ทันทีที่นายเถื่อนอะไรนั้นออกจากห้องฉันไปมันทำให้ฉันรู้สึกโล่งอกมาก
แต่ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นเพราะฉันดันมาเสียจูบแรกให้กับเขาคิดแล้วอยากจะบ้าตาย
“หงุดหงิด” ฉันบ่นกับตัวเองคนเดียวโดยอาการหงุดหงิดก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำเพื่อที่จะจัดการกับร่างกาย
ตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่งฉันกำลังยืนรอมอไซต์วินอยู่หน้าคอนโดเพื่อที่จะไปโรงเรียนและในตอนนี้จากการคาดการณ์ของฉันมันก็สายมากแล้วด้วยเพราะฉันเอาแต่คิดถึงเรื่องจูบกลายเป็นว่าฉันนอนไม่หลับ
ปริ้น ! ปริ้น ! ปริ้น !
ฉันหันไปมองเสียงรถที่กำลังบีบแตรใส่ฉันก่อนจะกรอกตามองบนเมื่อรู้ว่าคนนั้นเป็นใคร
“นายอีกแล้วหรอ” ฉันบ่นขึ้นเมื่อคนตรงหน้าถอดหมวกกันน็อคออกเพื่อที่เขาจะได้ยินเสียงฉัน
“ขึ้นมาจะไปส่ง” นายเถื่อนพูดขึ้นทันทีส่วนฉันก็หันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาคนที่นายเถื่อนกำลังพูดด้วย
“มึงนั้นแหละขึ้นมา” นายเถื่อนพูดอีกครั้ง
“ฉันหรอ” ฉันถามขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“มึงนั้นแหละไม่ใช่มึงแล้วจะใครขึ้นมากูจะไปส่ง” นายเถื่อนพูดพร้อมกับกระชากแขนฉันเข้ามาใกล้ตัว เถื่อนสมชื่อชะมัด
“ไม่ ! ฉันจะรอมอไซต์วินนายจะไปไหนก็ไป” ฉันพูดพร้อมกับถอยออกห่างนายเถื่อน
“มึงจะขึ้นมาดีๆหรือให้กูไปอุ้มมึง” นายเถื่อนพูดขึ้นอีกครั้งรู้เลยว่าเขากำลังขู่ฉันแต่ท่าทางที่กำลังเอาจริงแบบนั้นคืออะไรกัน
“มึงจะไม่ขึ้นใช่มั้ย” พูดจบนายเถื่อนก็ลงจากรถเดินตรงมาอุ้มฉัน
“โอ้ย ! ไอ้บ้าไอ้บ้าเถื่อนปล่อยฉันเลยนะ” ฉันทั้งดิ้น ทั้งทุบคนตรงหน้าแต่เหมือนเขาไม่สะทกสะท้านเลยสักนิดแล้วคิดดูนะนายเถื่อนตัวอย่างกับควายแล้วฉันตัวเล็กนิดเดียวจะไปสู้แรงนายเถื่อนได้ยังไงแล้วตอนที่นายเถื่อนอุ้มฉันขึ้นรถบิ๊กไบค์คันโตเขาไม่คิดเลยหรอก็ว่ากระโปรงนักเรียนของฉันเปิดไปไหนต่อไหนแล้ว
“เล่นตัวนักนะมึงกับอิแค่จะไปส่ง” นายเถื่อนพูดขึ้นพร้อมกับจับหมวกกันน็อคที่ตัวเองถอดยัดใส่หัวฉัน ย้ำเลยนะว่ายัด ไอบ้านี่มันรุนแรงกับฉันเกินไปแล้ว
“นั่งดีๆอย่าคิดลงไม่งั้นกูเอามึงแน่” นั้นแหละค่ะฉันทำอะไรไม่ได้สู้นายเถื่อนไม่ได้สักนิดทำได้แค่นั่งเงียบๆบนท้ายรถบิ๊กไบค์คันโตเก็บความสงสัยไว้คนเดียว
ฉันใจบุญช่วยคนที่มีเลือดไหลจากหัวเนื้อตัวมอมแมมจากเลือดที่ไหลลงมาฉันใจบุญขนาดนี้ทำไมนายเถื่อนต้องมาวุ่นวายกับฉันด้วย
“รู้รึไงฉันเรียนที่ไหน” ฉันถามขึ้นทันทีเพราะตั้งแต่ขึ้นรถมาฉันก็พึ่งจะปริปากขึ้นตอนนี้
“กูไม่ได้โง่” นายเถื่อนตอบกลับมาจากนั้นฉันก็นั่งเงียบจนถึงโรงเรียนเลยละ คนเขาถามดีๆแล้วดูตอบกลับมาสิ
เมื่อถึงโรงเรียนฉันก็รีบลงจอดรถแล้วถอดหมวกออกเพื่อจะคืนให้คนตรงหน้าแต่ติดตรงสายรัดนี่แหละที่มันแกะไม่ออกสักที
“โง่อีกแล้วนะมึงมานี่” นายเถื่อนพูดขึ้นพร้อมกับดึงฉันเข้าหาตัวก้มลงแกะสายรัดที่คอให้ฉัน
ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นนิสัยดีกว่านี้บอกเลยว่าฉันคงจะเขินตัวแทบแตกแต่นี่ไม่ใช่ไงนี่มันนายเถื่อนเถื่อนตั้งแต่การกระทำยันคำพูดแล้วฉันต้องเขินตรงไหนดีละ
“ตอนเย็นกูจะมารับรอหน้าโรงเรียนแล้วอย่าคิดหนี” นายเถื่อนพูดจบฉันก็เดินเข้าโรงเรียนทันทีโดนไม่สนใจคำพูดนายเถื่อน เรื่องอะไรฉันจะรอนายเถื่อนไม่ได้รู้เวลาเรียนฉันสักหน่อยและฉันก็ไม่เอาตัวเองไปทรมานโดยการรอเขาหรอกนะ
“นักเรียนที่มาสายมาเข้าแถวตรงนี้” ฉันก้มมองนาฬิกาเป็นเวลาเกือบแปดโมงแล้ว ฉันสายเพราะมัวแต่ทะเลาะอยู่กับนายเถื่อน
หลังจากนั้นก็ได้แต่เดินคอตกไปยังครูประจำแถวสายแน่นอนฉันก็โดนทำโทษลุกนั่งเรียกว่าเป็นการออกกำลังกายตอนเช้าท่ามกลางแสงแดดที่ฉันไม่ชอบใจนัก
“ทำไมมาสายละอิข้าว” ปีโป้หรืออีปีเพื่อนสนิทของฉันถามขึ้นทันที
“กูตื่นสายอะดิโดนลุกนั่งด้วยเมื่อยมาก” ฉันพูดขึ้นพร้อมบ่นไปด้วยก็ขอบ่นหน่อยเถอะเพราะตอนนี้เริ่มหงุดหงิดเพราะร้อนอะร้อนมากๆ
“ตื่นสายทุกวันคะแนนเข้าแถวมึงจะไม่เหลือแล้ว”เบลเพื่อนสนิทของฉันอีกคนพูดขึ้นมาทันทีพวกเราคบกันแค่สามคนไมาใข่ไม่คบใครแต่ใครเขาไม่คบเพราะสวยเกินไป
“มึงก็ปลุกกูดิกูจะได้ไม่สาย” ฉันหันไปพูดกับเบลต่อ
“โถ่อีข้าวกูโทรจนมึงหยิกมึงช่วยเปิดดูโทรศัพท์” อีปีพูดขึ้นต่อทันทีส่วนฉันจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู อ่าจริงๆ
“ขยันโทรเนอะ” จากนั้นฉันก็หันไปพูดกับมันยิ้มๆโดยความรู้สึกผิด
“ใครจะกลับแล้วบ้างกูจะกลับละ” ฉันพูดทันทีเมื่อครูปล่อยคาบสุดท้ายวันนี้ฉันต้องรีบกลับเพื่อที่จะไม่ต้องเจอนายเถื่อน
