“หนูกลับล่ะ”
“เดี๋ยวดิ!” ฉันกำลังจะหมุนตัวเดินออกไปที่ระเบียงหลังห้องแต่ก็โดนมือหนาคว้าแขนไว้อีกครั้ง
“อะไรอีก?”
“จะปีนกลับ?”
“ใช่” ถ้าเข้าทางหน้าบ้านแม่คงล็อกประตูหมดแล้ว ก็คงมีทางเดียวคือทางเดิมนั่นแหละ
“หาเรื่องจริง ๆ เลยว่ะไอ้เด็กดื้อ” พูดจบก็จับแขนฉันเดินมาที่ระเบียง
“เดี๋ยวข้ามไปส่ง”
“จะข้ามไปข้ามมาทำไม?” ฉันขมวดคิ้วเป็นปมถามด้วยสีหน้าสงสัยไม่เข้าใจทำไมเขาต้องทำให้มันยุ่งยากด้วย
ก่อนจะดึงแขนออกจากมือหนาที่เนียนจับกันไม่ยอมปล่อย
“เอาน่าถ้าเกิดตกไปทำไง”
“ไม่ต้องหรอก หนูกลับเองได้” ฉันยังเถียงไม่หยุด แต่อีกคนคิดจะฟังกันที่ไหน ปีนต้นไม้ไปรอเรียบร้อยแล้ว ฉันได้แต่กรอกตามองบนกับความดื้อรั้นของเขา
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลามองหน้าฉันจากนั้นก็ยื่นมือมาด้านหน้าเพื่อจับมือกัน ฉันจำต้องเอื้อมมือไปจับมือเขาแล้วเหยียบราวระเบียงก่อนจะก้าวขาเหยียบต้นไม้ที่มีเฮียเกมส์ยืนรออยู่ก่อนหน้าแล้ว
เราสองคนยืนซ้อนกันอยู่บนต้นไม้ใหญ่เพราะกลัวฉันตกเขาจึงโอบกอดรอบเอวฉันไว้แน่นแล้วดึงตัวฉันเข้าไปแนบชิดกับหน้าอกเปลือยเปล่าทำให้ทุกส่วนของร่างกายเราสัมผัสโดนกัน
แก่นกายใหญ่บดเบียดกับก้นฉันมันยิ่งทำให้หัวใจเต้นสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะยืนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก กระทั่ง…
“ไปสิ หรือจะให้เฮียข้ามไปส่งถึงเตียง?” เพียงแค่ลมหายใจอุ่นร้อนกระทบที่ใบหูมันก็ทำให้ฉันร้อนวูบวาบไปทั้งตัวแล้ว นี่ยังมาเจอคำพูดของเขาอีกสติสตังฉันกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว
ฉันพยายามหายใจเข้าลึก ๆ ตั้งสติอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือไปจับระเบียงห้องแล้วก้าวข้ามไปทันที ก่อนจะหันไปมองหน้าคนเจ้าเล่ห์ที่ยืนอยู่บนต้นไม้อีกครั้ง
“ขอบคุณค่ะ”
“อ่าฮะ” พูดจบก็วิ่งเข้าไปในห้องปิดกระจกบานเลื่อนและผ้าม่าน กระโดดขึ้นเตียงแล้วร้องกรี๊ดใส่หมอนกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่ เอาจริงถึงแม้จะไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลยแต่ใครจะทนกับคนขี้อ่อยอย่างเขาได้
“พอเลิกคิด” จากนั้นก็พยายามข่มตาหลับแม้จะยากก็ตาม
#หลายวันถัดมา
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นฉันก็ไม่ได้เจอเฮียเกมส์อีกเลย อย่างที่บอกปกติฉันจะเจอเขาที่คอนโดเท่านั้นแต่ก็ไม่บ่อยมากนาน ๆ ทีจะบังเอิญเจอถึงจะพักอาศัยอยู่ชั้นเดียวกันคอนโดเดียวกันก็เถอะ
หลังจากเลิกเรียนฉันก็กลับคอนโดกับเดซี่ ปกติไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนเหมือนอย่างคนอื่นเขา...
“ร้อนชะมัด” เราสองคนเดินเข้ามาในห้องเดซี่ก็เดินตรงไปหยิบรีโมตแอร์มาเปิดเพื่อดับร้อน ส่วนฉันเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมากระดกดื่มเพื่อดับกระหาย
“แบบนี้มันต้องเบียร์เย็น ๆ มึงว่าไหม”
“จัดไปดิรออะไร” หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นสายเดี่ยวกับกางเกงขาสั้นเรียบร้อยเราสองคนก็ลงไปซื้อเบียร์ข้างล่างคอนโด
“นึกถึงวันนั้นแล้วเสียดายฉิบหาย ไม่ได้เจอเฮียเกมส์คนหล่อเลย” ฉันก็คิดว่าเฮียเกมส์จะรอเอาชุดให้มัน แต่เปล่าเลยเขาวางไว้ที่ล็อบบี้แล้วโทรบอกฉันให้บอกเดซี่ให้ลงมาเอา ซึ่งฉันก็ไม่เข้าใจเขาจะรีบไปไหน รอเพื่อนฉันนิดหน่อยไม่ได้หรือไง เกิดมีคนขโมยชุดมันไปทำไง
ฉันไม่ตอบอะไรกลับไปยืนฟังมันเงียบ ๆ
“แต่วันนี้มึงช่วยสานฝันกูหน่อย ชวนเขามากินเบียร์กับเราที่ห้องหน่อยดิ”
“กูไม่ได้สนิทถึงกับต้องมานั่งตั้งวงกินเหล้ากินเบียร์กับเขาขนาดนั้น อีกอย่างถ้าชวนเฮียเกมส์มาดื่มด้วยเดี๋ยวความลับกูก็แตกหมดพอดี”
“ถามจริง มึงคิดว่าแม่มึงไม่รู้จริง ๆ เหรอว่ามึงกินเหล้า”
“ก็กูไม่เคยบอก เขาไม่เคยเห็นจะรู้ได้ไง” ในใจก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อกับแม่รู้หรือเปล่าเพราะเราไม่เคยพูดคุยกันเรื่องนี้เลย
“แต่จริง ๆ แล้วมึงก็ไม่ได้เด็กแล้วนะ กินก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร”
“ถึงพ่อแม่กูไม่ว่าเรื่องดื่ม แต่กูก็ไม่อยากบอกเหมือนเดิม” ไม่รู้มันเป็นความคิดที่ผิดไหมแต่ฉันก็เลือกที่จะทำแบบนี้อยู่ดี รู้ดีว่าเขาอาจจะไม่ว่าอะไรในตอนดื่ม แต่คงตามจี้ฉันไม่หยุดแน่ นี่ขนาดออกมาอยู่คอนโดกับเพื่อนยังให้เฮียเกมส์เป็นหูเป็นตาให้ตลอดนึกแล้วก็รู้สึกอึดอัด
เมื่อลิฟต์เปิดออกเราสองคนก็ก้าวออกมา เดินตรงไปยัง 7-11 เราสองคนแยกกันไปซื้อของส่วนใหญ่ฉันจะเลือกเป็นพวกขนมแต่เดซี่จะเลือกเป็นของมึนเมา กระทั่งชำระเงิน...
“ทำไมมึงซื้อเยอะขนาดนั้น”
“จะได้ไม่ต้องลงมาบ่อยไง”
“กูไม่กินเยอะนะบอกไว้ก่อน”
“อย่าเห็นยกไม่พักนะ” เพราะเป็นเพื่อนกันจึงรู้ทันกันอยู่แล้ว ถึงปากจะเอ่ยบอกแบบนั้นแต่พอมันซื้อมาฉันก็ยกไม่พักตามที่เพื่อนมันบอกจริง ๆ นั่นแหละ
“แล้วทำไมมึงเลิกคุยกับผู้ชายคนนั้น งานไม่ดีเหรอวะ?” เมื่อกลับมาถึงห้องฉันก็ถามด้วยสีหน้าสงสัยเพราะเห็นเดซี่มันบอกว่างานดีแต่จู่ ๆ ก็เลิกคุยเฉยเลย
“จ้องแต่จะชวนกูขึ้นห้องอย่างเดียวเลยไม่ไหวว่ะ”
“แล้วมึงไม่ชอบหรือไง ไหนบอกอยากลอง?”
“อยากลองแต่ไม่ใช่คนนี้” ถึงแม้จะดูเหมือนชีวิตโลดโผนแต่เราสองคนยังไม่เคยเรื่องนั้นมาก่อน เป็นประเภทที่ปากดีแต่ใจไม่ถึง
“เลือกเยอะแล้วเมื่อไหร่จะได้ลองวะ”
“เอาน่าสักวันเดี๋ยวก็ได้อ้าขาเองแหละ แล้วมึงล่ะยุกูอยู่นั่นแหละ ตัวเองไม่เห็นเขย่าแอปหาคนคุยบ้างเลยล่ะ” เดซี่ถามพร้อมกับยื่นกระป๋องเบียร์ให้ฉัน
“ไม่ชอบลุ้นวะ ชอบแบบเห็นหน้าถูกใจก็อ้าขาให้แบบนี้มากกว่า” พูดเหมือนง่ายแต่ไม่ได้สักทีเพราะมัวแต่เอาบรรทัดฐานของใครบางคนไปเปรียบเทียบกับคนที่เข้ามาจีบ มันจึงไม่เจอคนที่ถูกใจสักที...
ฉันตอบพร้อมกับยกเบียร์ขึ้นดื่มเข้าไปอึกใหญ่
“เลือกเยอะไม่ใช่รอแดกเฮียเกมส์นะ”
“ก็บอกแล้วไงไม่กิน กินไม่ลงหรอกถึงจะหล่อมากก็เถอะ” ฉันยังยืนยันคำเดิมถึงแม้จะมีน้ำลายหกกับเขาหลายต่อหลายครั้งก็ตามแต่ก็ยังยืนยันคำเดิมไม่เปลี่ยน
“ถึงเฮียเกมส์จะอ่อยมึงให้ตายยังไงมึงก็ไม่เอา?”
“ใช่” ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ฉันรู้ว่าเขาแค่แกล้งฉันเท่านั้นถ้าให้เอาจริง ๆ เฮียเกมส์ก็ไม่เอาฉันเหมือนกันนั่นแหละ