๓
เจ้าของคำพูดแสยะยิ้มร้ายกาจ แม้ว่าทุกอย่างจะผิดคาด แม้ว่าเรื่องหน้าตาจะไม่ได้ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ ถึงอย่างนั้นคำว่าคลุมถุงชนที่ตอกย้ำในหัวตลอดสร้างความหงุดหงิดไม่น้อยอยู่ดี
"หวังว่าคุณจะเข้าใจที่ผมพูด"
"คนเรา บางครั้งการตัดสินใจของตัวเราเอง มันก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไปหรอกค่ะ บางครั้งสิ่งที่เราเลือกมันก็เป็นการเลือกที่ผิด บางครั้งโชคชะตาก็บอกว่าเราควรยอมรับการหยิบยื่นที่ดีของผู้ใหญ่ที่ส่งมา"
"เหอะ..." มุมปากหนาหลุดระบายรอยยิ้มหงุดหงิด ดวงตาคมกริบจ้องเขม็ง
หน้าตาท่าทางก็ดูดีมีฐานะ เหตุผลอะไรกันล่ะที่ทำให้ยัยกระต่ายคนนี้ยอมทำตามใจผู้ใหญ่
นอกจากคำว่าเธอมีแผนอยู่ในหัว เป็นไปได้ที่อาจจะมีเล่ห์กล หรือไม่เธอก็ต้องการอะไรสักอย่าง เขาต้องหาคำตอบให้ได้แน่ๆ ว่าคำตอบนั้นคืออะไร
"หากพี่นนท์ไม่เต็มใจที่จะรู้จักต่าย ทำไมไม่ปฏิเสธย่าวิออกไปตรงๆ ล่ะคะ"
"เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ผมควรทำ"
"หากเป็นแบบนั้นก็หมายความว่าพี่นนท์..."
"ผมไม่ได้เต็มใจที่จะคบกับคุณด้วยเช่นกัน" ถ้อยคำที่ตรงไปตรงมาทำหญิงสาวเบือนหน้าหนี แวบหนึ่งที่ดวงตากลมสวยวูบไหว มือเรียวลูบใบหน้าของตัวเองเบาๆ เป็นการเตือนสติเพื่อไม่ให้ตัวเองหลุดเข้าไปในห้วงความคิดมากจนเกินไป
"เท่าที่ผมเห็น คุณก็ดูมีฐานะ คงไม่ได้อยากรู้จักผมเพราะเงินหรอกใช่ไหม บอกตรงๆ ว่าเหตุผลนี้ผมไม่ได้คิดมาตั้งแต่ต้น"
"ต่ายไม่เคยอยากได้เงินทองหรือว่าของของคนอื่น"
"แล้วเพราะเหตุผลอะไรถึงไม่ยอมปฏิเสธที่จะคบหากับคนที่ไม่เคยรู้จักกัน"
"เพราะต่ายหวังว่าการที่ต่ายและพี่นนท์พบเจอกัน มันอาจจะเป็นเรื่องที่ดี"
"อะไรที่ทำให้คุณคิดแบบนั้น?" คนถูกถามกัดปากตัวเองเบาๆ อย่างชั่งใจ สุดท้ายท่าทีหงุดหงิดที่หลุดออกมาส่งผลให้ปากรูปกระจับขยับเอื้อนเอ่ยออกไป
"...พี่นนท์เคยถูกทิ้งทั้งที่พี่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่จริงใจและสมบูรณ์แบบ"
"คุณย่าบอกคุณแบบนั้น?"
"ค่ะ คุณย่าเล่าให้ฟังว่าตอนนั้นพี่นนท์อยู่ในสภาพไหน ย่าวิมองว่าคนอย่างพี่นนท์ไม่ควรตกอยู่ในสภาพแบบนั้น"
"คุณก็เลยจะเข้ามาแทนที่ผู้หญิงคนนั้นที่ทิ้งผมไป คุณคิดจริงๆ เหรอว่ามันสามารถทดแทนกันได้" หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบในตอนที่ถูกคนตัวโตปรายตามองแบบผ่านๆ
เขาไม่รู้ ว่าเธอไม่ได้คาดหวังอะไรมากขนาดนั้น
"ต่ายก็ไม่ได้คาดหวัง ต่ายแค่อยากลองดูเผื่อว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่หาให้มันจะดีที่สุดจริงๆ"
"พูดเหมือนเคยอกหักมา..." คนฟังเบือนหน้าหนี พยายามที่จะเพ่งมองทิวทัศน์ด้านนอก ในขณะที่คนข้างๆ ไม่ได้คิดจะถอดใจ
"คนเรากว่าจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างมันก็ต้องมีเหตุผลด้วยกันทั้งนั้น เหตุผลที่คุณบอกผมว่าอยากลองทำตามผู้ใหญ่เพราะคิดว่าจะได้สิ่งที่ดีที่สุด บางทีคุณอาจจะคิดผิด" คนฟังเสียวสันหลังวาบ หญิงสาวลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ คิดไว้แล้วว่าอีกฝ่ายที่หน้าตาและโปรไฟล์ดีเบอร์นั้นเขาจะต้องคิดแบบนี้อย่างแน่นอน
สุดท้ายแล้วสิ่งที่คิดก็เป็นจริง
"ผมขอพูดตรงๆ ผมอยากให้คุณเป็นฝ่ายปฏิเสธผู้ใหญ่ด้วยตัวเอง"
"..."
"อย่างน้อยๆ การที่ฝ่ายหญิงเป็นคนปฏิเสธเองมันก็ไม่ได้น่าเกลียดและเสียหายเท่าผู้ชายเป็นฝ่ายพูด"
"แต่ต่ายเป็นคนรักษาคำพูด ในเมื่อต่ายรับปากคุณย่าไปแล้วว่าจะลองเปิดใจให้พี่นนท์ ต่ายก็จะรักษาคำพูดของตัวเอง"
"แน่ใจเหรอว่าคุณจะรับมือไหว ผมพูดขนาดนี้แล้ว ผมคาดหวังอยู่นะว่าเราจะตกลงกันได้"
"พี่นนท์รังเกียจต่าย?"
"ผมแค่ไม่อยากฝืนใจตัวเอง"
"ถ้าอย่างนั้นพี่นนท์ก็กรุณาบอกผู้ใหญ่ด้วยตัวของพี่นนท์เองนะคะ ต่ายยืนยันค่ะว่าต่ายจะรักษาคำพูดที่ได้พูดกับผู้ใหญ่ออกไปแล้วไม่มีวันกลับคำ" ดวงหน้าสวยหันมองที่คนข้างๆ แบบตรงไปตรงมา เขากัดฟันกรอด แต่เธอเลือกที่จะนิ่งเฉย ไม่ยอมหลุดแสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย
@คอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง
รชานนท์กวาดสายตามองออกไปรอบๆ บริเวณที่รถยนต์ส่วนตัวของเขาเลื่อนเข้ามาจอดตามการบอกกล่าวของคนที่อยู่ข้างๆ
สถานที่พักโดยรวม มองตาเดียวก็รู้ว่าพวกคนมีเงินมาอยู่กัน
"ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์มาส่งต่าย" คนที่ตวัดสายตากลับมามองชะงักไปเมื่อพบว่าเจ้าของคำพูดยกมือไหว้เขา
บอกตรงๆ ว่ารู้สึกแปลกๆ กับการกระทำที่เธอเลือกทำ
"แน่ใจงั้นเหรอว่าคุณจะไม่เปลี่ยนใจ บางทีการเปลี่ยนใจทีหลังมันอาจจะสายเกินไปก็ได้นะ"
"ต่ายยืนยันคำเดิมค่ะ ถ้าไม่อยากรู้จักและคบกัน พี่นนท์บอกผู้ใหญ่ฝ่ายพี่ได้เลย ต่ายเคารพการตัดสินใจของพี่นนท์ แค่คุณย่าของเราสองคนรับรู้ก็พอ" เจ้าของคำพูดคลี่ยิ้มจางๆ ส่งไปให้ มือเรียวเลื่อนไปปลดสายรัดนิรภัยพลางกระชับสายกระเป๋าสะพายขึ้นคล้องบ่า
"ถือว่าผมเตือนคุณแล้วนะ" ไม่มีคำตอบรับใดๆ ที่หญิงสาวหลุดออกมา มีเพียงรอยยิ้มจางๆ ที่เธอส่งกลับไป
ความหงุดหงิดถาโถมเข้าใส่ในตอนที่ยัยกระต่ายคนที่คุณย่ากำลังหาเรื่องให้เธอและเขาคบกันเดินลงไปจากรถเงียบๆ ท่าทีเย่อหยิ่ง เด็ดขาด ซ้ำยังยืนยันด้วยน้ำเสียงฉะฉานว่าเคยตกลงหรือพูดแบบไหนออกไปก็จะยังรักษาคำพูดอยู่แบบนั้น มันยิ่งทำให้เขาอยากที่จะเอาชนะเธอ
@ภายในห้องพักคอนโดมิเนียมหรู
มือเรียวเลื่อนเข้าไปเปิดสวิตช์ไฟหลังจากที่เปิดประตูห้องพักด้วยพาสเวิร์ดที่จำได้ขึ้นใจ
ใช้เท้าดันรองเท้าอีกข้างในตอนที่ถอดรองเท้าที่สวมใส่ ต่อให้วันนี้จะเหนื่อยแค่ไหนแต่ความที่ถูกสอนให้เป็นคนรักความสะอาดและมีระเบียบยังส่งผลให้หญิงสาวก้มเก็บรองเท้า แล้วนำไปเก็บที่ชั้นให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนกับทุกวัน
เท้าเปลือยเดินเข้าไปในห้องนอน มือเรียวจัดการเปิดเครื่องปรับอากาศ ปลดกระเป๋าสะพายวางบนโต๊ะภายในห้อง ก่อนที่หญิงสาวในชุดเครื่องแบบของสถาบันชื่อดังจะทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียงอย่างหมดแรง
ดวงตากลมสวยเกลือกกลิ้งไปมาอย่างกับคนที่กำลังใช้ความคิด แต่ทว่าความคิดที่อยู่ในหัวกลับไม่ใช่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้เลยแม้แต่น้อย
ทุกอย่างที่อยู่ในหัวล้วนเป็นเรื่องราวที่ทำให้เธอเป็นทุกข์อยู่ก่อนหน้านี้
คิดถึงใบหน้าหล่อเหลาของคนบางคนที่ทำให้เธอยิ้มได้ แต่ในวันนี้เขาทำเธอร้องไห้
เขาโตกว่า ไม่ว่าเขาจะเอ่ยคำไหนออกมาเธอมักจะเชื่อฟังเขาเสมอ แต่วันนี้เธอไม่มีสิทธิ์ได้ฟังเสียงนั้นอีก
ทุกครั้งที่เธอและเขาว่างตรงกัน มักจะมีการเจรจาในเรื่องของการเลือกร้านอาหาร และที่ผ่านมาเขายอมให้เธอเป็นฝ่ายเลือกเองเสมอแม้ตอนแรกๆ จะมักต่อต้านเธอบ้างก็ตาม ตอนนี้ไม่มีเขาที่คอยมารับไปกินข้าวอีกแล้ว
โทรศัพท์มือถือเครื่องหรูที่ซื้อมาราคาหลายบาท ในตอนนี้ไม่มีเบอร์เขาที่โทรมาอีกต่อไป
ใครบางคนทิ้งเธอไปแต่งงาน ลูกในท้องของผู้หญิงคนนั้นคือความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้เขาต้องทิ้งเธอ
ทั้งที่รักมาก ทั้งที่ยังโหยหาอยู่ทุกวัน ทางเดียวที่เธอจะหลุดพ้นและลืมเขาได้คงเป็นการที่เธอเปิดใจให้ใครคนใหม่
เธอยอมให้คุณย่าเป็นฝ่ายเลือกให้เธอ แทนที่เธอจะเลือกเอง ลึกๆ แล้วกลัวว่าจะเลือกผิดทั้งที่คิดว่าเลือกดี