ชู้เก่า
“วันนี้เพื่อนพี่จะมานะแพร”
“ค่ะพี่ปัณณ์” หญิงสาวหันมายิ้มหวานให้สามีหนุ่มที่เข้ามาโอบกอดเธอ ผิวขาวเนียนมีเหงื่อผุดพรายไม่ทำให้ความสวยของหญิงสาวน้อยลงเลย
จมูกโด่งของปัณณ์กดลงบนแก้มแดงก่ำจากการทำงานบ้าน สูดกลิ่นน้ำหอมราคาแพงบนตัวภรรยาสาวเอาแรง
ฟอดดด
“ปล่อยเถอะค่ะ แพรจะรีบไปเปลี่ยนชุดแล้ว”
“ไม่ต้องหรอกชุดไหนแพรก็สวยทั้งนั้นแหละ” ปัณณ์เอ่ยเอาใจภรรยาสาว
“แหน้! ปากหวานนะคะ ไม่ได้หรอกค่ะแพรไม่อยากให้เพื่อนพี่ปัณณ์เอาแพรไปนินทาว่าโทรม”
“โทรมที่ไหนกันแค่มีอายุนิดหน่อย”
“พี่ปัณณ์!!!”
เรื่องนี้เอามาพูดได้ที่ไหนกัน แพรพรรษาหน้ามุ่ยดันตัวสามีออก จับหน้าตัวเองอดกังวลไม่น้อย เธอพยายามแทบตายเพื่อเอาเขาให้อยู่หมัด คนเจ้าชู้อย่างปัณณ์ที่มองผู้หญิงต่อหน้าต่อตาเธอได้ ลองถ้าเธอไม่สวยพอสามีเธอคงไปไหนต่อไหนแล้ว แม้ตอนนี้ที่แสร้งว่าหน้าสดยังกลบด้วยคอนซีลเลอร์และลิปสติกไม่ต่างจากแต่งหน้า แม้จะเหนื่อยแต่ชนะผู้หญิงพวกนั้นก็ถือว่าคุ้ม
ไม่ได้การแล้ว
คงต้องอาบน้ำและแต่งหน้าใหม่ด้วย
สุดสัปดาห์นี้การจราจรบนท้องถนนคล่องกว่าปกติ คอนโดหรูที่เพิ่งย้ายเข้ามาไม่ถึงหนึ่งวันดีเป็นสถานที่นัดหมายสำหรับครั้งนี้ ใบหน้าพิถีพิถันถูกเติมแต่งอย่างดีฉีกยิ้มกว้างเมื่อเปิดประตูออก สองสามีภรรยาพากันยิ้มรับเพื่อนสนิทของปัณณ์เข้ามาในห้อง
“ขึ้นห้องใหม่ก็ต้องให้ไวน์ใช่ไหม ยินดีด้วยเว้ยเพื่อน น้องแพรก็สวยเหมือนเดิมเลยนะ มองไม่เบื่อเลย”
“น้อย ๆ หน่อยเพื่อนเมียกู”
“ขอบคุณค่ะพี่เต้ ไม่เห็นต้องลำบากเลยนี่คะ” น้ำเสียงหวานเอ่ยตอบเขาพลางยกมือเสยผมขึ้นทัดหู นัยน์ตากลมโตมองเพื่อนสามีหว่านเสน่ห์ด้วยแววตาใสซื่อ
ทำเอาแขกมาใหม่มองอย่างเพลินตา
แพรพรรษาเป็นสาวสวยใบหน้าจิ้มลิ้มมองไม่เบื่อ หญิงสาวมักจะใส่เดรสขาวเสมอ ผมสีน้ำตาลยาวเหยียดตรงจนถึงบั้นเอว ยามเธอขยับตัวแต่ละครั้ง กลิ่นหอมดอกไม้อ่อน ๆ มักจะหลุดปลิวมาตามลม เหมือนดอกลิลลี่บอบบางที่ทำให้เพื่อนต่างอิจฉาปัณณ์กันเป็นแถว หนุ่มเจ้าชู้ที่ไม่รู้เอาเสน่ห์ที่ไหนไปคว้าตัวดาวมหาวิทยาลัยมาไว้ในครอบครองอย่างอยู่หมัด
“มันไม่ลำบากหรอกแพร มันแค่หาข้ออ้างมาเจอหน้าเมียเพื่อน”
“จริงเหรอคะพี่เต้” ถามพร้อมหัวเราะอย่างน่าเอ็นดูรับมุกที่ภูดิษส่งมาให้เพื่อดิสเครดิตเตวิชญ์
“โถ่น้องแพรอย่าไปเชื่อไอ้ภูมัน” แพรพรรษายกมือป้องปากหน้าตาเหวอ เพราะเต้ไม่เพียงแต่พูดเฉย ๆ แต่ยกเท้าเตะเข่าภูดิษจนเซเข้ามาในห้อง ดวงตาเสี้ยวพระจันทร์ยกยิ้มเป็นสระอิ เปล่งเสียงหัวเราะใสกังวานออกมาสะกดใจคนฟัง แต่สำหรับคนเป็นสามีได้แต่ยืนเท้าเอวส่ายหน้าด้วยความรำคาญ
“จะเกี้ยวเมียกูอีกนานไหมวะ เข้ามาได้แล้วมั้ง”
“ล้อเล่นนิดเดียวน่า”
“รีบเข้ามาเถอะ” ปัณณ์เร่งเพื่อนอีกครั้ง
“เชิญค่ะพี่เต้ พี่ภู เพิ่งให้คนจัดห้องเสร็จวันนี้ ถ้าไม่สะดวกแพรต้องขอโทษด้วยนะคะ” เสียงหวาน ๆ เชื้อเชิญเพื่อนสามีทั้งสองคนให้เดินเข้าห้องตามมารยาทเจ้าของห้องที่ดี
“แค่นี้ก็ดีมากแล้วน้องแพร น่าอยู่ว่ะไอ้ปัณณ์ หมดไปเท่าไหร่วะน่าอยู่ขนาดนี้”
“ก็หลายบาทอยู่นะ แต่ตกแต่งภายในแพรเขาจัดการ ไม่รู้แอบใช้เงินในบัญชีไปเท่าไหร่ ว่าไงคะใช้ไปกี่บาทหืมมม” ปัณณ์ยื่นปากเข้าจุ๊บริมฝีปากอวบอิ่มแรง ๆ หลังจากกดจมูกโด่งลงบนแก้มนวล สูดกลิ่นไอหอมหวานไม่รู้จักพอ
“พี่ปัณณ์คะ” เธอปรามเขาเบา ๆ แต่เอียงหน้าให้เขาได้เชยชมอีกครั้ง “ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะแพรให้พี่ ๆ ที่รู้จักมาช่วย ห้องหอเราแพรอยากทำให้ดีที่สุดนี่นา”
“ขอบคุณครับ”
สายตาเต็มไปด้วยความรักสบประสานกัน ก่อนจะยิ้มเขินออกมาราวกับลืมตัวว่ามีคนอยู่ด้วย
“อิจฉาจริงโว้ยยยอยากมีเมีย”
“แต่ต้องได้สวยและแสนดีเท่าน้องแพรนะ กลัวจะได้เมียขี้บ่นยึดอำนาจผัวนี่ตายห่าพอดี” ภูดิษเสริมขึ้น
“ฮ่า ๆ” แล้วสองหนุ่มลอยชายก็พากันหัวเราะลั่นผสมโรงไปกับเพื่อนสนิทและภรรยา
สองแขนต่างขนาดเกี่ยวเอวกันและกันเดินเข้าส่วนรับแขก เธอจัดโซนโซฟาขนาดใหญ่เหมาะเป็นที่สังสรรค์เอาไว้ เพราะรู้ว่าหนุ่ม ๆ แก๊งนี้มีเรื่องให้พบปะกันตลอด สองสามีภรรยานั่งข้างกันบนโซฟาตัวใหญ่ โดยให้เพื่อนสนิทนั่งด้านซ้ายและขวาของโซฟา ก่อนที่เสียงหัวเราะและพูดคุยกันจะเป็นไปตามธรรมชาติ
จนกระทั่งเสียงออดหน้าห้องดังขึ้น เรียกความสนใจจากแพรพรรษา
ออดดดด
“เอ๊ะ! มีคนมาเพิ่มอีกเหรอคะพี่ปัณณ์”
“อ๋อไอ้คินมั้งเดี๋ยวพี่ไปเปิดเอง” ปัณณ์วางแก้วเหล้าทำท่าจะลุกขึ้นแต่แขนเล็กก็ฉุดไว้ก่อน
“พี่ปัณณ์อยู่กับเพื่อนเถอะค่ะ”
หญิงสาวยังสงสัยไม่หาย หัวคิ้วขยับเข้าหากันเล็กน้อย ไม่มั่นใจว่าคินที่สามีพูดถึงคือคนเดียวกับที่ตนเองรู้จักไหม หรืออาจจะเป็นเพื่อนใหม่ที่รู้จักกันจากธุรกิจก็ได้
“เอางั้นเหรอ”
“พี่ปัณณ์อย่าดื้อสิคะ แพรจะไปเปิดให้เองค่ะ ตามสบายนะคะพี่ ๆ”
“จ้า”
สาวสวยคนเดียวในห้องลุกขึ้นมุ่งไปที่หน้าห้องทันที เมื่อประตูเปิดออกดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้าง รอยยิ้มค้างหุบลงในทันที เมื่อใบหน้าของแขกผู้มาเยือนคนใหม่คุ้นตาจนไม่อาจลืม ดวงตาที่เคยทอดมองอย่างอ่อนหวาน ริมฝีปากที่เคยจูบทุกสัดส่วน และมือที่เคยพันธนาการร่างของเธอไว้ในอ้อมกอดเขา
‘อคิน’
ตราบาปที่ควรจะหายสาบสูญไปสักที
“พี่...คิน”
“ไงแพรพรรษา ยังน่าเอาเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่เลยนะ โดยเฉพาะ...” ดวงตาคมกวาดไล้ทั่วเรือนร่างหญิงสาวก่อนมุมปากจะกระตุกยิ้มร้าย
คำทักทายหยาบโลนเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ยังไม่น่าตกใจเท่ากับเห็นอคินที่นี่ ร่างสูงที่แสนคุ้นเคยปรากฏอยู่ตรงหน้า เขายืนอยู่ตรงนี้หน้าห้องของเธอ แพรพรรษาไม่รู้ตัวเลยว่าตนทำหน้าแบบใดอยู่ แต่รู้ว่าเขากำลังยิ้มเยาะเธอด้วยท่าทางน่าเกลียด ชายหนุ่มล้วงกระเป๋าข้างเดียวก้าวเข้ามาชิดจนติด
จมูกโด่งกดแตะที่ซอกคอนุ่มก่อนเอ่ยเสียงพร่า
“กลิ่นก็เร้าใจเป็นบ้า”
“อย่าคิดจะทำบ้า ๆ อีกนะคะ พี่ก็รู้ว่าแพรแต่งงานแล้ว”