สไมล์นั่งคุยเล่นกับป๋ามินทร์อยู่ในโรงพยาบาลอย่างอารมณ์ดี ทั้งสองคนพอได้คุยเรื่องที่ไม่เข้าใจกันเรียบร้อยต่างฝ่ายต่างโล่งใจแปลกๆ
"สไมล์ชอบแบบนั้นเลย"
"แบบไหน สีชมพูเนี่ยเหรอคะ"
"ใช่ค่ะมันน่ารักสไมล์ชอบ"
ป๋ามินทร์มองภาพในโทรศัพท์ของตัวเองก่อนจะกดส่งกลับไปให้ลูกน้องของเขาเพื่อจัดการต่อ
"โอเคงั้นเอาสีชมพูเนี้ยแหละ"
เขายิ้มหวานมองเด็กน้อยที่ตอนนี้นั่งทานองุ่นไปช่วยเขาทำงานไป เมื่อกี้มีงานเข้าด่วนเขาจะต้องเลือกขอชำร่วยงานเลี้ยงครบรอบบริษัทอาทิตย์หน้าก็เลยให้สไมล์ช่วยเลือกว่าจะเอาแบบไหน ผู้หญิงอ่ะนะก็เลยเลือกของที่มันเป็นสีชมพู
"สไมล์ชอบเฉยๆค่ะแต่ว่าไม่ได้ให้คุณป๋าเลือกนะ"
"ขี้เกียจคิดแล้วเอาแบบนั้นแหละ ว่าแต่เดินไหวมั้ยคะ"
"ดีขึ้นแล้วค่ะเดินอ่ะเดินได้ค่ะสบายมาก"
"โอเค อ่อ ผมจะถามว่าสไมล์ทำงานอะไรเหรอหรือว่ายังเรียนอยู่"
ป๋ามินทร์เอ่ยถามเรื่องที่สงสัย สไมล์หน้าเด็กมากถ้าเขาไม่รู้ว่าเธอเป็นเพื่อนกับลูกสาวเจ้าของภัตตาคารคงคิดว่ากำลังเรียนอยู่
"สไมล์เรียนจบแล้วค่ะตอนนี้ว่างๆไม่มีอะไรทำ คือว่างงานนั้นแหละค่ะ ทำไมเหรอคุณป๋าจะจ้างสไมล์ไปช่วยงานเหรอคะ คิคิ"
สไมล์เอ่ยหยอกล้อกับชายหนุ่ม ถ้าไปทำงานด้วยมันก็ดีนะที่บริษัทเขาน่าจะปลอดภัยพอสมควรอีกอย่างเธอจะได้ใกล้ชิดเขาด้วย แต่ถ้าออกโรงพยาบาลไปเธอก็ไม่รู้ว่าจะหาทางเจอเขาได้แนบชิดขนาดนี้หรือเปล่า
"ถ้าจ้างจริงจะไปรึเปล่าล่ะ :)"
ป๋ามินทร์เท้าคางมองเด็กสาวถ้าเธอว่างเขาก็อยากจะชวนไปทำงานด้วยนะไม่ได้อยากจะใช้งานเด็กหรืออะไรก็แค่อยากเจอเท่านั้น
"ไปได้จริงเหรอคะ สไมล์ไม่เอาค่าจ้างก็ได้แต่ขอให้คุณป๋ามารับมาส่งสไมล์ก็พอ ส่วนเรื่องงานสไมล์ทำให้ฟรีค่ะ"
สไมล์เอ่ยออกไปอย่างดีใจ ถ้าเขามารับมาส่งเธอการออกจากบ้านทุกวันเธอจะปลอดภัยส่วนเรื่องเงินมันไม่ใช่ปัญหาของเธอ
"ทำงานไม่รับค่าจ้างมันมีที่ไหนกัน"
"ก็มีที่สไมล์เนี้ยแหละน้าๆ คุณป๋าพาสไมล์ไปทำงานด้วยน้า"
หญิงสาวยื่นมือไปเกาะแขนเขาอย่างออดอ้อน เธออยากออกไปทำงานข้างนอกอยากไปเที่ยวเล่นอย่างคนอื่นเขา ชีวิตที่อยู่ด้วยความระแวงแบบเธอจะหาความสุขได้จากที่ไหนอีกถ้าไม่ใช่ที่นี่กับป๋ามินทร์
"โอเคๆ งั้นถ้าออกจากโรงพยาบาลแล้วผมจะมารับสไมล์ทุกวันเลย แต่จะให้ทำงานที่ออฟฟิศคงไม่ได้นะทำงานกับผมต้องออกไปทุกที่ด้วยกันจะทำรึเปล่าคะ"
สไมล์พยักหน้าอย่างดีใจ ออกไปข้างนอกนั้นแหละที่เธอต้องการได้ใกล้ชิดกับเขาด้วยหาโอกาสแบบนี้ได้จากไหนอีก
"โอเคค่ะสไมล์ทำได้ เย่ๆดีใจจังเลยสไมล์ไม่ต้องทนอยู่ในห้องคนเดียวอีกแล้ว คุณป๋าจะมารับสไมล์ทุกวันใช่มั้ยคะ"
"ได้สิคะ แล้วทำไมถึงไม่ออกมาข้างนอกล่ะ ทำไมถึงอยู่ในห้องคนเดียว"
ป๋ามินทร์เอ่ยถามเด็กสาวอย่างสงสัยทำไมเธอทำเหมือนออกไปไหนคนเดียวไม่ได้ยังไงอย่างงั้น
"เอ่อ คือว่าสไมล์..."
สไมล์อึกๆอักๆอย่างไม่รู้จะตอบยังไงดี มันเป็นเรื่องที่อธิบายยากจริงๆ
"ไม่เป็นอะไรคะถ้าไม่สะดวกจะเล่าก็ไม่เป็นอะไร งั้นแสดงว่าถ้าผมไปรับที่บ้านแล้วพาไปส่งสไมล์จะออกมาได้ตลอดใช่มั้ย"
"ใช่ค่ะ คุณป๋าต้องมารับสไมล์จริงๆนะ"
"ค่ะสัญญาว่าจะมารับสไมล์ทุกวันเลยดีมั้ย"
"ดีมากๆเลยค่ะ เย่ๆๆ ขอบคุณนะคะคุณป๋าใจดีที่สุดเลย"
สไมล์กอดแขนคุณป๋าของเธออย่างดีใจสุดๆ ชายหนุ่มลูบผมหญิงสาวอย่างเอ็นดู ท่าทางจะต้องสืบเรื่องสไมล์ซะแล้วเด็กตัวเล็กๆไม่มีพิษมีภัยอะไรด้วยซ้ำทำไมถึงทำเหมือนมีคนจ้องทำร้ายเลย
"นอนพักผ่อนก่อนดีมั้ย ควรพักผ่อนนะเพิ่งจะฟื้นไข้เอง"
"คุณป๋าจะกลับแล้วเหรอคะ"
สไมล์ทำหน้าตาละห้อยมองชายหนุ่ม ถ้าเป็นไปได้เธอไม่อยากให้เขากลับไปเลยแต่มันจะดูเห็นแก่ตัวไปอีกอย่างเธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อยถ้าเขามาเฝ้าเธอแบบนี้ก็คงดูไม่ค่อยดี
"ยังหรอกยังไม่กลับค่ะรอสไมล์หลับก่อน นอนนะคะเด็กดีพรุ่งนี้ผมจะมารับออกจากโรงพยาบาล"
ป๋ามินทร์นั่งลูบผมสไมล์เพื่อให้หญิงสาวเคลิ้มหลับ สไมล์นอนนิ่งกระพริบตาพริบๆมองชายหนุ่มที่ยิ้มหวานให้เธออยู่ตรงหน้า ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนทำไมเพียงแค่ลูบผมเท่านั้นทำไมเธอถึงรู้สึกปลอดภัยขนาดนี้
"ขอบคุณนะคะคุณป๋าที่อยู่เป็นเพื่อน คุณป๋าใจดีกับสไมล์มากเลยรู้มั้ย"
"นอนเถอะค่ะเด็กดีถ้าเกิดมีอะไรที่ไม่สบายใจก็อย่ากังวลเลยนะ ถ้าผมอยู่ตรงนี้สไมล์จะปลอดภัย"
สไมล์ซาบซึ้งในคำพูดเพียงไม่กี่คำของเขามาก เธอเลือกไม่ผิดแน่นอนป๋ามินทร์คือผู้ชายที่อบอุ่นมากและสามารถปกป้องใครคนหนึ่งได้ถ้าเขาคิดจะทำ
"ขอบคุณนะคะสไมล์นอนนะคะ"
"ค่ะ"
เขานั่งลูบผมสไมล์อยู่อย่างนั้นนานหลายนาทีจนเด็กสาวผลอยหลับไป เขาดึงมือออกลุกขึ้นเดินไปดึงผ้าห่มมาคลุมตัวหญิงสาวไว้ เบนนี่มาถึงได้เวลาพอดีเธอเดินมาดูเพื่อนสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงก็ถอยหายใจออกมาอย่างโล่งใจ
"เห้อออ นอนหลับสักที"