“รีบรึไง” อีปีกับอีเบลพูดขึ้นพร้อมกัน
“เออรีบต้องหนีคนบ้ากลับบ้าน” ฉันหลุดปากพูดขึ้นก่อนจะชะงักเพราะรู้ตัวแล้วว่ากำลังพูดอะไรออกไปให้พวกมันสงสัย
“คนบ้า” จากนั้นสองเพื่อนสาวของฉันก็พูดขึ้นพร้อมกัน
“ไม่มีไรหรอกกูไปละนะ” ฉันพูดพร้อมกับหยิบกระเป๋าออกจากห้องทันทีโดยความรีบร้อน
แต่เหมือนฉันจะหนีกลับไม่ได้แล้วแหละเพราะนายเถื่อนในชุดเสื้อช็อปกางเกงยีนสีดำรองเท้าผ้าใบกำลังค่อมบิ๊กไบค์คันโตมองมาที่ฉัน
ตอนนี้นายเถื่ิอนได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเพราะเด็กผู้หญิงในโรงเรียนของฉันนี่แหละที่กำลังซุบซิบด้วยท่าทางเขินอาย นายนี่หล่อตรงไหวนกันนะ
“เชี่ยใครอะอย่างหล่อ” อีเบลเพื่อนของฉันที่มันเดินออกมาจากประตูโรงเรียนพูดขึ้นทันที
“เดินมาเร็วจัง” ฉันถามพวกมันขึ้นต่อเพราะเมื่อกี้ฉันรีบวิ่งออกมาเลย
“วิ่งตามมึงมานั้นแหละเดินเร็วฉิบ” คราวนี้เป็นปีที่ตอบฉันแทน
“จะเดินมาหากูได้ยัง” นายเถื่อนที่ค่อมรถอยู่พูดขึ้นทำเอาหลายๆคนในตรงนี้หันมองทันที
“เขาพูดกับใคร” อีปีหันมาถามฉันขึ้นทันที
“นั้นดิมองมาทางเราด้วยนะ” เบลพูดขึ้นเสริม เพื่อนๆเขาพูดกับกูแต่กูไม่อยากคุยด้วย
จากนั้นเมื่อนายเถื่อนเห็นว่าฉันไม่ตอบก็ลงจากรถเดินตรงมาทางฉัน
“กลับยัง” นายเถื่อนถามขึ้นทันที ทำเอาเพื่อนๆเกิดอาการเหวอ
“ฉันจะกลับกับเพื่อน” ฉันพูดพร้อมขยับตัวหนีห่างนายเถื่อน
“กูมารอตั้งนานยังจะกลับกับเพื่อนอีกหรอ” นายเถื่อนพูดขึ้นอีกครั้ง
“เออจริงอีข้าวมึงไปกับเขาเลย” อีปีเพื่อนของฉันพูดขึ้นอีกครั้งก่อนที่มันจะผลักตัวฉันให้เข้าหานายเถื่อน
“เออไปเลยกูสองคนก็จะกลับแล้ว” อีเบลก็เข้าขากันดีกับอีปีมันพูดขึ้นก่อนจะพากันเดินหนีฉันไป
“เพื่อนมึงไปแล้วคราวนี้ไปกับกูได้ยัง” นายเถื่อนพูดจบกับจับมือฉันให้เดินตามมา
แน่นอนว่าฉันไม่มีทางหนีเพราะฉันไม่สามารถแกะมือนายเถื่อนที่กำลังจับมือฉันอยู่ออกได้ อีกทั้งนายคนนี้ยังยัดหมวกกันน็อกให้ฉันอีกตามเคยไม่เคยที่จะใส่ดีๆให้หรอก
“จะไปไหน” ฉันถามขึ้นอีกครั้งเมื่อนายเถื่อนออกรถ
“กินข้าว” นายเถื่อนตอบกลับมาทันที
“แต่ฉันไม่หิว” ฉันไม่หิวทำไมฉันต้องไปกับนายเถื่อนด้วยละ เขาหิวเองทำไมต้องมาพาฉันไปด้วย
“ไม่ได้หมายถึงข้าว แต่หมายถึงมึง”