไมล์หันไปมองหน้าเพื่อนก่อนจะพยักหน้าอย่างเหนื่อยล้า หลายเดือนมานี้เธอมาขออาศัยอยู่กับเพื่อนที่บ้านเรียกว่าเก็บตัวก็ไม่ผิดเพราะเธอไม่ได้ออกไปไหนเลยแม้สักครั้ง เพื่อนของเธอเปิดร้านอาหารเธออยากจะออกไปช่วยงานบ้างแต่หล่อนก็ห้ามคงเพราะกลัวเธอจะได้รับอันตราย
"อือ"
"ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ฉันว่าแกจะได้พบจิตแพทย์แล้วนะแจ้งความดีมั้ยให้ตำรวจเข้าจัดการมันจะได้จบๆไป"
"แกก็รู้ว่าถ้าไม่มีหลักฐานฉันเอาผิดอะไรไม่ได้ อีกอย่างฉันต้องรอเวลาแค่อีกไม่นานเท่านั้นทุกอย่างมันจะได้จบๆสักที"
"หรือว่าอยู่แต่บ้านมันฟุ้งซ่านยะออกไปที่ร้านบ้างดีมั้ย"
สไมล์มองเพื่อนตาโตทันทีหลายเดือนมานี้เธอขออยากออกไปด้วยหล่อนก็ไม่เคยยอมทำไมวันนี้มาแปลกแหะ
"ไปได้จริงเหรอ"
"อืม ไปวันนี้เลยไหนๆก็ตื่นแล้วนี่วันนี้ที่ร้านมีแขก VIP มาทานอาหารที่นี่เลขาเขามาจองไว้แล้วฉันต้องไปดูความเรียบร้อยช่วยแม่ แม่ก็บอกว่าทำไมไม่พาแกมาบ้างตอนนั้นฉันกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยก็เลยไม่กล้า แต่ว่าวันนี้คนที่มาเป็นมหาเศรษฐีที่มีอิทธิพลมากระดับประเทศบอดี้การ์ดผู้ติดตามเยอะมากพวกนั้นไม่กล้ามาใกล้หรอก แกปลอดภัยแน่นอนออกไปได้"
สไมล์ฟังเพื่อนสาวพูดไปแล้วก็คิดตามไปถ้าเธอรู้จักคนที่มีอิทธิพลและปกป้องเธอได้เธอคงไม่ต้องมาหลบอยู่แต่ห้องแคบๆแบบนี้ คงได้ไปทำงานเดินห้างท่องเที่ยวตามแบบที่เคยทำมาก่อนหน้านี้แล้ว
"เอ้า! ตกลงว่าไงไปมั้ยยะ"
"ไปสิ ไปๆ งั้นฉันไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ"
"อืม โอเคฉันรอข้างล่างนะ"
"จ้า"
สไมล์ยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจสุดขีด เธอรีบไปหาเสื้อผ้าที่สวยที่สุดเพราะหลายเดือนมานี้เธอใส่แต่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นจนเบื่อตัวเองแล้ว
หลังจากแต่งตัวเรียบร้อยเช็คหน้าตาตัวเองผ่านกระจกก็หยิบกระเป๋าเดินลงไปหาเพื่อนชั้นล่าง เบนนี่รอเธออยู่แล้วและทั้งสองคนก็พากันเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปยังจุดหมายปลายทาง
@ภัตตาคารทารา
สไมล์มองพนักงานที่ต่างทำหน้าที่ของตัวเองกันอย่างขยันขันแข็งส่วนเธอนั้นไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรดีเพราะทุกอย่างมีคนทำหมดแล้ว
"หนูสไมล์ลูกไปนั่งเล่นตรงห้องรับรองดีกว่ามั้ยเดี๋ยวมีอะไรให้ช่วยแม่จะเรียก"
"หนูอยากช่วยทุกอย่างเลยค่ะแต่ดูเหมือนว่ามันจะเกะกะเขาซะเปล่า แหะๆ"
"ไม่หรอกลูกงานทุกอย่างเขามีคนทำประจำหนูแค่ออกมาจากบ้านบ้างแม่ก็คิดว่าดีมากแล้ว พวกนั้นคงเลิกตามแล้วล่ะมั่ง"
"ของให้มันเป็นอย่างนั้นเถอะค่ะ หนูอยากได้ชีวิตของหนูคืนไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย"
"ไม่ต้องคิดมากอยู่กับแม่เนี้ยแหละ เบนนี่ลูกมาพอดีเลยพาเพื่อนไปนั่งพักเถอะตรงนี้แม่จัดการเอง"
"จ้าแม่"
เบนนี่เดินมาลากแขนเธอออกไปจากห้องครัวแล้วพาเดินไปยังห้องรับรองของทางร้าน สไมล์นั่งเท้าคางคิดถึงเรื่องที่เพื่อนสาวพูดไว้ก่อนหน้านี้ถ้าเธอมีคนที่ปกป้องตัวเองได้มาคอยดูแลเธอมันคงจะดีจริงๆ
"คิดอะไรอยู่ยะหล่อน"
"กำลังคิดว่าถ้าฉันมีผู้ที่มีอิทธิพลคอยปกป้องอยู่ไม่ห่างฉันคงปลอดภัยและใช้ชีวิตแบบปกติได้"
เบนนี่เริ่มมองเพื่อนสาวอย่างระแวง ยัยนี่ชอบคิดอะไรแผลงๆอยู่ด้วยเธอล่ะกลัวใจเพื่อนจริงๆ
"อย่าคิดอะไรแผลงๆเพียงเพราะแค่อยากได้อิสระในการใช้ชีวิต อดทนเพียงอีกหน่อยเท่านั้นทุกอย่างมันจะผ่านไปได้ถึงเวลานั้นค่อยคิดบัญชี"
เบนนี่พูดไปสายตามองเพื่อนไปดูว่าหล่อนจะมีปฏิกิริยาแบบไหน แต่ดูท่าหล่อนจะเอนเอียงไปในทางนั้นซะแล้ว
"ยัยสไมล์!! อย่าเล่นกับไฟไม่ว่ากับใครแกเป็นผ้าขาวนะการจะมีคนปกป้องหรือจะพึ่งพาอิทธิพลใครก็ต้องแลกบางอย่าง เช่น ร่างกาย ความบริสุทธิ์ที่แกรักษาไว้"
"เออๆรู้น่าฉันไม่ไปเป็นเด็กเสี่ยแก่ๆเต๊าะเด็กหรอกน่า แกนี่ก็คิดมากน่า"
"ให้มันจริงอย่าให้ฉันรู้นะว่าแกไปเป็นเด็กเลี้ยงใครนะฉันจัดการแกแน่ อยู่ตรงนี้แหละแขกน่าจะใกล้มาแล้วฉันจะไปช่วยแม่"
"จ้าๆ ไปเถอะ"
สไมล์โบกไม้โบกมือให้เพื่อนก่อนจะยิ้มมุมปากอย่างมีแผนร้าย ใครจะโง่ไปเป็นเด็กเลี้ยงเด็กเสี่ยให้ตัวเองหมดคุณค่าล่ะไหนๆก็จะหาทั้งทีก็ต้องเลือกดีๆไปเลยสิจริงมั้ย
สไมล์เดินออกมาจากห้องรับรองแล้วเดินออกไปในร้านดูนั้นนี่ตามประสาคนไม่ได้ออกมาข้างนอกนาน เธอชะงักไปก่อนจะขยับหลบเล็กน้อยสายตามองไปยังชายหนุ่มรูปงามท่าทางสง่ามีคนตามหน้าหลังเป็นพรวน
"ป๋ามินทร์เชิญทางด้านนี้ครับ เดี๋ยวอีกสักครู่ทางผู้ซื้อหุ้นคงมาถึงแล้วป๋าอยากทานอะไรก่อนมั้ยครับ"
"ขอกาแฟร้อนๆสักแก้วก่อนแล้วกัน"
"เอกสารสัญญาค่ะป๋า"
"ขอบใจ"
ป๋ามินทร์รับเอกสารมาไว้ในมือก่อนจะนั่งลงตรงโซฟาแล้วเปิดดูไปพรางๆระหว่างรอคุยกับลูกค้า เขาเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆก็เจอกับสายตาของสาววัยแรกแย้มที่มองจ้องหน้าเขาอยู่เช่นกัน
'สวยจัง :)'
คำแรกที่ผุดขึ้นมาในความคิดของเขาหญิงสาวตรงหน้าช่างสวยเหลือเกิน เขามองสบตากับเธอก่อนจะยิ้มมุมปากเล็กน้อยเด็กน้อยคนนั้นก็ยิ้มตอบกลับเขาเช่นกัน
"น่ารักจัง"
"อะไรนะครับป๋า..."
