“คุณซอมพอรอผมด้วย” เสียงเอ้ยตะโกนตามหลัง ก่อนจะวิ่งเข้ามาถึงตัว เขาจับแขนเธอเอาไว้แทบทันที
“อะไรกันนักกันหนาฮะ คุณเอ้ย” ซอมพอหยุดนิ่ง ตอนนี้ยืนหายใจเหนื่อยหอบ หญิงสาวหันไปมองใบหน้าของเขา
“ผมเป็นห่วงคุณ” เขาเอ่ยออกมาทันที ตอนนี้ทั้งร้อนทั้งเหนื่อย
“ตัวเล็ก ๆ บาง ๆ ไม่น่าจะวิ่งเร็วขนาดนี้” เขาบ่น
“ใครใช้ให้คุณมาตามฉัน” เธอหันไปว่าเขา ตอนนี้ใกล้เวลาห้าโมงเย็น คนก็เริ่มทยอยทั้งเข้าและออกคอนโด ทุกคนที่รู้จักกับปุณฑราต่างยิ้มให้ เธอเริ่มอาย เงยหน้าขึ้นมามองเขา ส่งสัญญาณให้เขาปล่อยมือจากตัวเธอ เอ้ยยิ้มหวานให้ แต่เขาก็ยังนิ่งไม่ยอมทำตาม แถมไม่พอยังฉุดเธอให้เดินเข้าไปในตัวอาคารด้วยกันอีกด้วย
“ไปเอาของของผมที่ไปรษณีย์มาส่งวันนี้ก่อน แล้วเราไปตกลงกันที่ห้องของผม” เขาทึกทักเอาแต่ใจอีกแล้ว ปุณฑราจำต้องเดินตามเขาไปหน้าตาบอกบุญไม่รับ แต่ก็ยังดีกว่ายืนอยู่ตรงบริเวณด้านหน้านั่น ให้เป็นเป้าสายตาของผู้คน
“คุณนี่...” เธอพูดได้แค่นั้น และยอมเดินตามเขาไปแต่โดยดี
เมื่อได้ของเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็เดินไปขึ้นลิฟต์แล้วกลับไปที่ห้องของไวทิน
“เข้ามาก่อนนะคุณ” เอ้ยพูดจาไพเราะ ยิ้มกว้างให้ เธอถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของเขา
เอ้ยรีบวางของลงทันที หันมารวบเธอเข้ามาหาตัวเอง
“คุณไวทิน...” นางสาวปุณฑราเรียกชื่อเขาเสียเต็มยศ
“ครับผม” เขาขานรับก็จริง แต่ก็ไม่ได้มีทีท่าสนใจ รวบรั้งร่างของเธอขึ้นสู่อ้อมแขน แล้วพาไปยังห้องนอนของตัวเองทันที
สายตาที่สอดประสานกัน รอยยิ้มของไวทินทำให้หัวใจเธอเต้นแรง
“คนบ้า...” หญิงสาวทำปากขมุบขมิบ
เขาวางเธอให้นั่งห้อยขาที่เตียง แล้วนั่งลงไปคุกเข่าอยู่ตรงหน้า ตอนนี้ตั้งใจสบสายตาเธอตรง ๆ ซอมพอถอนหายใจออกมาอีกครั้งหนึ่ง
“คุณจะให้ผมรับผิดชอบอะไรบ้าง” เอ้ยเอ่ยถามขึ้นอย่างแมน ๆ ซอมพอมองหน้าเขาอย่างไม่เชื่อสายตา เขานั่งอยู่ใกล้ ๆ ในระยะประชิดทำให้หัวใจเต้นเร็วเข้าไปอีก เธอออกอาการอึกอัก
“เอ่อ...ฉัน...ฉันไม่รู้” เธอเริ่มพูดด้วยอาการติดอ่าง ทั้งสับสนและไม่รู้จะทำอย่างไรกับตัวเองดี
“เอาจริง ๆ นะ ผมยังไม่มีแฟน และคุณก็คงไม่มีคนรักด้วยใช่ไหม” เอ้ยเอ่ยถามเธอตรง ๆ เธอไม่ตอบได้แต่นั่งทำหน้านิ่ง ๆ
“หรือว่าคุณมีใจให้กับหมออะไรนะ หมอจังหมอจัสนั่น” เขาพูดขึ้นดักคอ แต่กลับรู้สึกขุ่นใจขึ้นมาเฉย ๆ
“อย่ามาหาเรื่องนะ” เธอพูดขึ้นมาทันที
