“นัดกันกี่โมงครับ” เสียงไวทินเอ่ยถาม ทำหน้าแป้นยิ้มกว้างอยู่ข้างหลังหญิงสาว
ป้าชิดชมเงยหน้าขึ้นมองเขา ก่อนจะทำหน้าสงสัย แต่ก็ยิ้มให้ และถามออกไป
“พ่อหนุ่มเป็นใครจ๊ะ อยู่คอนโดนี้ด้วยเหรอ ไม่เคยเห็นหน้า” ป้าชิดชมเอ่ยถามขึ้นมาทันที ด้วยความเป็นมิตร
“ผมเป็นแฟนซอมพอนะครับ” เขาตอบออกไปแทบทันที นางสาวซอมพอถึงกับอ้าปากค้าง ก่อนจะหันไปมองหน้าเขาทำตาดุ
“เหรอ อุ้ยตาย... ป้าชมก็ปล่อยไก่ละสิทีนี้ ก็นึกว่าหนูซอมพอโสด เชียร์คุณหมอจัสให้จีบแทบตาย เฮ้อ... แบบนี้คุณหมอก็กินแห้วนะสิ น่าเสียดายจัง” คุณป้าพูดไปเรื่อย ๆ ตามที่แกคิด
“แล้วนี่จะพากันไปเที่ยวหรือคะ” ป้าถามขึ้นมาอีก
“ครับ ก็เดินเล่นน่ะครับ ผมไม่ค่อยมีเวลาให้ซอมพอ เธอก็เลยงอน” เขาพูดออกมา เพราะตอนนี้ปุณฑราทำสีหน้าเหม็นสุด ๆ แต่ก็หันไปยิ้มให้กับคุณป้าชิดชมโดยที่ไม่พูดอะไร
“เมื่อไหร่จะแต่งกันคะเนี่ย อย่าลืมแจกการ์ดนะ แล้วอีกอย่างพาพ่อตาตี่นี่ แวะไปที่ชมรมจิตอิสระของเราบ้างนะ พวกป้า ๆ น้า ๆ ในกลุ่มต้องกรี๊ดแน่ ๆ ถ้ารู้ว่าแม่หนูซอมพอมีแฟนซะแล้ว” คุณป้าเริ่มแซว ก่อนที่ลิฟต์จะส่งเสียงว่าถึงชั้นล่างสุดแล้ว และเปิดประตูออก
“ป้าไปก่อนนะ ไว้ค่อยเจอกันนะพ่อหนุ่ม” ป้าโบกมือลาไวทิน
“เรียกผมว่า เอ้ย ก็ได้ครับ เดินทางดี ๆ นะครับ” เขารีบแนะนำตัว
“อุ้ย... น่ารักจริง ป้าไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาล เย็น ๆ ก็กลับ ก็จะกลับมาให้ทัน กินส้มตำน่ะแหละ” ป้าชิดชมพูดอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินอย่างกระฉับกระเฉงออกไปจากตรงนั้น สองหนุ่มสาวยกมือไหว้ตามหลังแทบไม่ทัน
“คุณนี่นะ” เธอหันมาแว้ดใส่ไวทินทันที
“จ๋า...” เขาขานรับ ทำเสียงน่ารักแบบอ้อน ๆ
ซอมพอชักสีหน้า และเอามือที่กำลังยกขึ้นจะชี้หน้าเขาลงทันทีแบบขัดใจเหมือนเห็นหน้าทะเล้นของนายเอ้ย ปุณฑราสะบัดหน้ากลับ ก่อนจะก้าวขายาว ๆ ออกไปทางประตูทางออก
“รอด้วยสิครับ” เขาร้องเรียกตาม เดินแกมวิ่งเข้ามาหา ก่อนจะคว้าจับมือเธอไว้
“คุณ...” เธอหันมามองทำตาขวางอีกครั้ง
“ครับ” เอ้ยยังยิ้มสดใสให้
“คุณจะมาตามฉันทำไม คุณจะไปไหนก็ไปสิ” เธอไล่เขาเอาดื้อ พยายามจะสะบัดและแกะแขนออกจากการเกาะกุมของเขา
“ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมจะไปกับคุณ ไปเป็นเพื่อนคุณ” เขาบอกเธอ
“ใครใช้...” เธอพูดเสียงลอดไรฟัน
“ไม่มีใครใช้ แต่ผมอยากไปด้วย” เขาทำเสียงอ้อนเธออีกครั้ง
“คุณเอ้ย...” เธอเรียกชื่อเขาอย่างอ่อนใจ ตอนนี้ตัวเธอก็ร้อนใจมากพออยู่แล้ว ยังจะมาตามตอแยอีก
“อ้าว... ซอมพอ” เสียงหนึ่งเรียกเธอขึ้นจากข้างหลัง เธอถอนหายใจออกมาเสียงดัง ตอนนี้ชีวิตอันสงบสุขของเธอต้องเปลี่ยนแปลงไปอีกแน่ ๆ
“พี่สมร... สวัสดีค่ะ” เธอยกมือไหว้ ผู้หญิงที่เธอเรียกว่าพี่ ไวทินยกมือไหว้ตามซอมพอไปเช่นกัน
“อุ้ย... ใครน่ะ” ทันทีที่สมรเห็นไวทิน ก็ถามขึ้นมาทันใด
คุณสมรเป็นประธานชมรมจิตอิสระ กลุ่มกิจกรรมยามเย็นของแม่บ้าน สาว ๆ และผู้สูงวัยที่ว่างงานที่อยู่ในคอนโดนี้ด้วยกัน และที่แน่ ๆ ปากของเธอยิ่งกว่าสี่จีคือ สมรรู้โลกรู้
“เพื่อน” ซอมพอตอบ
“แฟนครับ” เอ้ยตอบ ซึ่งทั้งสองเอ่ยออกมาพร้อม ๆ กัน
“แหม... ทำมาปิดปังนะคะคุณน้อง มีแฟนน่ารักอย่างนี้ก็ไม่พาเข้ากลุ่ม อย่างนี้ไม่ได้ต้องลงโทษ เอ... ว้าย...!” เธอทำเสียงตกใจขึ้นมาเสียเฉย ๆ เอ้ยทำสีหน้าสงสัย แต่ซอมพอพอจะรู้ตัวว่าพี่สมรจะพูดอะไร คงไม่พ้นเรื่องคุณหมอจัสที่เที่ยวขายขนมจีบเธอตามแรงยุของกลุ่มพี่ ๆ ป้า ๆ อีกแน่ ๆ
“พี่สมรคะ พอดีเราสองคนกำลังจะไปธุระค่ะ แบบรีบอย่างแรงเลย ขอตัวก่อนได้ไหมคะ อุ้ยสายแล้ว” เธอแสร้งยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู
“ลานะคะ สวัสดีค่ะพี่สมร ไปคุณ... สายมากแล้ว เดี๋ยวไม่ทัน” สมรทำหน้าเอ๋อ รีบรับไหว้ทั้งสองคนแทบไม่ทัน เอ้ยเดินตามแรงฉุดของซอมพอไปอย่างเร็ว
“แหม... ไม่ยักรู้ว่าคุณเป็นคนมีชื่อเสียงในตึกนี้ คนทักกันเกรียว แล้วผมอยากรู้คุณหมอจัส คือใครครับ” เขาถามขึ้นมาทันทีที่พ้นออกมาจากตรงนั้นแล้ว
“คุณเอ้ย...” ซอมพอหยุดเดิน แล้วหันหน้ามามองหน้าเขาเขม็ง
“ดูปากนัชชานะคะ วันนี้ฉันรีบ และกำลังไปทำอะไรบางอย่าง ไว้เราค่อยเจอกัน ฉันรีบ โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง ฉันรีบ... ขอตัวนะคะ” เธอเดินไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะวิ่งหน้าตั้งออกไปถนนที่อยู่เบื้องหน้า แล้วเลี้ยวออกไปทางซ้ายของทางเข้าคอนโด
ไวทินมองตามแล้วยิ้ม ก่อนจะเดินแกมวิ่งตามเธอไปห่าง ๆ
ซอมพอนึกว่าเขาไม่ตามมาแล้ว เธอเดินไปอีกไกลทีเดียว พ้นร้านขายยาแถวคอนโด เพื่อไปอีกร้านที่อยู่ไกลออกไป ก่อนจะหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าร้าน ถอนหายใจออกมาสองสามที ทำท่าจะก้าวเข้าไปข้างใน แต่ก็ชะงักเท้าเอาไว้ เธอทำแบบนั้นอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งพื้นหน้าร้านที่เหมือนขั้นบันได ดันเข่าคู้เข้ามาแล้วซบหน้าลงไป ถอนหายใจเฮือก ๆ
“เป็นอะไร” เสียงหนึ่งถามขึ้น