ป๋ามินทร์สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะรีบปฏิเสธทันทีแล้วเหลือบสายตามองหญิงสาวอีกครั้งแต่ว่าเธอหายไปแล้ว
'หายไปไหนซะแล้ว'
สไมล์รีบเดินหลบมายังห้องรับรองทันทีหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะทำไมเขาถึงหล่อขนาดนี้แถมยังยิ้มให้เธออีก อร๊ายยย เขาเป็นใครนะ
"คุณสไมล์คะคุณเบนนี่ให้ไปหาที่ล็อบบี้คะ"
"ค่ะ"
สไมล์เดินออกไปทางเดิมที่มาเจอเบนนี่ยืนคุยกับพนักงานอยู่ สไมล์รีบไปกระโดดกอดแขนเพื่อนสาวทันทีก่อนจะสะกิดแล้วชี้ให้เธอดู
"เบนนี่เธอรู้จักผู้ชายคนนั้นมั้ย"
เบนนี่หันไปมองตามสายตาของเพื่อนก่อนจะร้องอ่อออกมาทันที
"ก็แขก VIP ไง คนที่หล่อๆนะเขาชื่อป๋ามินทร์ หล่อ มหาเศรษฐี อิทธิพลคับประเทศเลยแหละชายหนุ่มที่สาวๆหมายปองสถานะโสดถามทำไมแกสนใจเหรอไง หือ..."
เบนนี่เริ่มรู้สึกได้ถึงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเพื่อนสาว ทำไมเธอรู้สึกว่าเพื่อนของเธอมันมีแผนร้ายในหัว
"แกคิดจะทำอะไรยัยสไมล์"
"ก็ถ้าอยากมีอิสระก็ต้องมีคนปกป้องใช่มั้ยล่ะ ฉันเจอคนนั้นแล้ว ^^"
เบนนี่ตาโตทันทีถึงเธอจะอยากสนับสนุนเพราะผู้ชายคนนี้มีอิทธิพลและเพอร์เฟคทุกอย่าง แต่ด้วยวัยอายุที่ห่างกันมากและเพื่อนเธอยังเด็กเบนนี่เป็นห่วงกลัวว่าเพื่อนของเธอจะถูกกินฟรีเปล่าๆ ยัยสไมล์มีค่ากว่านั้นมากมากกว่าที่จะเป็นของเล่นของเศรษฐี
"คนนี้ไม่ได้อยากเป็นของเล่นเศรษฐีหรือไง"
"นี่ใครสไมล์นะจ๊ะ ผู้ชายที่จะได้กินฉันต้องเป็นคนที่ฉันเลือกแล้วเท่านั้นและฉันเลือกแล้วว่าเป็นเขาฉันจะต้องเป็นเด็กของป๋ามินทร์ให้ได้"
"แกจะทำยังไงแค่นี้เขายังไม่มองแกเลย"
"แกรู้ได้ยังไงว่าเขาไม่มองฉัน หึ! ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะคนอย่างฉันจะไม่เป็นของกินเล่นของเขาแน่นอน ไหนๆฉันก็จะมอบความบริสุทธิ์ที่เก็บไว้24ปีให้เขาก่อนที่จะได้กินต้องหลงฉันจนโงหัวไม่ขึ้นซะก่อน :)"
"แล้วแกจะทำยังไง?"
" :) "