“อ้าว... เห็นคิดนาน”
“ฉันก็ต้องคิดสิ ฉันไม่รู้จักคุณด้วยซ้ำไป”
“ก็เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะรู้จักกันไง อีกอย่างผมก็ไม่มั่นใจนะ ว่ายาที่คุณกินไปเมื่อกี้มันจะได้ผลกี่เปอร์เซ็นต์ เฮ้อ...” เอ้ยพูดขึ้น ก่อนจะหมุนตัวลุกขึ้น ทำเสียงถอนหายใจออกดัง ๆ พลิกหลังลงไปที่เตียงใกล้ ๆ ขาของเธอ
ซอมพอคิดตาม ก่อนจะยกมือถือขึ้นมาเช็กว่าตัวเองมีเมนส์เดือนที่แล้ววันที่เท่าไหร่ แล้วเดือนนี้ต้องมาวันที่เท่าไหร่ พอเห็นวันที่ในมือถือแล้ว เธอก็ตีลงไปที่หัวไหล่ของไวทินดังปึก
“โอ้ย...” เขาร้องเสียงดัง ยกมือขึ้นลูบตรงที่โดนตี แล้วหันหน้าขึ้นไปมองหญิงสาว พร้อมกับเลื่อนตัวไปนั่งบนเตียง
“อะไรกันคุณ มาตีผมทำไมอะ” เขาโวยวายเบา ๆ หันไปมองหน้าเธอแบบเต็มตา
ซอมพอยกมือขึ้นผลักอกเขาอีก แต่ครั้งนี้เธอกลับถูกเขารวบร่างเข้าไปหาอีกครั้ง
“ถ้าฉันท้องละก็ ฉันเอาคุณตายแน่” เธอพูดปรามาสเขาออกมา น้ำตาเริ่มไหล
“ผมขอโทษ เมื่อคืนมันเมามาก ๆ จริง ๆ และอีกอย่างคุณให้ท่าผมด้วย”
“ตรงไหน ที่ฉันให้ท่าคุณ” ซอมพอดิ้นตัวแรง ๆ อยู่ในอ้อมกอดของเขา เอ้ยผลักตัวเธอลงไปนอนที่บนเตียง แล้วทาบร่างลงไปทับร่างบาง ๆ ของเธอไว้ทั้งตัว สองมือของเธอถูกเขารวบเอาไว้เสียจนแน่น
สองคนที่จ้องสบตากันอยู่บนเตียง ไวทินเห็นเธอน้ำตาคลอ เขาก้มใบหน้าลงไปชิด ก่อนจะใช้ริมฝีปากจูบซับหน้าตาให้
“เราสองคนมาให้โอกาสตัวเอง ลองคบกันดีไหม ผมอยากรับผิดชอบ และอีกอย่าง ผมว่าผมเลี้ยงคุณและลูกรอดนะ” เอ้ยบอกเธอด้วยความมั่นใจ
“ฉันยังไม่ได้ท้องนะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเง้างอด ตอนนี้เลิกดิ้นตัวขลุกขลักแล้ว
“งั้น... เอางี้ เดี๋ยวผมทำให้ท้องเอง” เอ้ยพูด รีบซุกใบหน้าลงบนซอกคอนุ่ม ๆ
“คุณเอ้ย... จะทำอะไรนะ ตัวฉันเหม็นนะ เมื่อกี้ออกไปข้างนอกร้อน ๆ ก็ร้อน อีกอย่างตัวคุณก็เหม็นเหงื่อเต็มไปหมด” เธอเอ่ยห้าม สายตาตระหนก คิดหาทางเอาตัวรอด
“จะอาบน้ำด้วยกันก่อนเหรอ ก็ดีซิ เพิ่งได้สบู่เหลวมาใหม่ ยังไม่ได้ใช้เลย ผมการันตีนะ ว่าหอมกว่าสบู่เหลวในห้องน้ำบ้านคุณอีก” ปากเขาพูด แต่มือก็ทำงานไปรื้อถอดเสื้อผ้าทั้งของเขาและของเธอ ก่อนที่ทั้งสองจะเปลือยกายล่อนจ้อน ซอมพอยกมือขึ้นปิดป้องเป็นพัลวัน
“ไม่เอา...” เธอรีบปฏิเสธ ขนลุกเกรียวตามปลายนิ้วของเขาที่มาถูกต้องเนื้อตัวและสัมผัส
“อันนี้ก็เป็นข้อหนึ่งในการสานสัมพันธ์ของเรา” เอ้ยยกตัวของเธอขึ้นพาเธอเข้าห้องน้ำไปด้วยกัน ซอมพอได้แต่หลับตาปี๋ เขาเห็นใบหน้าเธอแล้วได้แต่อมยิ้ม