เบนนี่หันไปมองป๋ามินทร์ก่อนจะยกมือขึ้นขอบคุณชายหนุ่มเพียงแค่เจอกันครั้งสองครั้งแต่เขาใจดีกับเพื่องของเธอมาก
"ขอบคุณมากเลยนะคะป๋ามินทร์ที่ดูแลสไมล์ ถ้าเพื่อนของเบนนี่ทำอะไรให้ปวดหัวก็ขอโทษแทนด้วยนะคะ"
เบนนี่ยกมือขอโทษแทนเพื่อนสาวเธอรู้จักเพื่อนเธอดีสไมล์เป็นคนตรงๆโกหกไม่เก่งบางทีคำพูดคำจาอาจจะพูดออกมาโดยไม่คิดอะไรแต่คนฟังอาจจะแย่เอาได้
"สไมล์เป็นเด็กคุยเก่ง คุยสนุก ไม่ได้ทำอะไรให้ผมปวดหัวหรอก แต่ถ้าไม่เป็นการเสียมารยาทจนเกินไปผมอยากจะถามอะไรเกี่ยวกับสไมล์หน่อย ไม่รู้ว่าจะสะดวกมั้ย"
"เรื่องอะไรเหรอคะ"
"ผมกับสไมล์ตกลงกันว่าผมจะพาสไมล์ไปทำงานด้วยเธอบอกว่าไม่รับเงินเดือนจากผมขอแค่ผมมารับมาส่งเธอเท่านั้น เธอบอกว่าเบื่อห้องแล้วด้วยสไมล์อยู่ที่บ้านของคุณใช่มั้ย"
"ใช่ค่ะสไมล์อยู่กับเบนนี่"
"เธอออกไปไหนไม่ได้เหรอ.. พอจะบอกผมได้มั้ยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับสไมล์?"
ป๋ามินทร์เหลือบสายตามองสไมล์ที่นอนหลับอยู่ไม่รู้สึกตัว เขาต้องรู้ไว้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอเขาจะได้ดูแลสไมล์ให้ปลอดภัยที่สุด
"เรื่องนี้เบนนี่พูดไม่ได้ค่ะป๋ามินทร์ต้องถามเธอเอง แต่ที่บอกได้ตอนนี้คือถ้าป๋ามินทร์จะพาสไมล์ไปไหนอย่าปล่อยให้เธอไปไหนคนเดียวและต้องอยู่ในสายตาตลอดขอแค่นี้ได้มั้ยคะ"
เบนนี่เอ่ยขอร้องป๋ามินทร์จากใจจริง สไมล์คือเพื่อนสนิทของเธอที่สุดเธอรักและห่วงเพื่อนคนนี้มากถ้าป๋ามินทร์ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะดูแลสไมล์ได้ก็อย่าพาออกไปเลย
"ผมไม่รู้ว่าทุกอย่างมันเกิดจากอะไร แต่ผมสัญญาว่าจะดูแลสไมล์อย่างดีที่สุด ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ผมขอมารับสไมล์นะ"
"ค่ะ ขอบคุณนะคะที่เอ็นดูเพื่อนของเบนนี่"
ป๋ามินทร์หันไปมองสไมล์ยื่นมือไปเกลี่ยปอยผมให้เธอแล้วยิ้มออกมาบางๆ
"ผมอยากรู้จักสไมล์ให้มากกว่านี้ คุณจะอนุญาตให้ผมได้ดูแลเพื่อนคุณมั้ย"
"ด้วยความยินดีค่ะ เบนนี่มั่นใจว่าป๋ามินทร์จะเป็นคนที่ดูแลสไมล์ได้ดีที่สุด"