8 - ไอโฟนใหม่ กับผัวใหม่
ในคืนนั้น
“ทำอะไรอะ งานอาจารย์ไม่ทำ สั่งแต่ของอยู่นั่นแหละ” บอนสีเดินเข้าไปในห้องนอนของต้นส้ม ผมอุตส่าห์เป็นพ่อบ้านแสนดีเอาอกเอาใจคนรักผมทุกอย่าง ถึงขนาดไปคั้นน้ำส้มและเตรียมขนมให้ เพราะเห็นว่าช่วงนี้พวกเราสองคนกำลังเริ่มต้นในรั้วมหาวิทยาลัย ผมอยากให้กระตือรือร้นในการเรียนก็ยังดี ทำงานส่งอาจารย์และอย่าให้ติดเอฟ แค่เริ่มต้นมันก็เอื่อยหมดแรงแล้ว ก่อนหน้านั้นผมบอกให้ช่วยกันค้นหาข้อมูลทำงานชิ้นหนึ่งส่ง ผมบอกให้เข้าอินเตอร์เนต ผมจะลงไปเตรียมน้ำเตรียมขนม หายไปพักหนึ่ง มันนั่งเล่นโทรศัพท์ สั่งของแทนจะทำงานแล้ว
“นิด ๆ หน่อย ๆ เองน่า”
ผมแค่ดูของในชอปปิ้งออนไลน์ ไม่ได้คิดจะสั่งสักหน่อย ผมอยากรู้ว่าช่วงนี้มีอะไรใหม่ ๆ สินค้าอะไรลงใหม่น่าสนใจเท่านั้นเอง แล้วในตอนนั้นเองบอนสีมันพูดอะไรบางอย่างขึ้นมา เรื่องนี้ผมไม่เคยบอกแต่เหมือนมันอ่านใจผมออกว่าผมต้องการอะไร
“ไอโฟนออกใหม่ กูอยากได้ว่ะ”
ผมเห็นบอนสีเข้าไปในเว็บไซต์ของแอปเปิ้ลเพื่อดูสินค้าใหม่กำลังเตรียมขายและเครื่องนี้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด กำลังจะปล่อยขายในช่วงสองสามวันนี้ ถือได้ว่าเรียกกระแสให้ผู้คนสนใจรีบไปจับจองอยู่แล้ว ผมเห็นราคาแล้วถึงกับปฏิเสธทันที
“จะซื้อไปทำไม โทรศัพท์ที่ใช้ก็ได้ เล่นเฟซ เล่นไลน์ได้จะเปลี่ยนทำไม”
“ก็จริง”
“กูว่าเก็บเงินใช้จ่ายทุกวันดีกว่า พ่อแม่ส่งมาเรียนไม่ได้ส่งมาซื้อโทรศัพท์ อีกอย่างราคาแบบนี้ซื้อข้าวกินได้หลายเดือน” ผมบอกกับบอนสีว่าของแบบนี้ ออกใหม่ตามกระแส พอหมดกระแสแล้วก็เงียบเป็นเป่าสาก พอมีรุ่นใหม่ออกอีกก็จะเกิดวัฏจักรซื้อแล้วขาย ใช้ไปนานก็จะเกิดทิฐิเปลี่ยนใหม่ตามกระแสอยู่ดี ผมอยากให้ผมกับบอนสีใช้เงินอย่างประหยัดและคุ้มค่าในแต่ละวัน จะได้ไม่เกิดปรากฏการณ์ชักหน้าไม่ถึงหลัง
“มันก็จริงนะ งั้นเอาไว้ก่อนก็ได้”
ผมเห็นนิสัยของบอนสีอย่างหนึ่งคือมันไม่ได้งี่เง่าเรียกร้องอยากได้ของสิ่งนั้นเกินไป ดีหน่อยถ้าพูดรู้เรื่องแล้ว ไม่ต้องพูดซ้ำหลายครั้งทำเหมือนคนฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง มันอยากได้อะไรถ้าอดทนรอหน่อยมันก็ไม่เป็นไร
“ดีแค่ไหนละที่ป้าแดงไม่เอาให้มึงได้หน้าใหม่”
“กูบอกแล้วไงว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด” ผมอธิบายเรื่องนี้ไปแล้วว่าผมกับป๊อกกี้ไม่ได้ทำอะไรกัน มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ยังไม่ได้ทำอะไรกันถึงขั้นนั้นและไม่ได้คิดเกินเลยด้วย เอาเป็นว่าผมขอให้เรื่องนี้จบด้วยดีไม่ใช่ยังใส่ไฟทะเลาะกันไม่หยุด จะเอาให้บ้านแตกให้ได้
“รีบทำได้ละ กูจะได้หลับสักที”
ผมขอให้ต้นส้มช่วยอยู่ในโหมดจริงจังทำงานส่งอาจารย์สักที ไม่ใช่มาทะเลาะกันเรื่องจับชู้ ไม่งั้นงานก็ไม่เสร็จสักที ผมรู้ดีว่าคนอย่างต้นส้ม ผู้ชายไม่ขาด บุหรี่ไม่สูบ สูบแต่บุรุษ ถ้าผมหยุดมันได้ มันต้องหยุดผมได้เช่นกัน
เวลาต่อมา
“ฮัลโหลที่รัก...”
ผมเห็นว่าบอนสีเดินเข้าห้องนอน ปิดไฟแล้ว ก่อนจะทำแผนการ ผมเอาหูไปแนบประตูให้ชิดที่สุด ให้ผมได้ยินเสียงที่เบาและรู้ว่าเข้านอนแล้ว พอเห็นว่าทางสะดวก ผมรีบติดต่อหาผู้ชายของผมที่ผมชอบเรียกใครที่ชอบว่าที่รักเสมอ งานนี้ก็เช่นกัน การที่ผมคุยกับผู้ชายอื่น ขอให้เบาเสียงที่สุด ไม่งั้นบอนสีจะมาโวยวายใส่ผม ทะเลาะกันบ้านแตกไม่จบ ที่ผมต้องแอบคุยเพราะผมตกลงกันแล้วว่าผมอยากได้อะไร
“เห็นหน้ากูแล้วคิดถึงเงินหรือของที่มึงอยากได้สินะ”
“ก็ได้กับกูแล้ว กูต้องโทรมาเอาของสักหน่อย”
“เดี๋ยวสักวันสองวันจะพาไปนั่งรอก่อนร้านเปิดละกัน” โซดากำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนมุมเดิม มุมที่ทำให้ผมผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า ยิ่งถ้าได้คุยกับต้นส้มก่อนนอน ผมจะหลับฝันดี หลับสนิทไปจนถึงเช้าไม่ต้องใช้ยานอนหลับเลย ผมบอกแล้วว่าผมให้ได้ตามที่เขาต้องการแค่รอเวลาอีกหน่อย ก็ได้แบบไม่ต้องร่ำร้องหลายครั้ง
“น่ารักที่สุดเลยโซดา”
“จะนอนหรือยัง มาดูเรารีดนมวัวกันไหม” วันนี้ต้นส้มอยู่กับแฟนตัวจริงอย่างบอนสี ผมไม่หน้าด้านพอจะฉุดกลับมาบ้านผมหรอก วิดิโอคอลช่วยตัวเองรีดนมวัวให้ดูก็พอใจแล้ว น้ำเชื้อผู้ชายทั้งแท่งรีดขาวข้น สดใหม่ทุกครั้ง
“อยากกินนมโซดาจัง...”
“แผลที่หน้ามึงอะ ป้าแดงเหรอ กูบอกแล้วไงว่าอย่าไปท้าทายป้า คนจริงถีบไม่สนลูกใคร” ผมเห็นบาดแผลที่หน้าต้นส้มแล้ว บอกเลยว่าทีหลังอย่าไปท้าทายป้าแดง จะไปผสมพันธุ์กับลูกชายเขา ถ้าจับได้สภาพใบหน้าเยินจนได้ศัลยกรรมใหม่เป็นอีกคนแน่นอน ผมย้ำเขาให้เล่นในขอบเขตดี ๆ ไม่ใช่ประเจิดประเจ้อ ทำอะไรไม่อายฟ้าดิน
“เออ... กูหลาบละ”
“มึงก็ทำให้เขาเห็นในมุมดี ๆ มึงบ้าง ไม่ใช่เห็นลูกชายป้าหล่อ หน้าตาดีก็เข้าไปรุกหนัก ทำแบบนี้ผู้ชายกลัวหมด” ผมตอนเจอต้นส้มใหม่ ๆ ยังไม่ได้รู้จักกันมาก มันรุกหนักทำเพื่อนผมกลัวไปหลายคน พอเวลาผ่านไปผมก็ปรับตัวชินกับมันแล้ว เอาเป็นว่าอย่าหิวกระหายผู้ชายมากเกินไปแล้วกัน ไม่งั้นผมจะจัดการมันก่อน คุมกำเนิดจะได้ไม่ปล่อยเชื้อแรดใส่ใคร
“จะไปเมื่อไหร่กูไปรับนะครับ จู้บบ” ผมสัญญากับต้นส้มแล้วว่าถ้ามันอยากได้อะไร ผมก็จะหาให้ตามกำลังแล้วดูของที่มันอยากได้แต่ละอย่างสิราคาแทบขายบ้านทั้งหลังได้แล้ว เพื่อต้นส้มผมก็ทำให้ได้ ถ้าผมทำได้จะไม่บ่นสักคำให้เขาได้ยินเลย
“โซดาเป็นแบบนี้ เราถึงชอบนายไงครับ...”
อีกด้านหนึ่ง
ในคืนเดียวกัน
“มึงบอกมาสิว่ามึงจะไม่เล่นด้วยกับมันอีก” ป๊อกกี้นำน้ำเย็น ๆ มาเสิร์ฟให้ป้าแดงผู้เป็นแม่ของผม พร้อมนวดเพื่อบรรเทาอาการเหนื่อยล้าตรงต้นขาให้นาน ๆ เน้นส่วนนั้นเพราะเดินเยอะ ผมต้องบรรเทาจะได้ไม่ปวดมากเดี๋ยวแม่ผมไม่มีแรงทำงานหาเลี้ยงครอบครัวอีก
“ผมไม่ได้อะไรกับเขาสักหน่อยแม่”
“แล้วไอ้ที่กูเห็นคืออะไร กัดแท่งป๊อกกี้แล้วดูดปากกัน มึงบอกไม่มีอะไร มึงเห็นกูแดกหญ้าแทนข้าวเหรอ”
“เดี๋ยวแม่ก็แดกหญ้าต่อไป...”
เพี๊ยะ!!
ผมพูดอะไรไม่เข้าหูโดนตบบ้องหูเต็มแรง ทำผมเกือบหูบอดไปชั่วครู่ ผมพลั้งปากพูดอะไรออกไปเนี่ย ผมอธิบายและสาบานให้ฟังต่อหน้าเลยว่าผมกับต้นส้มไม่เคยคิดอะไรมากกว่าคนรู้จัก ทุกวันนี้เขาคุยกับผมด้วยคำสุภาพ ท่าทางอัศยาสัยดี แต่มือและตัวเขาเลื้อยกอดผม ผมเห็นก็ไม่ได้ขัดขืนเพราะเห็นว่าเป็นผู้ชายด้วยกัน
“ความคิดมึงนี่กรองจนเศษตะกอนไปกับน้ำเหมือนไม่ได้กรองหรือไง มึงเป็นผู้ชาย มันเป็นผู้ชายก็จริง แต่ร่างกายมึงเป็นของสาธารณะเหรอถึงให้มันจับแบบไม่ขัดขืน ผู้ชายที่ไหนชอบให้จับของลับ นอกจากมึงจะขายตัว”
“แม่... ผมไม่ได้เป็นแบบนั้นนะ”
“เลิกยุ่งกับมันสิ”
“ต่อให้ผมเลิกยุ่งแต่หน้าตาผมยังเข้าตากรรมการ ก็ถือว่าเขายังไม่ไปจากผม”
“แม่งเอ้ย มึงเกิดมาหล่อทำไมเนี่ย ยิ้มทีตาหยี่จนใครก็มองมึงหมด แล้วทำไมต้องเป็นอีต้นส้มด้วยที่หมายปองลูกกู” ฉันบ่นด้วยความผิดหวังกับชะตาชีวิตเพราะทำไมต้องทำลูกชายออกมาหล่อให้ผู้ชายดี๊ด๊าหมายปองด้วย ไม่เข้าใจจริง ๆ นอกจากมันจะหล่อแบดบอยแล้วยังปากสุนัขอีก ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมมีดีเลิศประเสริฐศรีขนาดนี้
“ถึงยังไงก็เถอะ ถ้ามึงจะมีแฟนก็มี จะเป็นผู้ชายกูก็ไม่ว่าแต่ต้องไม่ใช่อีต้นส้ม”
“เขาไม่ได้ไปฆ่าคนนะแม่...”
“เออ มันไม่ได้ฆ่าคนแต่มันจะนำภัยมาให้มึง เห้ยย มึงฟังกูก่อน” ฉันยังเทศนาลูกชายตัวเองไม่จบ มันเดินหนีฉันไปต่อหน้าคาดว่ามันจะงอนแล้วไม่พูดอะไรอีกแล้ว เวลาป๊อกกี้งอนเพราะไม่ได้ดั่งใจหรือไม่รับความเห็นต่าง มันชอบเป็นแบบนี้เสมอ แต่ถึงมันจะเป็นยังไง ลูกชายฉันต้องไม่คบผู้ชายไม่มีหัวนอนปลายเท้าเอามหาวิทยาลัยมาเรียนบังหน้าให้ดูแพงเด็ดขาด
“ไอ้ป๊อกกี้!!”
เช้าวันต่อมา
“แม่ครับ...”
“ไม่อยู่”
“ผมยังไม่ได้ถามเลยนะแม่”
“กูรู้ว่ามึงจะถามอะไรเพราะมึงถามคำถามนี้เวลามาหากูตลอด มันไม่อยู่ ออกไปแต่เช้าแล้ว” ผมเดินมาหน้าบ้าน เข็นรั้วเดินเข้าไป ไม่ต้องขออนุญาตเจ้าของบ้านเพราะผมกับครอบครัวต้นส้มเป็นกันเองอยู่แล้ว เป็นแฟนกันจะเข้าบ้านเมียตัวเองไม่จำเป็นต้องขออนุญาต ผมเดินเข้าบ้านมาถามหาต้นส้ม ยังไม่ทันถาม แม่ก็ตอบให้ผมแล้วคาดว่าผมถามจนแม่เห็นหน้าแล้วเบื่อคำถามนี้ตอบให้เองเลย
“มันไปไหนไม่รู้ ออกไปแต่เช้าแล้ว มึงเป็นเมียมันไม่ใช่เหรอ ไม่รู้ได้ไง” ก็ผมเป็นเมียของต้นส้มนี่แหละ แต่มันออกไปไวกว่าแสงของโลกจะให้ผมไปตามหาที่ไหนทันล่ะ ผมหันไปทางไหนก็ไม่เจอทั้งที่แม่บอกว่าออกไปข้างนอก ผมก็ยังจะหลอกตัวเองอยู่นั่นแหละ
“สวัสดีครับคุณแม่”
ในขณะที่ผมชะโงกหน้ามองหา ผมได้ยินเสียงของผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหลังผม ผมหันมาพบว่ามันไม่ใช่คนอื่นคนไกล ป๊อกกี้ลูกชายป้าแดงเดินเข้ามายิ้มตาหยี่ใส่ผม ทำผมหวั่นไหว ผู้ชายอะไรยิ้มทีใจละลายหมด ผมไม่รู้ว่ามันมาหาแฟนผมทำไม มองหาเหมือนผม ผมพอจะรู้แล้วล่ะว่ามันมาทำไม
“ป๊อกกี้ มาหาต้นส้มเหรอ”
“อ๋อ ไอ้ต้นเรื่องคือมึงนี่เอง!”
“เดี๋ยว ๆ ไอ้บอนสี มึงใจเย็น ๆ ก่อนนะ” แม่ตกใจเพราะมันรู้แล้วว่าต้นเหตุเรื่องวุ่นวายวันก่อนที่ป้าแดงมาถีบยอดหน้าต้นส้มเพราะมีผู้ชายคนหนึ่งมาหว่านเสน่ห์จนต้นส้มหลงรัก และพอมันเป็นเรื่องเข้าใจผิดทำให้บอนสีไม่พอใจหนักกว่าเดิม ฉันรีบห้ามไว้ก่อนที่มันสองคนจะเปิดสนามมวยต่อกันห้ายก หาผู้ชนะไม่ได้
“มึงใจเย็น ๆ ก่อนนะไอ้บอนสี!!”