ไวทินวางตัวเธอลง และยึดตัวเธอเอาไว้มือหนึ่ง อีกมือเอื้อมไปเปิดฝักบัวเปิดน้ำในอุณหภูมิที่เขาใช้เป็นประจำค้างเอาไว้
“อุ๊ย...” เธออุทานออกมาเมื่อเนื้อตัวโดนละอองของน้ำ สะดุ้งจนไหล่ไปชนกับตัวเขา ฝ่ามือและแขนของเธอพยายามปิดป้องร่างกายในส่วนอ่อนไหวไม่ให้เขาเห็น
เอ้ยนึกสนุกใช้ฟองน้ำกดสบู่เหลวแล้วดันร่างของเธอไปอยู่ใต้ฝักบัว
“เดี๋ยวผมอาบน้ำให้” คำพูดของเอ้ยและท่าทางของเขาทำให้เธอหน้าแดง
“ฉันอาบเองได้” ซอมพอพูดและพยายามแย่งฟองน้ำในมือของเขามาถือเสียเอง เอ้ยเอื้อมมือหยิบฝักบัวสาดไปที่ร่างกายของหญิงสาว ทั้งสองต่างยึดแย่งกันอยู่ตรงนั้น ฟองสบู่ฟูฟ่องเต็มห้องน้ำ ซอมพอลื่นนิด ๆ แล้วเซไปปะทะกับร่างใหญ่ของไวทิน เขารวบเธอเอาไว้ทั้งตัว ปล่อยสายชำระทิ้งไป ก้มหน้าลงไปหาใบหน้านวลที่ตอนนี้เปียกโชก
“เซ็กซี่จัง” เอ้ยพูดเหมือนเพ้อ ก้มหน้าลงไปหาริมฝีปากที่เผยออ้าสั่นระริกไปด้วยอาการหวั่นไหว เธอเขย่งปลายเท้าขึ้นอัตโนมัติ และใช้มือยึดเกาะตัวของไวทินเอาไว้แน่น
ปลายลิ้นที่สอดแทรกเข้ามาเชิญชวนให้เธอหลงสัมผัส เธอเกี่ยวตวัดรัดปลายลิ้นเรียวที่รุ่มร้อนด้วยความเคลิบเคลิ้ม
ความแข็งขืนที่หยัดตัวตรงทิ่มแทงเสียดทักทายกับส่วนอ่อนไหวของร่างบาง หญิงสาวถูกเขาดันตัวไปจนชิดฝาผนัง ร่างหนาใหญ่ของเอ้ยย่อตัวลงแล้วใช้มือประคองดันตัวเองเข้าไปในกายเธอ ใช้วงแขนรั้งตวัดขาหนึ่งให้ขึ้นสูง
“คุณ...อื้อ...อย่า...” เธอร้องห้ามออกมาอีกครั้ง ตอนนี้ได้สติมองใบหน้าของเขาที่กำลังสบตา
“เราเป็นแฟนกันแล้ว” เอ้ยบอก
“ฉันยังไม่ได้ตกลงเลย แล้วสัญญาที่ให้ไว้ ฉันก็ยกเลิกแล้ว” เธอเอ่ยออกมาเสียงสั่น
“กลัวเหรอ” เอ้ยเอ่ยถาม แต่ก็ยังดันตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง เธอถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะหลับตาปี๋ อ้าปากร้องออกมา
“อ้า... เจ็บค่ะ” เธอบอกเขาแทบทันทีที่ความใหญ่โตได้ก้าวล้ำ เอ้ยไม่ฟังเสียง ฉกริมฝีปากลงมาปิดปากเธอทันที
“อื้อ...” หญิงสาวร้องครางอื้ออา เขย่งปลายขาจนแข็ง สองมือเกาะไหล่เขาเอาไว้แน่น จิกเล็บลงไปในเนื้อไหล่กว้างนั้น พอส่งตัวเองจนแนบแน่น เขาคลุกใบหน้าลงไปปลุกเร้าอารมณ์ให้เธออีกครั้งหนึ่ง ไวทินอ้าปากงับยอดเล็กที่อยู่บนปทุมมาที่เขาบอกว่ามันยังไม่เต็มไม้เต็มมือ ฝ่ามือหนาครอบกำและดันขึ้นคลึงเบา ๆ สวนสะโพกสอบขยับชักช้า ๆ