ตอนที่ 3

1258 Words
มันยิ่งกว่าอาการช็อก หล่อนไม่อาจจะบรรยายความรู้สึกตอนนี้ออกมาเป็นคำพูดได้ รู้เพียงแต่ว่าลมหายใจสะดุดอยู่แค่ลำคอ หล่อนตามหาเขา พยายามหาทุกทาง แต่ก็ไม่เคยพบเจอเขาเลย จนกระทั่งตอนนี้ เขานั่งอยู่ในรถหรูตรงหน้า และกำลังมองมาที่หล่อนด้วยสายตาเรียบเฉย เขาอาจจะจำหล่อนไม่ได้ นั่นสินะ มันผ่านมาสามปีแล้ว และที่สำคัญเขาก็ไม่ได้ชอบพออะไรหล่อน เหมือนกับที่หล่อนตกหลุมรักเขาเข้าอย่างจัง ดังนั้นมันจึงไม่ผิดที่เขาจะทำหน้างงๆ แบบนี้ นี่มันโชคดีหรือโชคร้ายกันนะ ที่มารู้ว่าผู้ชายที่ตัวเองเฝ้าคิดถึง เฝ้ารอคอยจะพบหน้าอีกสักครั้ง เป็นผู้ชายขายบริการ “มีอะไรหรือครับคุณผู้หญิง” หล่อนสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อเขาเอ่ยถามออกมาเสียงเรียบ “เอ่อ... ฉันมาตามนัดค่ะ” “ตามนัด?” ทำไมเขาจะต้องทำหน้างงด้วย หรือว่านี่คืออาการแสดงที่จะปกปิดตัวตนและอาชีพของผู้ชายพวกนี้ “ค่ะ ขอฉันขึ้นรถนะคะ” หล่อนรู้ว่าเขาจะต้องแกล้งทำเป็นปฏิเสธ แต่หล่อนไม่สนใจหรอก อย่างน้อยๆ ผู้ชายที่จะมาช่วยทำให้หล่อนมีข่าวฉาวก็คือเขา เขาที่หล่อนแอบรักมานานถึงสามปีเต็ม... “ผมไม่เข้าใจครับ” “คุณขับรถไปเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันจะบอกทางไปโรงแรมให้กับคุณเอง” “โรงแรม?” “ใช่ค่ะ” หล่อนตอบรับเสียงน้ำเสียงที่ผ่านการปั้นแต่งมาอย่างดี หล่อนจะต้องไม่ประหม่า จะต้องไม่แสดงท่าทางหวาดหวั่นออกไป ต้องยิ้ม และทำตัวให้ผ่อนคลายที่สุด “ออกรถสิคะ” สายตาสีดำขลับของผู้ชายข้างตัวมองมาด้วยสายตามืดลึก ซึ่งหล่อนไม่อาจจะอ่านความรู้สึกของเขาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ หล่อนพยายามยิ้มออกมา บอกตัวเองให้ผ่อนคลาย แต่เม็ดเหงื่อกลับผุดขึ้นในอุ้งมือตลอดเวลา จนฝ่ามือเปียกชื้นไปหมด “เลี้ยวซ้ายตรงแยกนี้แหละค่ะ” เขาทำตามอย่างว่าง่าย หล่อนลอบช้อนตามองใบหน้าของเขา ก่อนจะต้องยกมือขึ้นกุมหน้าอกเอาไว้ ความหล่อเหลาของเขาเพิ่มมากขึ้นตามระยะเวลาที่ไม่ได้เจอกันเลย หล่อนจำเขาได้แม่น และก็อยากจะบอกกับเขาว่าหล่อนคือไกด์คนนั้นที่อังกฤษ แต่ก็กลัวความอับอาย หากเขาจำไม่ได้ ยังมันเถอะ ปล่อยให้มันหายไปตามกาลเวลา อย่าไปรื้อฟื้นอะไรเลย รัมภาน้ำตาซึม รู้สึกสับสนอลหม่านไปทั้งอก ผิดหวัง เสียใจ และหวาดกลัว “โรงแรมนี้หรือครับ” น้ำเสียงของผู้ชายข้างตัวห้วนจัดเมื่อเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่หน้าโรงแรมหรูระดับห้าดาวใจกลางเมืองหลวง หล่อนรีบจ้องมอง ก่อนจะตอบเขาเสียงสั่นๆ “ใช่ค่ะ ที่นี้แหละ ฉันจองห้องสวีทเอาไว้แล้ว” หล่อนเห็นเขาหันมามอง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเหยียดหยามดูแคลน แต่แวบเดียวเท่านั้นมันก็ถูกความมืดมิดมากลบทับ “เรารีบขึ้นห้องกันเถอะค่ะ” หล่อนกำลังจะก้าวลงจากรถ แต่อุ้งมือใหญ่อบอุ่นจนร้อนผ่าวของเขาก็คว้าแขนเอาไว้เสียก่อน “คุณแน่ใจนะว่าจะทำแบบนี้” “ค่ะ ฉันแน่ใจ” “ไม่มีผู้หญิงดีๆ คนไหนทำกันแบบนี้หรอกครับ” “ก็ฉันต้องการเป็นผู้หญิงไม่ดียังไงล่ะ คุณไม่ต้องพูดอะไรแล้ว หน้าที่ของคุณคือทำตามที่ฉันต้องการ” หล่อนดึงแขนออกจากอุ้งมือหนา ก่อนจะก้าวลงไปจากรถทันที เขาก้าวตามลงมา และเมื่อมายืนใกล้ๆ กัน หล่อนก็พบว่าเขาตัวใหญ่เหลือเกิน หัวใจของหล่อนสั่นเทา รู้สึกอ่อนไหวจนกลัวใจตัวเอง หล่อนสบตากับเขาแวบเดียว