เมียนายเถื่อน | 1
“เถื่อน ไอ้เถื่อน ไอ้เถื่อนโว้ยยยยย” เสียงตะโกนโวกเวกโวยวายดังขึ้นในขณะที่ผมกำลังนั่งเรียนอยู่ในห้อง
“เหี้ยไร” ผมตะโกนออกไปโดนไม่สนใจว่าอาจารย์กำลังสอนอยู่
“นายเถื่อนเงียบด้วย” อาจารย์พูดขึ้นพร้อมกับหันมามองอย่างคาดโทษ
“ขออนุญาตครับ” ผมพูดพร้อมลุกออกไปโดยไม่สนอาจารย์ที่ยืนสอนอยู่
“ไอ้เถื่อนไอ้เหี้ยพวกแม่งดักหน้าโรงเรียนอยู่พวกกูกลับไม่ได้เนี่ย” ไอ้คนที่ตะโกนเรียกผมพูดอย่างลนลาน ไอ้นี่มันชื่อชิมเป็นเพื่อนของผมแต่เรียนคนละสาขากัน
“เดี๋ยวกูจัดการเองเรียกพวกแม่งออกมาด้วย” ผมพูดพร้อมกับเดินลงมาด้านล่างลงตรงไปยังห้องใต้บันไดที่ใช้สำหรับเก็บอาวุธผมหยิบเพียงแค่ไม้เบสบอลและเดินออกมา จากนั้นไม่นานไอ้เพื่อนผมที่เหลือต่างก็วิ่งลงมาหยิบของของตัวเอง
“พวกไหนว่ะไอ้ชิม” ไอ้แบงค์เพื่อนสนิทสาขาเดียวกับผมถามขึ้น
“ไอเหี้ยกรณ์ไงถ้าเป็นคนอื่นกูแม่งไม่มาเรียกพวกมึงหรอก” ไอ้ชิมตอบกลับมาทันที
ชิมมันสู้ได้เก่งพอสมควรแต่ถ้าวัดกันระหว่างไอ้ชิมกับไอ้กรณ์อริของพวกเรานั้นแน่นอนว่าไอ้ชิมมีสิทธิ์โดนเล่นมากกว่า
“กูไม่ได้ออกกำลังกายนานละขยับร่างกายกันหน่อยไป ! ” ผมพูดขึ้นอีกครั้งจากนั้นทุกคนก็รวมตัวกันวิ่งไปที่หน้าประตูโรงเรียนทันทีและแน่นอนว่ามันไม่ได้มีแค่พวกผมแต่มันยังมีกลุ่มรุ่นน้องในโรงเรียนตามมาสมทบอีกด้วย
กล้าบุกมาถึงโรงเรียนกู กูแม่งก็จะเอาให้ยับ
“วิ่งหางจุกตูดไปตามลูกพี่มึงเลยรึไงไอ้ชิม” ไอ้กรณ์พูดขึ้นหลังจากที่พวกผมทยอยกันออกมาหน้าโรงเรียนเราทั้งหมดยืนตั้งแถวตรงประจันหน้ากับพวกมันและมันที่เห็นแบบนี้ก็แสดงใบหน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัดเพราะจำนวนคนที่มากกว่า
แต่ไอ้กรณ์กก็ไอ้กรณ์ต่อให้กลัวแค่ไหนมันก็ยังทำปากดีอยู่เหมือนเคย
และวันนี้ไม่ผมก็มันนี่แหละเลือดต้องออกกันไปสักข้าง
“ปากดีนักนะมึง” ผมพูดพร้อมกับวิ่งตรงเข้าหามัน ก่อนจะยกไม้เบสบอลเตรียมจะฟาดเข้าหาตัวไอ้กรณ์
“ไม่ได้แดกกูหรอก” ไอ้กรณ์เบี่ยงตัวหลบได้อย่างรวดเร็วอีกทั้งยังใช้จังหวะที่ผมเผลอเอาไม้เบสบอลที่อยู่ในมือมันตีเข้าที่หัวผม
“ไอสัส” ผมพูดพร้อมกับกำไม้เบสบอลในมือแน่นก่อนจะใช้สองตีนถีบไอ้กรณ์ให้ล้มลงแล้วใช้ไม้เบสบอลทุบลงกลางตัวของมัน
อั่ก ! อั่ก !
“พวกมึงพี่กรณ์โดนเล่นวิ่งก่อน” เสียงพวกลูกสมุนของไอ้กรณ์ที่มาด้วยกันพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าหัวโจกฝั่งตัวเองกำลังโดนผมทั้งทุบทั้งตีก่อนจะวิ่งหางจุกตูดหนีกันไปหมด
หึ ไม่เหมือนฝั่งผมสักนิดถ้าใครเป็นไรก็จะช่วยกัน แต่พวกมันต่างหนีเอาตัวรอดสันดานเสียฉิบหาย
ผมเหยียดตามองร่างไอ้กรณ์ที่นอนนิ่วหน้าเพราะความเจ็บก่อนจะกับเอามือลูบหัวตัวเองเพื่อจับแผลที่มีเลือดออกมา
จากนั้นก็จัดการหยิบมีดที่ตกตรงข้างๆขึ้นเตรียมจะแทงเข้าที่กลางตัวของไอ้กรณ์
มันทำผมได้เลือดมากแค่ไหน ผมก็ต้องการให้เลือดมันออกมากว่า
“ไอ้เหี้ยวิ่งก่อนพ่อมึงมา” ไอ้แบงค์รีบวิ่งมาหาผม พร้อมกับกระชากแขนผมให้วิ่งตามมัน
ขืนอยู่ตรงนี้ต่อมีหวังโดนพ่อเล่นแน่ๆ
“ไอ้เหี้ยอีกนิดเดียวไอ้กรณ์ก็จะเหลือแต่ชื่อ” ผมพูดขึ้นอย่างอดโมโหไม่ได้
“รอบหลังก็ได้เหอะไอ้สัส พ่อมึงมาไม่วิ่งคงตายกันพอดี” พ่อในที่นี้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นตำรวจนั้นแหละ
หลังจากวิ่งหนีเข้าโรงเรียนกันมาแล้วผมกับไอ้แบงค์ ก็แยกกันเดินไปที่รถของตัวเอง
ผมขึ้นค่อมบิ๊กไบค์คันโปรดพร้อมขับตรงไปที่ร้านยาเพื่อหาอุปกรณ์ธรรมแผลและเมื่อผมกำลังจะเอี่ยวตัวลงจากรถก็เหมือนโลกจะหมุนเกิดอาการเซเล็กน้อย
“เป็นอะไรมากไหมเนี่ย” เสียงของผู้หญิงร่างบางในชุดนักเรียนมัธยมปลายวิ่งเข้ามาพยุงผมพร้อมกับถามขึ้น
“ไม่แค่เจ็บนิดหน่อย” ผมตอบกลับคนตรงหน้าส่วนผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าของผมก็ไม่มีทีท่าว่าจะกลัวผมแต่อย่างใดทั้งๆที่ตอนนี้หัวผมกำลังมีเลือดไหลส่วนเสื้อก็เปื้อนเลือดขนาดนี้
“นิดหน่อยกับผี เลือดไหลเหมือนเปิดก๊อก” ร่างบางพูดขึ้นต่อทันทีพร้อมพร้อมกับพยุงผมนั่งลงตรงม้าหินอ่อนหน้าร้านขายยา
แต่ผมผมก็ปฏิเสธโดยการขืนร่างดายตัวเองไว้ เพราะผมต้องการที่จะรีบไปซื้อยาแก้ปวดแล้วกลับไปนอนพักที่คอนโดก่อนที่อาการปวดมันจะเล่นงานผมมากกว่านี้
“พูดมากวะ หลบไปดิ” ผมพูดพร้อมดันร่างบางออกให้พ้นตาเพราะตอนนี้ผมชักจะเริ่มรำคาญเธอแล้ว
“รอตรงนี้เดี๋ยวจะไปซื้ออุปกรณ์ทำแผลกับยาให้” ร่างบางพูดขึ้นก่อนจะเดินเดินเข้าไปด้านในทันทีส่วนผมก็ได้แต่มองตามแผ่นหลังของเธอ
จะพูดว่าแปลกคนก็ได้รู้จักก็ไม่รู้จักยังมาช่วยใจบุญเกินไปหรือเปล่า
“อะนี่” ภายในเวลาไม่นานถุงยาก็ถูกส่งมาให้ผม
“ไปทำอีท่าไหนหัวออกเลือดขนาดนี้” เธอนั่งลงข้างๆและถามผมขึ้นทันที
“เรื่องของใคร” ผมพูดขึ้นทันทีก่อนจะหยิบแบงค์พันในกระเป๋าเงินส่งให้คนตรงหน้าและเดินออกมาทันที
ตอนนี้ไม่อยากจะเสวนาอะไรด้วย
“นี่นายฉันไม่มีทอนนะ เฮ ! รอก่อนสิ” เธอร้องตะโกนขึ้นจนผมต้องหันกลับไป
“ก็เอาไปทั้งหมดแล้วเลิกตามสักที” ผมพูดขึ้นด้วยอารมณ์ที่โครตจะฉุนเฉียวเพราะความรู้สึกปวดแผลที่หัวเริ่มเล่นงาน อยากจะกลับไปนอนแทบแย่แต่ดันมีตัวจุ้นตรงหน้าเข้ามาวุ่นวายไม่หยุด
“ไหนๆก็ไหนๆแล้วไปส่งหน่อยหน่อยได้หรือเปล่า” เธอที่เดินตามผมมาถึงรถถามผมขึ้นทันที
ไม่อยากจะคิดเข้าตัวเองแต่เธอกำลังอ่อยผมอยู่ใช่ไหมถึงขั้นออกปากให้ไปส่งทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน
“เรื่องอะไรทำไมกูต้องไปกูเจ็บแผลจะตายห่าอยู่แล้ว” ผมพูดออกไปทันทีพร้อมกับค่อมบิ๊กไบค์คันโปรดของตัวเอง
“ไอ้บ้าคนเขาอุตส่าห์ช่วยไม่มีน้ำใจ ไอ้คนแล้งน้ำใจ” เธอพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับหน้าตาที่แสดงออกถึงความไม่พอใจ
“ไม่ได้ขอ” ผมพูดพร้อมหันไปหน้าเธออีกครั้ง
ใบหน้าสวยที่ผมกำลังตั้งใจมองตอนนี้มุ่ยหน้าจนผมนึกขำในใจ
“เออขึ้นมาให้ไว” ผมพูดออกไปทันทีส่วนคนตรงหน้าที่ได้ยินแบบนั้นก็กระโดดขึ้นรถขึ้นมาทันที
“คอนโดเอ็กซ์” ไม่ทันจะต้องถามคนข้างหลังก็พูดขึ้นมาเสียดื้อๆเออดีเหมือนกันเพราะผมก็อยู่ที่นี่ซึ่งผมก็ไม่ต้องเสียเวลา