“คุณ...คุณเอ้ย...” เธอเงยหน้าขึ้นมองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยชื่อเขา
“ครับ... ผมเอง จะซื้ออะไร เห็นตั้งท่าอยู่ตั้งนานแล้ว” หมดคำพูดของเขา เธอรีบลุกขึ้นยืน ตอนนี้หน้าเริ่มแดงขึ้น มองไปทางซ้ายทีขวาที กลัวว่าจะเจอคนรู้จัก
เธอดึงมือเขาให้เดินตาม เพื่อให้ออกมาห่างจากตรงนั้นที่มีคนอีกสองสามคนยืนอยู่
“คุณมาก็ดีแล้ว ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เอ่อ... คือ... อา... ฉัน....” เธอเริ่มพูดติดอ่าง มองหน้าเขาบ้าง ทำมองหลบสายตาบ้าง มีพิรุธมากมาย
“ฉันอะไร?...” เอ้ยถามต่อ
“เมื่อคืนคุณไม่ได้ใส่ถุง ฉันกลัวว่าฉันจะท้อง” เธอโพล่งออกไป ตอนนี้ถอนหายใจออกมาแบบโล่งอก แต่หน้าตาแดงก่ำ
“ฉันอ่านเจอในเน็ต มีคำแนะนำให้มาซื้อยาคุมฉุกเฉิน” เธอพูดเบา ๆ เหมือนกระซิบ ตอนนี้อายเขาจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ถ้าหายตัวไปได้ เธอคงทำแล้ว
ไวทินมองหน้าเธอแบบเอ็นดู ปุณฑราคงจะหนักใจมาก เขาจับมือของเธอ และบีบเบา ๆ
“รอผมตรงนี้ เดี๋ยวผมเข้าไปซื้อให้” เขาก้มหน้าลงมาบอกเธอ ก่อนจะยิ้มให้ ในแวบนั้นเธอเห็นแววตาและท่าทีเสียใจของเขา
เธอยืนพิงไปกับเสาไฟฟ้าที่อยู่ใกล้ ๆ มองตามร่างไวทินที่ก้าวเดินเข้าไปในร้านขายยา สักพักหนึ่งเขาก็กลับออกมากับน้ำอีกหนึ่งขวด
“กินยานี้ซะ” เอ้ยแกะยาใส่ในมือเธอหนึ่งเม็ด ก่อนจะเปิดน้ำดื่มให้ ซอมพอรีบกลืนมันลงคอ พอเธอกินยาลงไปเรียบร้อยแล้ว ก็ส่งสายตามองหน้าเขาแบบค้อน ๆ
‘เพราะคุณนั่นแหละ’ เธอต่อว่าเขาอยู่ในใจ ตอนนี้หมุนตัวจะเดินกลับไปทางเดิม
“เดี๋ยว... คุณ” เอ้ยเรียกเธอเอาไว้
“ภายในสิบสองชั่วโมงคุณต้องกินยานี้อีกหนึ่งเม็ด” เขายัดซองยาใส่ในมือของเธอ ทำยิ้มแบบแห้ง ๆ ส่งมาให้
“ขอบใจ” เธอพูดพร้อมยิงฟันใส่เขา ก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปข้างหน้า ไม่รอไม่เรียก และเลิกสนใจเขา
ไวทินมองตามเธอ มากด้วยความรู้สึก ตอนนี้เขาเป็นห่วงเธอมากกว่ากลัวว่าเธอจะคิดสั้น
‘เกิดนอยด์ด้วยเรื่องที่เพิ่งเสียตัวให้คนแปลกหน้า กระโดดตึกฆ่าตัวตายขึ้นมาล่ะ’ เท้าไวเท่าความคิดรีบวิ่งตามหลังเธอไปอย่างรวดเร็ว
“คุณ...ซอมพอ” เอ้ยร้องเรียกเธอ
ซอมพอแค่ได้ยินเสียงเอ้ย เธอก็รีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต
คุณหมอจัส เปิดประตูร้านขายยาออกมา มองตามร่างหญิงสาวที่คุ้นตา และชายหนุ่มที่เพิ่งซื้อยาคุมฉุกเฉินออกมาจากร้าน ร้องแรกแหกกระเชอเรียกชื่อของ “ซอมพอ” แล้ววิ่งตามร่างของเธอไป
“คุณซอมพอ” เสียงหมอจัสพึมพำเรียกชื่อหญิงสาวที่เขาถูกชะตาและหมายปอง