ก่อนจะเดินนำเข้าไปภายในโรงแรมหรู และเมื่อรับคีย์การ์ดมาจากพนักงานแล้ว หล่อนก็เดินนำเขาไปที่ลิฟต์ และมุ่งหน้าขึ้นสู่ห้องสวีท ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในลิฟต์ มีอยู่หลายครั้งที่หล่อนอยากจะล้มเลิกความตั้งใจนี้ แต่พอนึกถึงการคลุมถุงชนที่ไม่ปรารถนา หล่อนก็กัดฟันที่จะทำต่อไป ประตูลิฟต์เปิดกว้างออก หล่อนก้าวออกมา และเสียงฝีเท้าหนักๆ เขาก็ตามหลังมาติดๆ หล่อนเดินมาหยุดที่หน้าห้อง ทาบคีย์การ์ดกับประตู และดันมันให้เปิดกว้างออก ผู้ชายที่หล่อนไม่รู้จักแม้แต่ชื่อเดินตามเข้ามา หล่อนดันบานประตูปิด และเสียบการ์ดเข้ากับช่องข้างประตู ไฟในห้องสวีทสว่างพรึ่บ หล่อนยืนนิ่ง กวาดตามองไปรอบๆ ตัว เตียงนอนสีขาวขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง พวงแก้มนวลแดงระเรื่อทันทีเมื่อคิดว่าตัวเองจะต้องขึ้นไปนอนเปลือยเปล่ากกกอดอยู่กับผู้ชายที่ตัวเองแอบรักมานาน ถึงแม้จะไม่ได้มีการร่วมรักกันจริงๆ แต่การได้อยู่ใกล้เขาในสภาพเกลี้ยงเกลาแบบนั้น มันก็ทำให้หล่อนรู้สึกร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างน่าละอาย “คุณยังเปลี่ยนใจทันนะครับ” หล่อนเป่าลมออกจากปากแรงๆ ก่อนจะหันไปสบประสานสายตากับเขา “ฉันไม่เปลี่ยนใจ ฉันต้องการทำแบบนี้” “ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงหน้าหวานๆ อย่างคุณจะทำแบบนี้ได้” น้ำเสียงของเขาทั้งผิดหวังทั้งดูแคลน “คุณจะคิดยังไงก็ช่างเถอะ แต่ฉันต้องทำจริงๆ ฉันไม่มีทางเลือก” “คุณมีทางเลือกมากมาย แต่คุณไม่เลือกเองต่างหาก คุณผู้หญิง” หล่อนมองเขา แต่อ่านความรู้สึกจากสายตาของเขาไม่ออกเลยแม้แต่น้อย “แม่บังคับให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายที่ฉันไม่ชอบ ฉันจะต้องทำให้ผู้ชายคนนั้นล้มเลิกความคิดที่จะแต่งงานกับฉันให้ได้” สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่หล่อนก็ยังอ่านความรู้สึกของเขาไม่ออกอยู่ดี “เพราะอะไรคุณถึงเกลียดเขา” “ฉันไม่ได้เกลียด แต่ฉันไม่อยากร่วมชีวิตด้วยต่างหากล่ะ ทำไมจะต้องมาบังคับกันก็ไม่รู้” “เพราะคุณมีคนที่ชอบอยู่แล้ว” คำพูดของเขาประโยคนี้ทำให้หล่อนหน้าแดงก่ำ และต้องเสหลบสายตาทันที ก็เขาไง... คนที่หล่อนแอบรัก... “ก็... ใช่...” หล่อนได้ยินเสียงหัวเราะเยาะในลำคอแกร่งเบาๆ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นเสียงห้วน “งั้นคุณต้องการให้ผมทำอะไร” “อ้าว นี่ไพลินยังไม่ได้บอกคุณหรอกเหรอ” “บอกมาว่าต้องการให้ผมทำอะไรบ้าง” เขาไม่ตอบหล่อน แต่เลือกที่จะเค้นถามเสียงกระด้าง หล่อนรู้สึกหวาดกลัวเขาไม่น้อย “ก็... แก้ผ้า แล้วขึ้นไปนอนบนเตียงด้วยกัน” “แค่นั้นหรือ” “ค่ะ... ฉันต้องการแค่นั้น” หล่อนเห็นเขายิ้มหยัน “ผมไม่เชื่อหรอกว่าคุณจะให้ผมทำแค่นั้น” หล่อนหน้าร้อนผ่าว เมื่อถูกสายตาดูถูกของผู้ชายตรงหน้าจ้องมา “ฉันต้องการแค่นี้จริงๆ และคุณก็ห้ามทำเกินเลยด้วย หวังว่าจะเข้าใจ” เขาไม่ได้ตอบหล่อน แต่ยืนปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแทน หล่อนเผยอปากค้าง เพราะทุกครั้งที่กระดุมหลุดออกจากรังดุม มันก็ทำให้ลมหายใจของหล่อนขาดหายไปจากปอดเช่นกัน แผงอกกว้างเปิดเปลือยแก่สายตาของหล่อนทันที ที่เสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลไหม้ถูกโยนทิ้งลงกับพื้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD