กริ๊ง... เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของเธอดังขึ้น
“โทรศัพท์ฉันเข้ามา คุณเอ้ยลงไปจากตัวฉันก่อนได้ไหม ให้ฉันรับสายก่อน” เอ้ยทำอ้อยอิ่ง มองหน้าเธอยิ้ม เลื่อนตัวลงไปนอนข้าง ๆ คลายอ้อมแขนไว้หลวม ๆ แต่ก็ยังกอดรัดเธอเอาไว้แนบกาย
“ยายซอมพอ ห้องแฟนแกห้องไหน” พี่ส้มป่อยส่งเสียงเข้มมาตามสาย
“พี่” เธอเรียกพี่สาวออกมาทันที
“ห้องนี้หรือเปล่า สี่ศูนย์สี่ใช่ไหม” เสียงพูดของส้มป่อยลอดดังออกมาจนไวทินได้ยิน
“ครับผม” เขาเอ่ยตอบเสียเอง
“เปิดประตูให้พี่ด้วย ขอชมห้องหับหน่อย” ส้มป่อยพูดดังกว่าเดิมจงใจให้ชายหนุ่มได้ยิน
เอ้ยถอนหายใจออกมาดัง ๆ กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม มีมารมาอีกแล้ว
ซอมพอกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันที รีบจัดเสื้อผ้าที่ถูกถอดให้เข้าที่ ยกมือขึ้นลูบผมที่กำลังยุ่งเหยิง
“ขอยืมหวีหน่อยสิ” เธอเอ่ยบอกไวทิน ที่ตอนนี้ลุกไปยืนที่ข้าง ๆ เตียง
“ปัง ปัง ปัง...” เสียงเคาะประตูดังมากจนได้ยินมาถึงในห้อง
“ถ้าผมเป็นแฟนคุณ ต้องรับมือกับพี่สาวจอมจุ้นของคุณด้วยใช่ไหมเนี่ย” ไวทินเอ่ยออกมาแบบเซ็ง ๆ ชี้ให้ซอมพอดูหวีที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วทำท่าจะเดินไปเปิดประตูห้อง
“รอฉันก่อนสิ” ซอมพอพูดออกมาเสียงดัง หวีผมอย่างลวก ๆ แล้วเดินตามไวทินออกไปอย่างรวดเร็ว
“พี่...” เธอเอ่ยเรียกพี่สาวทันทีที่เห็นหน้า
“ว่าที่น้องเขย ก็ต้องทำความรู้จักกันหน่อย แล้วทำไมมาเปิดประตูให้ช้าจัง” เธอพูดเหมือนจับผิด ซอมพอหน้าแดง ๆ แต่ไวทินกลับทำสีหน้ายิ้ม ช้อนตามองหญิงสาวที่ยืนอึ้งอยู่ใกล้ ๆ
“พี่ตั้ว...” เธอเอ่ยเรียกพี่เขยที่เดินตามมา แล้วหยุดนิ่งประกบตัวอยู่ที่ข้างหลังของพี่สาว
“บอกแล้ว ว่าอย่ามารบกวนเวลาพักผ่อนของคนอื่นเขา” ตั้วรั้งข้อศอกของภรรยาเอาไว้ เธอจึงหันหน้าไปมองสามีตาเขียวปั๊ด
“กลับบ้านได้แล้วมั้งออกมาตั้งนานแล้ว” พี่สาวทำตัวหวงน้องสาวขึ้นมาเสียเฉย ๆ ตอนนี้ต้องกลับไปชำระความกันก่อนในเรื่องที่ค้างคากันเอาไว้
“ได้ยินเสียงโครมครามปิดประตูเมื่อกี้ ก็เลยออกมาดู ไม่ได้คบซ้อนให้น้องสาวฉันต้องช้ำใจใช่ไหม” พี่ส้มป่อยยังหาเรื่องไวทินไม่เลิก รู้สึกไม่ชอบหน้า และไม่พอใจเขาอย่างมาก ๆ
“พี่ส้มป่อย พี่ตั้วกลับห้องเราเหอะ” ซอมพอรีบดึงมือพี่สาวและพี่เขยให้กลับห้อง หันไปมองหน้าไวทินแวบหนึ่ง ก่อนจะจูงทั้งสองคนออกไปอย่างรวดเร็ว
“ซอมพอวันหยุดของเรานะ ไม่อยู่กับผมก่อนอะ” ไวทินทำน้ำเสียงอ้อน ๆ มองตามสามคนพี่น้องไปตาละห้อย ซอมพอหันหน้ามามองเขาตาค้อนตากลับ แล้วรีบเดินกลับห้อง
“กลับ ๆ กลับกันได้แล้ว” เธอบอกทั้งสองคน
พอเข้าไปถึงในห้อง ซอมพอก็รีบวิ่งแจ้นเข้าห้องตัวเองไป ปิดประตูลงกลอนแน่นหนา ยืนพิงหลังไว้กับประตู ถอนลมหายใจออกมาอย่างแรง
“ไอ้ซอมพอออกมาคุยกันให้รู้เรื่อง” เสียงพี่ส้มป่อยยังโวยวายอยู่ที่หน้าห้อง เธอทำเป็นหูทวนลม เดินไปทิ้งตัวนอนลงบนเตียง
สัมผัสของไวทินยังติดตรึงที่ผิว ความรู้สึกตอนนี้คือร้อนออกตามผิวหน้าผ่าว ๆ
“คนบ้า” เธอต่อว่าเขาออกมา ยกมือขึ้นลูบหน้าที่กำลังแดงก่ำ ด้วยหัวใจที่เต้นเร็ว
ซอมพอล้มตัวลงนอน เอาจริง ๆ ก็ทั้งง่วงทั้งเหนื่อย ตอนนี้หนังตาหนัก ๆ หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบา ๆ เสียงพี่ส้มป่อยและเสียงการเคาะประตูเงียบไป พี่สาวคงรู้แล้วแหละว่าเธอคงไม่ยอมเปิดประตูให้แน่ ๆ และตอนนี้ซอมพอยังหาคำแก้ตัวที่ดีให้กับพี่สาวไม่ได้
‘ขอโทษนะคะ คุณพ่อคุณแม่ พี่ส้มป่อย มันผิดพลาดไปแล้ว ซอมไม่แก้ตัวนะ แต่ขอพักร่างแป๊บ ตื่นขึ้นมาหนูจะหาทางแก้ไขค่ะ’ เธอบอกกับตัวเอง ตอนนี้ขอหลับเอาแรงก่อน
“ฉันล่ะเชื่อจริง ๆ เรื่องความดื้อด้านดื้อเงียบของไอ้ซอมนี่ แล้วพี่ตั้วว่า ส้มควรจะทำยังไงดีกับเรื่องนี้” ส้มป่อยกระแทกตัวลงข้างสามี มองไปยังจอทีวีที่อยู่ตรงหน้า แต่ปากก็ขยับถามว่าจะจัดการกับน้องสาวตัวดีอย่างไร
“เอาจริง ๆ ไหม” ตั้วดึงหัวไหล่ภรรยาให้หันหน้าเข้ามาหา
“ซอมพออายุเท่าไหร่” เขาถาม
“ยี่สิบเก้าปี”
“เออ... ก็ควรมีหลักมีครอบครัวได้แล้ว จริง ๆ พี่ว่าหากพ่อกับแม่รู้เรื่อง อาจจะดีใจก็ได้”
“เฮอะ ดีใจเรื่องอะไรพี่ตั้ว ที่ไอ้ซอมหาผัวได้น่ะหรือ” เธอรีบทำหน้าย่นแสดงความไม่พอใจ
“ส้มป่อย ต้องปล่อยให้น้องตัดสินใจด้วยตัวเอง และยอมรับความจริง พี่ว่าซอมพอไม่ใช่เด็ก ๆ โตพอที่จะเลือกทางเดินของตัวเองได้แล้ว และพี่อยากจะบอกส้มนะ ห้ามจุ้นจ้าน แล้วจบเรื่องนี้ได้แล้ว ดูอยู่ห่าง ๆ ตกลงไหม”
ส้มป่อยถอนหายใจออกมาเสียงดัง แต่ก็พยักหน้าให้ ลองสามีพูดแล้วเธอยังขัดใจ เขาคงเคืองเอาได้ แต่เธอก็ยังนั่งบ่นกระปอดกระแปดไปเรื่อยเปื่อย สามีหันหน้าไปมองแล้วยิ้ม ๆ
"เดือนนี้เลิกกินยาคุมนะ เราจะได้มีลูกกัน อีกอย่างส้มจะได้ไม่มีเวลาไปยุ่งกับเรื่องของซอมพอมัน"
"ค่ะ" เธอรับปากเอาง่าย ๆ ทั้งที่ก่อนหน้าจะปฏิเสธมาโดยตลอด สามีร้องออกมาดังเฮ้ คว้าร่างของเธอเข้ามากอด เสียงสองคนทำให้ซอมพอที่นอนอยู่ในห้องปรือตาขึ้น กะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเสียงดัง
"หาผัวได้เมื่อไหร่จะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกให้รู้แล้วรู้รอด" นึกถึงตรงนี้ซอมพอถึงกลับหน้าแดง ภาพใบหน้าของไวทินยังติดตรึงอยู่ในหัวสมองความคิดเดิม ๆ กลับมาวนเวียนซ้ำ ๆ ก่อนจะผวาตัวลุกขึ้นนั่ง
"เขาใช้ถุงยางอนามัยหรือเปล่า ฉันจะท้องไหม ยังไง ๆ ยังไงดีล่ะ" เธอใช้มือควานหาโทรศัพท์ยกใหญ่ ความง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง เริ่มหาข้อมูลการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจ มีคอมเมนต์หนึ่งตอบไว้ 'ไปร้านขายยาเลยค่ะ แล้วซื้อยาคุมฉุกเฉินมากิน'
ปฏิกิริยาทางกายว่องไวเท่าความคิด เธอรีบลุกออกจากที่นอน หยิบกระเป๋าเงินและโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย เปิดประตูห้องนอนออกไป พี่ส้มป่อยหันขวับมาทันที
"ซอมออกไปเดินเล่นนะ และจะไปหาซื้อของใช้ส่วนตัวด้วย" นางสาวซอมพอรีบบอกพี่สาวกับพี่เขยที่กำลังผละออกจากกัน เงยหน้าขึ้นมามองน้องสาวที่เดินทำสีหน้าตึง ๆ ออกไปจากห้อง
“ดูมันทำ” ส้มป่อยพูดขึ้นอีกครั้ง มองตามร่างน้องสาวที่ออกจากประตูห้องไปอย่างรวดเร็ว
“เออ...น่ะ...” พี่ตั้วพูดขึ้น ก่อนจะพลิกตัวภรรยาให้หันไปสนใจหน้าจอโทรทัศน์เหมือนเดิม
เหมือนพรหมลิขิตหรือสวรรค์แกล้ง พอเธอปิดประตูลง ห้องตรงกันข้ามก็เปิดออกมาทันที เขาเตรียมตัวเหมือนจะออกไปข้างนอก ซอมพอเห็นเขาแล้วแกล้งทำเมิน รีบก้าวเดินฉับ ๆ ตรงไปที่ลิฟต์ ก่อนจะวิ่งหน้าตั้งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เธอใช้นิ้วมือกดกระแทกที่ช่องกลม ๆ เล็ก ๆ นั้นอย่างแรง เหมือนจะให้ลิฟต์มาหยุดที่ตรงชั้นนี้ และเดี๋ยวนี้
“จะไปไหนครับ” เอ้ยเดินเข้ามาประชิดที่ด้านหลัง ก้มหน้าลงมาถามเธอใกล้ ๆ ซอมพอรีบหันมามอง ก่อนจะหลบเขาเป็นพัลวัน
“ไปข้างนอก” เธอพูดก่อนจะเดินออกห่าง เหมือนหวงตัว
เอ้ยส่งยิ้มยียวนให้ก่อนจะเข้าไปยืนรอลิฟต์อยู่ใกล้ ๆ ผิวปากฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี
พอประตูลิฟต์เปิดออก เธอก็รีบก้าวเข้าไปในทันที เอ้ยตามเข้าไปแบบกระชั้นชิด
ทันใดนั้น ก็มีเสียงหนึ่งทักขึ้น
“อ้าว...หนูซอมพอ เมื่อเช้าไม่เห็นลงไปวิ่ง เป็นวันหยุดแท้ ๆ รู้ไหมคุณหมอจัส มาชะแง้มองหาหนูจนคอแทบเคล็ดละมั้ง” เสียงป้าชิดชมเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นผู้ที่ก้าวเข้ามาในลิฟต์
“เอ่อ... ไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ” เธอตอบเลี่ยงไปแบบอื่น นึกไปถึงหน้าคุณหมอศัลยกรรมหนุ่มหล่อที่อยู่คอนโดนี้ แต่พักที่ห้องสูท และชอบไปวิ่งออกกำลังกายด้วยกันในตอนเช้า
“นี่เย็นนี้ เขานัดตีแบตกัน หนูซอมพอจะไปด้วยกันไหม มีปาร์ตี้ส้มตำกันด้วย” พูดจบป้าชิดชมยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะออกมาเบา ๆ