“มีความสุขเกินหน้าเกินตามั้ง”
คิ้วเรียวขมวดมุ่น
“พอรู้ว่าเธอแต่งงานกับมัน ใจฉันมันเต้นเร่าอยู่ไม่สุขเลย ถ้าจะตกนรกก็ตกไปด้วยกันสิ”
“ทำไมคะ”
“ถ้าเธอขึ้นสวรรค์ฉันก็จะจับเหวี่ยงลงนรกมานอนกกอยู่ดี”
“พี่เป็นบ้าไปแล้วเหรอ พี่เป็นคนเลือกที่จะไปต่างประเทศแทนที่จะเลือกแพรไม่ใช่เหรอ อย่าเห็นแก่ตัวไปหน่อยเลย” น้ำคำที่สาดออกไปเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด ไม่รู้เลยว่าสายตาของคนฟังพอใจแค่ไหน
เยื่อใยของเขาและเธอแน่นแฟ้นขนาดนี้ จะให้ตัดออกง่าย ๆ ได้ยังไง
จมูกโด่งก้มไล้แก้มนวล กดจูบที่กกหูสูดกลิ่นกายอ่อน ๆ ก่อนจะกระซิบเสียงพร่า
“งอนเหรอ”
“ทุเรศ!”
“งอนก็บอกดี ๆ สิ อย่าพูดจาใจร้ายกลบเกลื่อนกับชู้เก่าหน่อยเลยแพรพรรษา ดูก็รู้ว่าเธอคิดถึงฉันแค่ไหน เห็นหน้าก็ทนไม่ไหวแล้วไม่ใช่รึไง” ไม่เพียงแค่พูดแต่ยังสอดมือเข้าแตะต้นขา ใช้นิ้วเรียวเกี่ยวกางเกงในของแพรพรรษาลงค้างอยู่ที่เหนือเข่า จับมือทั้งสองข้างของหญิงสาววางลง แล้วใช้สะโพกดันเอวเล็กจนชนกับขอบโต๊ะ
“พี่คินหยุดนะ”
“เธอคิดถึงลีลาฉันที่คนอย่างไอ้ปัณณ์ตอบสนองเธอไม่ได้ คนที่สนใจแต่ความสุขของตัวเองอย่างมันจะทำให้เด็กร่านอย่างเธออิ่มได้ยังไง”
ขาเขาดันท่อนขาเธอห่างออกจากกันทีละนิด หญิงสาวรู้สึกวาบหวามในช่องท้อง พยายามดันเขาออกเท่าไหร่ผู้ชายตรงหน้ายิ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะจมน้ำตาย ลมหายใจหอบถี่ มองเขาด้วยสายตาเว้าวอน
“อย่านะคะ อื้ออ”
กลิ่นน้ำหอมที่แต่งแต้มไว้ถูกอคินสูดเข้าจนเต็มปอด เขาหลับตาสูดกลิ่นนั้นจนอิ่มเอม ก่อนจะบอกเธอด้วยสีหน้าจริงจัง “กลับมาแอบกินกันเงียบ ๆ เหมือนเดิม แล้วฉันสัญญาว่าจะปิดปากให้เงียบเลย...ทั้งเรื่องอดีตและอนาคตดีไหมน้องแพร”
นัยน์ตากลมโตเบิกกว้างไม่ทันได้เอ่ยปฏิเสธ
“ไม่...อุ๊บส์” เสียงปฏิเสธเหือดหายไปกับรสจูบนุ่มนวล
แลกเปลี่ยนน้ำหวานในริมฝีปากที่เผยอออกไม่กว้างนัก แต่เพียงพอให้สอดแทรกความคิดถึงผ่านเรียวลิ้นเข้าหยอกเย้า อคินอาศัยจังหวะนี้ใช้ลิ้นรุกไล่เรียวลิ้นเล็กที่พยายามจะหลีกหนี ก่อนเกี่ยวพันกระชากมันออกมาอย่างดูดดื่ม น้ำเสียงอึกอักในลำคอไม่ทำให้ร่างหอมหวานน่าเสพสมน้อยลงเลย แต่กลับทำให้เขาร้อนไปทั้งตัว
สัมผัสอ่อนไหวของเธออยู่ตรงไหน อคินจำใส่สมองไว้ขึ้นใจ
“ฉันคิดถึงเธอ”
ไม่อาจลืมความหวานล้ำที่ดิ้นเร่าอยู่ใต้ร่างได้แม้ผ่านไปหลายปี
“อึก พอแล้วค่ะพอแล้ว”
ยังไม่พอ
ดวงตาคมสบดวงตาฉ่ำน้ำใสแทนคำตอบ ละเลียดจูบผ่านซอกคอ สองแก้ม และปลายจมูกไล้ลงมาที่ริมฝีปาก ดื่มด่ำความหวานให้แพรพรรษาหมดเรี่ยวแรงไปกับความอ่อนโยนนั้น ดิ้นทุรนทุรายในอ้อมแขนเพราะถูกชิงอากาศหายใจ และถูกบังคับให้รับสัมผัสจากอคิน
“หวานมาก มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่คิดจะปล่อยเธอไป”
“แพรแต่งงานแล้วนะคะ อื้อออพี่คินขอร้อง”
“แล้วยังไง แต่งแล้วยังไงไม่แต่งแล้วยังไง” คำตอบของเขาไม่ได้ต่างจากปกติ หากแต่ทำให้คนฟังตกใจได้ทุกครั้ง คนอย่างอคินอยากได้ต้องได้จนลืมเรื่องศีลธรรมเลยรึไง
ยิ่งดิ้นหนีเรี่ยวแรงของเธอยิ่งหายไปกับฝ่ามือเขา
อคินสอดมือลูบต้นขานุ่มไร้กล้ามเนื้อ รุกล้ำพื้นที่สงวนแต่ไม่ย่างกรายเข้าไป อีกฝ่ามือขยำหน้าอกสวยได้รูปผ่านเสื้อผ้า เท่านั้นแพรพรรษาก็สั่นไปทั้งตัว ความรู้สึกร้อนจากปลายนิ้วมือสาก ทำให้หญิงสาวหัวหมุนรับอารมณ์หวามจนครางกระเส่าออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
เธอไม่รู้เลยว่าการกระทำของตัวเองในตอนนี้กำลังเรียกว่าอะไร เรียกว่านอกใจได้รึยัง เมื่อเผลอไผลไปกับสัมผัสของเขา ใช้ฝ่ามือที่คอยดันเขาออกคล้องคอชายหนุ่ม รั้งตนเองไม่ให้หงายหลังไปบนเคาน์เตอร์ครัว
และปล่อยเขาทำตามใจ
แบบนี้เรียกว่ากำลังเล่นชู้รึเปล่า
แค่ท่อนขาที่เสียดเข้ากับปลีน่อง ชีพจรบนร่างกายก็เริ่มร้อนผ่าว ไม่รู้ตัวเลยว่าใบหน้าแดงก่ำกำลังเย้ายวนให้คนมองบ้าคลั่งแค่ไหน
“เธอแม่งขยันทำให้คนเป็นบ้าจริง ๆ เงยหน้ารับจูบฉัน” เขาสั่งแล้วจูบรุนแรงขึ้นตามแรงอารมณ์รุกไล่ขึ้นเรื่อย ๆ
ยิ่งหนียิ่งดิ้นรนอคินยิ่งเอาแต่ใจตวัดเรียวลิ้นร้อนระรัว
แผล็บ
“อื้อออออ”
“ครางเบา ๆ หน่อย เดี๋ยวผัวเธอก็ได้ยินกันพอดี”
อารมณ์วาบหวามรุนแรงขึ้นทันทีที่ได้ยิน ทำให้สะโพกสวยแอ่นเข้าหาเขาไม่รู้ตัว
“ตอบสนองแบบนี้ก็แย่สิแพรพรรษา เธอเองก็คิดถึงฉันใช่ไหม” อคินถอนริมฝีปากออกมา เขาลูบเลียริมฝีปากบางที่สั่นระริกด้วยปลายลิ้นราวกับปลอบประโลม
“ไม่...อึก” ปลายลิ้นที่โดนกระชากออกไปถูกปล่อยคืน รสจูบและประโยคก่อนหน้าปลุกแพรพรรษาให้ฟื้นคืนสติกลับมา สภาพนางฟ้าของแพรพรรษาถูกอคินทำลายไม่เหลือชิ้นดี
นัยน์ตาหวานเคลือบความเกรี้ยวกราดส่งให้อคิน ไม่วายส่งหมัดทุบลงบนอกแกร่ง
“ไอ้เลว!”
ปึก!
“แพรพรรษา!”
“ไอ้คนสารเลวแพรจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพี่ปัณณ์”
“หึ...เด็กน้อย เสี่ยงดูแล้วกันมันจะเลิกคบกับฉันหรือเลิกกับเธอ โอ๋ไม่ร้องนะเด็กดี” อคินกลั้วหัวเราะร้าย เห็นน้ำตาแห่งความโกรธของหญิงสาวเขาก็ยิ่งอารมณ์ดี ยกมือกดหัวเล็กซบลงบนอกเพื่อปลอบใจ
อคินยกมือลูบปากไม่อยากจะเชื่อว่าแค่จูบจะทำให้เขาอิ่มเอมจนแทบหุบยิ้มไม่ลง ก่อนความชื้นแฉะจะแตะลงหน้าอก
“ใจร้อนจริงอยากต่อให้จบ...อึก! แพร!!!”
ฟันขาวงับลงบนเนื้ออ่อนที่โผล่พ้นเสื้อ แพรพรรษาขบสันกรามลงทิ้งรอยฟันด้วยความโกรธ แต่การแก้แค้นแบบเด็ก ๆ ไม่ได้ทำให้ร่างสูงสะเทือนสักนิด เพราะอคินทำแค่กัดฟันกรอดปล่อยให้แพรพรรษากัดจนพอใจ ข่มอารมณ์ที่อยากจะเหวี่ยงร่างเล็กด้วยการกำหมัดแน่น
“กัดพอรึยัง” อคินเอ่ยเสียงเย็นกระชากกรามเล็กบีบจนหน้ายู่ยี่
“อื้อออปล่อยนะ ถ้ารังแกแพรอีก...”
“จะทำไม” อคินกระชับบีบคางแพรพรรษาเชยขึ้นถามเสียงดุ เขาเลิกคิ้วสูงสีหน้าสบประมาท ราวกับบอกว่าตัวแค่นี้จะทำอะไรเขาได้ รอยฟันเล็ก ๆ นั่นไม่ได้ทำให้เขาเจ็บนักหรอก
ยิ่งคิดแพรพรรษายิ่งโมโห
“แพรจะกัดให้ขาดเลยคอยดู”
“หึ เอาสิเพราะเธอกัด ฉันก็จะกัดเธอเหมือนกัน คราวหน้าถ้ากัดตรงไหนฉันจะกัดเธอคืนตรงนั้น”
หญิงสาวดิ้นเฮือกมองริมฝีปากตัวเองถูกงับด้วยร่างสูง
“อื๊ออออออ”
ความเจ็บจี๊ดที่ทำเอาเธอดิ้นร้องออกมาอย่างหมดท่า ก่อนจะผละออกสบสายตาเยาะเย้ยทั้งน้ำตา “คราวนี้ฉันไม่กัดนมคืนก็ขอบคุณฉันซะนะ”
“ไอ้พี่คิน! ไอ้บ้า!”
เขากัดเธอคืนจริง ๆ พูดไม่ออกเลย
“วันนี้พอแค่นี้แล้วกัน เอาไว้วันหน้าฉันค่อยนัดมาใหม่ ชู้น่ะต้องมาตอนผัวไม่อยู่”
“ไปตายซะอคิน! ทำบ้าอะไรของพี่กรี๊ดดด”
ร่างสูงเกี่ยวแพนตี้ตัวเล็กที่ดึงลงมากลับคืนที่เดิม เขาปัดกระโปรงให้แพรพรรษา จับเธอลงมายืนกับพื้นแล้วยกนิ้วขึ้นปิดปากกระซิบบอกลา
“ชู่วววรีบออกมาล่ะ เดี๋ยวผัวสงสัยว่าหายไปนานเพราะแอบไปเล่น...ชู้!”
“...”
เสียงขำขันของหนุ่ม ๆ ดังเล็ดลอดเข้ามาในห้องครัว ร่างกายเธอยังร้อนวูบวาบจนต้องใช้น้ำลูบ ได้แต่เหม่อมองอาหารที่เริ่มส่งกลิ่นหอมด้วยสติที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
จะทำยังไงกับอคินดี