bc

ทึกทักว่ารักกัน

book_age16+
260
FOLLOW
2.1K
READ
others
dark
drama
tragedy
comedy
twisted
sweet
humorous
lighthearted
like
intro-logo
Blurb

ความรักที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญของแม่ซอมพอกับพ่อเอ้ย ที่เมามายทั้งคู่และจบลงบนเตียงในห้องนอนของฝ่ายหญิง เรื่องราวในชีวิตจริงคงเป็นไปได้ยาก แต่นี่เป็นนิยายค่ะ พ่อเอ้ยทึกทักเอาแม่ซอมพอมาเป็นแฟนตัวเองเสียแบบนั้น เรื่องราวมันก็มีทั้งความสนุก มีความหื่นของพระเอกขี้อ้อน และเก่งในเรื่องทึกทักเอาแต่ใจ ต้องลองเข้าไปอ่านกันเอาเอง สนุกแน่นอนค่ะ อาจมีทั้งรอยยิ้มและน้ำตา

chap-preview
Free preview
กลกามเทพ
         เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มไปทั้งฮอลล์ หนุ่มสาววัยทำงานกำลังดิ้นกันอย่างเมามัน           “ซอมพอ... มานี่” เสียงเฟเรียกหญิงสาวที่ใส่เสื้อเกาะอกสีขาวกางเกงสามส่วนสีชมพูที่กำลังดิ้นพล่าน ๆ อยู่ที่ลานโล่งใกล้ ๆ โต๊ะท่าทางสนุกมากเอาการ         “อะไร?” เธอหันไปถามเพื่อน เพราะตอนนี้กำลังสนุกมาก แต่เฟดูแล้วโต๊ะข้าง ๆ ไม่ได้สนุกไปด้วย เพราะนางสาวซอมพอเพื่อนรักของเธอเต้นกินที่กินทางคนอื่นเขาเสียเหลือเกิน         “แหม... หน้าตาก็ดี แต่งตัวก็สวย ทำไมเต้นเหมือนพวกเด็กแว้นวะ” เสียงชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ มากับเพื่อนชายสามสี่คนเอ่ยขึ้นเสียงดัง         เฟรีบลุกขึ้นไปลากตัวซอมพอกลับมาที่โต๊ะ         “อะไรกันน่ะเฟ กำลังสนุกเลย คำนวณดูแล้วฉันน่าจะลดไปได้หลายแคลอรี” เธอพูดแต่ตาก็ปรือเล็กน้อย เพราะปกติแม่สาวซอมพอไม่ใช่นักดื่ม แค่สองแก้วก็ถือว่าเยอะแล้ว และไม่นิยมเที่ยวกลางคืนด้วย เป็นพวกกินก่อนห้าโมงเย็น และนอนก่อนสี่ทุ่ม ตื่นเช้าเล่นโยคะ         ปุณฑรา ศานตนันท์ หรือ ซอมพอ สาวนักบัญชี ดีกรีปริญญาโท เรียนอย่างเดียวอย่างอื่นไม่เคยเกี่ยวข้อง ทำงาน กลับบ้าน เดินห้างชอปปิง ทำอาหารออร์แกนิกกินเอง และออกกำลังกายที่สวนสาธารณะของคอนโด         “เออน่ะ ฉันขายหน้า” เฟพูดขึ้น ดันหลังเพื่อนสาวให้นั่งอยู่กับที่ เธอเลื่อนแก้วค็อกเทลที่มีผู้ชายเอามาให้เมื่อสักครู่ ส่งไปให้เพื่อนสาว หวังจะผูกไมตรีกับเธอ แต่เฟบอกออกไปว่า “มาคอยสามี”         เฟเพื่อนสาวคนสนิทที่ทั้งสวยและทั้งเซ็กซี่ ดีกรีเลขาผู้จัดการใหญ่ของบริษัท วันนี้นัดพี่คิวคู่หมั้นที่กำลังจะแต่งงานกันอีกสองสามเดือนออกมาปาร์ตี้ แต่เขาติดงานกำลังจะตามมา         “กระหายน้ำอยู่พอดี สีสวย ๆ น่าดื่มเนอะ” เธอหันไปคุยกับเฟ ดูดน้ำสีในแก้วไปปรื๊ดเดียวหมดแก้ว         “เขาเรียกว่าอะไรเนี่ย อร่อยจัง” ซอมพอพูดจบ ยกมือเรียกบริกรที่อยู่ใกล้ ๆ เข้ามารับออร์เดอร์         “น้องพี่เอาแบบนี้อีกแก้ว” เธอบอกเขาทันที นั่งยิ้มตาหวานเชื่อม         “เอ้ย...สามแก้วแล้วนะ” เฟยกมือสะกิดเหมือนห้าม เพราะรู้ดีว่า หน้าตาอย่างนี้ไม่น่ารอด เฟกลัวว่าเดี๋ยวเธอจะไปต่อกับแฟนไม่ได้ ต้องไปส่งยายซอมพอหมดสนุกกันพอดี         “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันก็กลับแล้ว” ซอมพอโบกมือสะบัดไปมา แต่ตอนนี้หน้าตาแดงก่ำทำตาหวานหยดอยู่ตลอดเวลา         “ฉันแค่มาเป็นเพื่อนนะ” เธอบอกกับเฟ         “ถ้าพี่คิวมา ฉันกลับเลยนะ นี่ก็เลยเวลานอนมานานแล้ว ดีนะที่เป็นคืนวันศุกร์” เธอยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดู ก่อนจะเอามือลูบหน้าและตบเบา ๆ         “รอนานไหมจ๊ะ ที่รัก” พี่คิวทักขึ้นก่อนจะสวมกอดเฟด้วยความคิดถึง         “นานมาก...” ซอมพอตอบขึ้นเสียเอง ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้เขา         “อะไรกัน ดูท่ากรึ่ม ๆ หรือเมานะทำหน้าแบบนี้” พี่คิวนั่งลงใกล้ ๆ เฟ ก่อนจะหันมาแซวซอมพอ         “ถ้าพี่คิวมาช้ากว่านี้ เฟว่า ยายซอมพอคงเมากลิ้งอยู่แถวนี้แหละค่ะ แม่นี่เขาคออ่อน” เฟพูดพลางหัวเราะในท่าทีของเพื่อน              เมื่อบริกรมาเสิร์ฟอีกแก้ว แม่สาวซอมพอก็ยกแก้วของตัวเองขึ้นชนกับแก้วเครื่องดื่มของเฟและของพี่คิว         “ขอให้ทั้งสองมีความสุขมาก ๆ ซอมพอหมดแก้วนี้ขอตัวก่อนนะคะ เพราะง่วง”         “กริ๊ง...” เสียงแก้วกระทบกัน ก่อนที่สาวซอมพอจะยกแก้วนั้นขึ้นจรดที่ริมฝีปากและก็กระดกลงคอไปทีเดียว “พรวด...”         “สวัสดีค่ะ พี่คิว ไปล่ะนะเฟ วันจันทร์เจอกัน” เธอยกมือไหว้พี่คิว ก่อนจะจับมือเพื่อนเขย่า ๆ แล้วเดินจากไป         “เดี๋ยว แกกลับบ้านคนเดียวไหวนะ” เฟรีบตะโกนถามตามหลัง แต่ซอมพอก็หันมายกมือทั้งสองข้างลาเพื่อน เดินตุปัดตุเป๋ออกไปจากผับดัง           อีกมุมหนึ่งของผับเดียวกัน         “ไอ้เอ้ย กูว่ามึงกลับบ้านได้แล้วว่ะ แดกเหล้าคนเดียวจะหมดกลมนึงอยู่แล้วเนี่ย” เจหันไปตบหลังเพื่อน ก่อนจะใช้มือยกใบหน้าหล่อ ๆ ของเพื่อนที่คอพับคออ่อนขึ้นมามอง         “อะไรวะ ทำงานมันก็มีผิดพลาดกันได้ พี่ทิพย์เขาก็ด่ามึงไปยังงั้นแหละ ขี้คร้านวันจันทร์จะมา น้องเอ้ยจ๊ะน้องเอ้ยจ๋า น้องเอ้ยยังงั้นน้องเอ้ยอย่างงี้ เหมือนเดิมครับ” เจปลอบใจ         “คนอย่างผมเนี่ยนายเอ้ย ไม่เคย ๆ ทำงานพลาด แม่ง...ครั้งนี้ต้องมีคนแกล้งผมแน่ ๆ” น้ำเสียงที่พูดฟังอ้อแอ้ เขาพูดถึงงานที่ทำและทำให้เขาถูกตำหนิกลางที่ประชุมวันนี้ และทำให้พลาดงานใหญ่ไปหนึ่งงาน         “อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ ผมบอกมึงแล้ว ว่าทำงาน ทำ ๆ ทำไป อย่าเกินหน้าคนอื่น แล้วเป็นไง แต่ว่าพูดก็พูดนะเว้ย เอาตรง ๆ กูว่าต้องมีคนแอบเจาะเซิร์ฟเวอร์ของมึงแน่ว่ะ ไม่งั้นข้อมูลของมึงจะไปอยู่ในมือคู่แข่งได้ไง ว่าไหม” เจทำท่าทางครุ่นคิด         “ไว้วันจันทร์นี้ก่อน ผมเนี่ยไม่ปล่อยคนชั่วลอยนวลแน่ ๆ... เอิ้ก...” เอ้ยพูดขึ้นมาอย่างมาดหมาย สะอึกขึ้นมาเป็นที ๆ ก่อนจะยกแก้วในมือขึ้นกรอกลงไปในคออีก         “กลับละนะ ไม่ได้นอนมาสองคืนแล้ว ไม่ไหว” เอ้ยเอ่ยขึ้น ก่อนจะล้วงกระเป๋าสตางค์ทำท่าจะหยิบเงินออกมาให้เพื่อน เพื่อเป็นการแชร์ค่าเครื่องดื่มและอาหาร         “เฮ้ย...ไม่ต้อง ผมเลี้ยงมึงเองครับ ค่าปลอบใจ” เจบอก ก่อนจะยัดเงินคืนเพื่อน แล้วยกตัวไวทินขึ้นเหมือนหิ้วปีก เพราะเห็นเขาพยายามจะลุกขึ้นมาหลายครั้งแต่ก็นั่งลงไปอีก         “ขอบใจว่ะ” เอ้ยเดินเป๋เอียงไปเอียงมา พยายามเดินให้ตรงเพื่อออกไปให้พ้นประตู เจมองตามเพื่อนไปด้วยความเป็นห่วง         “แม่งแดกเหล้าเหมือนน้ำ โชคดีเว้ย ไอ้เอ้ย” เจโบกมือโบกไม้ตามหลังเพื่อนไป ก่อนจะหันมาสนใจเครื่องดื่มของตัวเองตรงหน้า           ไวทิน องศกำจร หรือ เอ้ย บัณฑิตเกียรตินิยมมหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพฯ หนุ่มนักออกแบบโฆษณามือหนึ่งของบริษัท ที่เพิ่งเคยถูกตำหนิ และถูกเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งแย่งงานเด่นเงินดีไปเห็น ๆ ทำให้เขาเสียศูนย์จนมานั่งดื่มอย่างเมามายกับเพื่อนซี้ชื่อเจที่ทำงานอีกแผนกในบริษัทเดียวกัน ในคืนที่รถราไม่เป็นใจ บนถนนที่ว่างเปล่า รถราวิ่งกันให้ขวักไขว่ แต่         “วันนี้รถแท็กซี่ทำไมมันน้อยจัง” ซอมพอยืนบ่นอยู่คนเดียว โบกรถคันไหนก็ไม่ว่าง และบางคันก็ปฏิเสธ         และตอนนี้มีเงาของใครอีกคนหนึ่งมายืนข้าง ๆ สภาพโงนเงนเหมือน ๆ จะล้ม ยกมือขึ้นตรงหน้าแล้วโบกรถแท็กซี่หย็อย ๆ และตอนนี้คงเป็นรถแท็กซี่ที่ว่างเพียงคันเดียว กันที่จอดสนิทอยู่ใกล้ฟุตบาทห่างคนทั้งสองไปเล็กน้อย         "เฮ้... ฉันโบกก่อนนะ ชิ..." เธอส่งเสียงพูด เป็นจังหวะที่ทั้งสองเอามือไปแตะประตูพร้อมกัน เธอปัดมือเขาที่ทำท่าเอื้อมไปเปิดประตูรถทันที         “ผมก็โบกเหมือนกัน ผมโบกอยู่ตรงนี้” เขาชี้ตรงที่ที่เขายืน         “โน ๆโน ๆ...” ซอมพอพูดพลางใช้มือยกขึ้นส่ายดิก ๆ ต่อหน้าชายหนุ่ม และใช้มือของตัวเองเปิดประตูออก         เอ้ยมองหน้าเธอรีบแย่งเธอเปิดประตูทันที ด้วยความเมามาย ทั้งคู่ต่างหันหน้าขึ้นมองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร         ในตอนนี้มีเพียงรถแท็กซี่คันนี้คันเดียว สองคนต่างมองหน้ากันก่อนจะแย่งกันขึ้นไปนั่งในรถให้ได้ทั้งคู่ แล้วทั้งคู่ก็เข้าไปนั่งในรถได้สำเร็จ         “เดี๋ยวครับคุณ จะไปไหนกันครับ” คนขับมองทั้งสองที่แย่งกันขึ้นมานั่งบนรถแบบงง ๆ         “โยนิตาคอนโด” เสียงซอมพอและเอ้ยดังขึ้นมาพร้อม ๆ กัน ทั้งสองหันมองหน้ากันทันที ‘คอนโดเดียวกัน’         “งั้นคนละครึ่ง” เธอเป็นฝ่ายพูดก่อน         “ได้...” เอ้ยพูดขึ้นเสียงสูง ตอบตกลง         ทั้งสองนั่งในท่าที่สะดวก จำใจนั่งรถไปด้วยกันโดยหารค่ารถกันคนละครึ่ง         เมื่อไปถึง พอคนขับบอกราคาทั้งสองก็ล้วงเงินออกมาจากกระเป๋าพร้อม ๆ กัน ซอมพอก้าวลงก่อน และเขาเดินตามลงมาแบบติด ๆ         “เชอะ...” เธอหันไปทำหน้าย่นจมูกใส่เขา ก่อนจะเดินนำลิ่ว ๆ เข้าไปในตัวอาคาร แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปกำลังออกฤทธิ์ และตอนนี้เธอนึกถึงแต่ที่นอนเพียงอย่างเดียว         ไวทินก็ไม่ต่างกัน แต่ดูท่าทีจะเมาหนักกว่าทุกครั้ง เดินตุปัดตุเป๋เซเอียงข้างไปแบบนกถลาปีกหัก

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.2K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.7K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.7K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.7K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.9K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook