“ยาดีจริงเทียวขอรับ ฉันแทบหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว” เหมือนแก้วบอกพรางยิ้มให้ พร้อมทั้งเดินเข้ามานั่งร่วมวงสำรับกับพระยาหมื่นทิศที่นั่งรออยู่ก่อน
“ดีแล้ว” พระยาว่าด้วยท่าทางเคร่งขรึมมีสง่า ยิ่งเมื่อเหมือนแก้วยิ้มอย่างร่าเริงส่งให้คราแล้วคราเล่า พระยายิ่งดูเข้มขรึมมากขึ้นเป็นเท่านั้น
จักหยุดส่งยิ้มหวานหากมึงยังไม่อยากให้กูซ้ำรอยเดิมมึง พระยาหมื่นทิศคิดในใจ
“พวกมึงรอกระไร” พระยาหันไปถามบ่าวไพร่เสียงดุ บรรดาคนครัวที่ยังนิ่งกันอยู่ ไม่ยอมตักข้าวใส่จานเสียที
“อะ เอ่อ…เจ้าค่ะ” บ่าวไพร่ก้มน่ากลัว ก็นึกว่าพระยาจักรอรับทานพร้อมคุณหญิงศรีด้วยนี่
เหมือนแก้วมองจานข้าวที่มีช้อนยาวคล้ายช้อนตักน้ำแกงแลอีกอันหนึ่งที่มีสามแง่งคล้ายตรีศูลอันน้อยที่ถูกจัดวางเคียงกันในจาน ช่างแปลกตาน่ารัก
“อันนี้เรียกส้อม” พระยาบอก
“ขอรับ?”
“จับเยี่ยงนี้” พระยาว่าแลทำเป็นตัวอย่างให้เหมือนแก้วทำตาม
“เอาไว้เขี่ยเม็ดข้าวใส่ช้อนเพื่อเป็นการง่าย แลยังหยิบจับอาหารที่เป็นชิ้นอย่างนี้” ว่าแล้วก็เอาส้อมจิ้มไปที่ทอดมันปลากรายมาใส่ในจานของเหมือนแก้วให้
“สะดวกสบายดีแท้” เหมือนแก้วตื่นเต้นดีใจกับสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้
ฉันอยากให้ท่านพ่อเห็นเรือนพระยาท่านนี้นัก ทั้งเครื่องอำนวยความสะดวกที่ไม่เคยคิดฝัน ห้องน้ำห้องท่าสะอาดสะอ้านอยู่บนเรือน ดีกว่าใช่กระโถนเป็นไหนๆ
“กินเสียให้มาก จักได้โตๆ” พระยาบอกราวกับกำลังสอนสั่งเด็ก แลยิ่งได้เห็นหน้าเหมือนแก้วใกล้ๆ ยิ่งไม่วายนึกไปถึงเรื่องลามกที่ทำกับเด็กหนุ่มเมื่อวาน
ร่างกายอันบอกบางไร้อาภรณ์ของชายหนุ่ม เช่นใดจึงไม่ต่างจากเด็ก15-16 แลเนื้อก้นขาวเนียนเด้งแน่นหนับ หน้าอกหน้าท้องแบนราบเรียบ ผิวกายทุกส่วนละเอียดลื่นแลมีกลิ่นหอม กลิ่นหอมดังเด็กทารก กลิ่นที่พอโตความหอมจักหายไป กลิ่นที่กูจักสูดดมได้มิรู้เบื่อ
พระยาหมื่นทิศนึกไปถึงสัมผัสสวาทตอนที่ลำเอ็นเคลื่อนผ่านกล้ามเนื้อภายในที่ชุ่มชื่นนั่น พลันร่างกำยำแข็งแรงดังม้าศึกก็ร้อนรุ่มตอบสนองต่อความคิดลามกโดยฉับพลัน
“ซี๊ดดด” ชายหนุ่มเผลอซูดปากขึ้นมาเบาๆ อย่างลืมตัว
“แกงเผ็ดหรือขอรับ” เสียงเหมือนแก้วเรียกดึงสติพระยาออกมาจากภาพฝัน “เป็นกระไรหรือขอรับ ฉันเห็นพี่พระยาทำตาลอยดูประหลาด” เหมือนแก้วแอบทำหน้าว่ากลัว
พ่อเล่นของหรือ ฉันกลัวนะ
“กูคิดงานราชการ” พระยาหมื่นทิศแก้ต่างให้ตัวเอง
“ค่อยโล่งใจขอรับ คุณพี่ทำท่าอย่างกับว่าโดยผีเข้า” เด็กหนุ่มว่า
“ลือ? กูทำเช่นไร” พระยาถามเพราะอยากหาความเสวนาด้วย
“เช่นท่าพิกลขอรับ” เหมือนแก้วว่าอายๆ กับท่าทางของพระยาเมื่อครู่ มันชวนมองหากแต่ดูวาบหวามแกมน่าขนลุกอย่างประหลาด แก้มเด็กหนุ่มแดงเรื่องขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ นั่นทำเอาพระยาหายใจติดขัด
กูอยากเห็นมึงทำหน้าเช่นนี้นักตอนได้ร่วมสวาทกับกู พลัน องคชาตที่พองขยายอยู่ก่อนก็แข็งขืนยิ่งขึ้นไปอีก นี่หากไม่มีโต๊ะตั่งปิดบังไว้ ใครต่อใครคงได้นึกว่ามีพญางูใหญ่ชูคออยู่ในโจงกระเบนแล้วกระมัง
กูอยาก กูอยากนัก พระยากัดกรามแน่นจนเส้นเลือดเส้นเอ็นปูดขึ้นตามสันกราม
จักออกอุบายใดให้กูได้เล่นสวาทกับมันอีก!?
“สำรับถูกปากหรือไม่พ่อ” พระยาเอ่ยถาม
“อร่อยมากเลยขอรับพี่พระยาท่าน” เหมือนแก้วตอบปากก็เคี้ยวทอดมันตุ่ยๆ น่าจัดฟัดนัก
“แล้วอาการบาดเจ็บมึงหายดีแล้วหรือ?”
“ดีขึ้นมากแล้วขอรับ ฉันนั่งได้แลเดินได้ปกติ แต่ยังมีขัดๆ อยู่ภายในบ้างเพียงเล็กน้อยขอรับ”
“งั้นหรือ เช่นนั้นมึงจงรีบเร่งกินให้อิ่ม”
“ขอรับ?”
“กูจักตรวจดูแผลให้” พระยาหมื่นทิศวางอุบายล่อลวง
“แผล? ไม่มีแผลดอกขอรับ ฉันแค่ตะโพกยอกจากการนั่งบนอานม้านานๆ เท่านั้น” เหมือนแก้วบอก
“ไม่เชื่อฝีมือวิชาการแพทย์กูหรือ”
“ช เชื่อขอรับ” เหมือนแก้วตอบไปอย่างนั้นทั้งที่ในใจไม่คิดเชื่อถือ ท่านเป็นพระยามิใช่แพทย์เสียหน่อย “แต่ฉันกินยาที่พี่ให้มาแลมันดีขึ้นมากแล้วขอรับ”
“แลมีข่าวว่า คนขี่ม้านานๆ จักองคชาตตายได้หากไม่รีบรักษา”
“หือ!?”
“ลือมึงอยากเป็น อยากให้มันตายจนใช้การไม่ได้”
“ร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือจ๊ะพี่ เยี่ยงนั้นหาแพทย์สักหน่อยก็ดีขอรับ”
“แพทย์มิชชันนารีเท่านั้นจึ่งรักษาอาการนี้ได้” พระยาหมื่นทิศยังคงว่าหลอกต่อ
“พี่พระยาโปรดพาฉันไปเถิด ฉันไม่อยากองคชาตตาย” เด็กหนุ่มเริ่มรู้สึกกลัว ใยฉันจึงอ่อนแอนัก แค่ขี่ม้าหลายชั่วยามก็จักเป็นนู้นเป็นนี่
“อย่าห่วง กูเคยร่ำเรียนมาแล้วไว้ใช้รักษาพวกทหารยามออกศึก มึงรีบกินเสีย จะได้ไปรักษากัน” พระยาออกอุบายแยบยล
“ให้ฉันถอดโสร่งลือขอรับ” เหมือนแก้วทำหน้าเลิ่กลั่กแลยังยืนนิ่งเสียไม่ไหวติง
“มึงจักอายอันใด ที่นี่ก็ห้องหับมิดชิด แลเราก็เป็นชายทั้งคู่” พระยาคนพี่ว่าเสียงดุ
“ต แต่…”
“ไม่มีแต่ กูไม่ได้ว่างเล่นกับมึงทั้งวันหนา” ว่าแล้วพระยาก็ไม่รอช้าอีกต่อไป จับไอ้แก้วได้ก็หมุนร่างเล็กให้นอนคว่ำลงกับเตียงนอนในทันที
“อื้อออ” เหมือนแก้วร้องอู้อี้เพราะถูกมือใหญ่กดจนหน้าชิดแนบที่นอนหนา ก่อนเวลาถัดมาจะรู้สึกเย็นวูบวาบที่ช่างล่างเพราะโสร่งถูกปลดออก
“มึงอย่าได้หันมามอง เข้าใจลือไม่” พระยาสั่งเสียงพร่า
“ขอรับ ต แต่…” เหมือนแก้วรับคำงงๆ และพยายามจะเอ่ยทัดทาน
ชึ่บ!
“อะ!!”
ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมบางอย่างแทงเข้ามาภายในรูร่อง ที่เจ้าตัวเองก็ไม่เคยเห็นของตัวเองมาก่อนเลย
“อื้อ พระยาทำอะไรน่ะขอรับ” ชายหนุ่มหันกลับมาโดยอัตโนมัติพร้อมกับดิ้น
“กูเอานิ้วล้วงดูภายใน” พระยาหมื่นทิศว่าราวกับกำลังพูดคุยเรื่องปกติ
“ต แต่”
“มึงอย่าเถียงหมอ”
“ด เดี๋ยวขอรับ หยุดก่อนขอรับพี่พระยา” เหมือนแก้วดิ้นและพยายามจะหันกลับมา แต่ถูกมืออันแข็งแรงทรงพละกำลังของพระยาหมื่นทิศกดไว้เสียก่อน
ชึ่บๆๆๆๆ
“อึก อึๆๆ อ่ะๆ” นิ้วเรียวยาวหยาบดังชายชาตินักรบชักแทงเข้าๆ ออกๆ ภายในรูน้อยเป็นว่าเล่น เหมือนแก้วร้องครางเสียงประหลาดกับความรู้สึกที่ประหลาดยิ่งกว่าที่กำลังเกิดก่อตัวขึ้นมาจากนิ้วมือนั้นเรื่อยๆ
“รู้สึกเช่นไร” พระยาถามเสียงพร่าพรางแทงนิ้วรัวใส่ไม่หยุดหย่อน
“ป แปลก…ขอรับ” เหมือนแก้วไม่อาจอธิบายได้ว่าความรู้สึกไม่สบายตัวนี้มันคืออะไร แต่ธรรมชาติของร่างกายก็บอกพระยาถึงความรู้สึกไอ้แก้วแล้วทุกอย่าง
องคชาตที่น่ารักของมันแข็งขืน แลกล้ามเนื้อในรูมันก็ตอดถี่
ชึ่บ!!!
“อ่าาาตรงนั้น” เหมือนแก้วครางลั่นเมื่อนิ้วของพระยากดไปโดนจุดจุดหนึ่ง
“ตรงนี้หรือ” พระยาถามพร้อมกดไปยังจุดเดิมอีก
“อ๊าาาาาา” คราวนี้ร่างเล็กถึงกลับสะดุ้งเฮือกให้กับความรู้สึกไม่สบายตัวรุนแรงเมื่อครู่จนร่างกายแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ
“หยุดเถิดขอรับ หยุดเถิด ฉันไม่อยากรักษาแล้ว” เหมือนแก้วร้องขอ
“เงียบเสีย อย่าทำสำออยดังทารกแรกเกิด” พระยาว่าดุทั้งออกแรงกดฝ่ามือบนร่างบางลงไปอีก
ชึ่บๆๆๆๆๆ
“ฉัน…อ่าาา ฉันรู้สึกไม่ดีเลย” เหมือนแก้วอธิบาย
“ไม่นานดอก กูจักสอดยาใส่ก็เสร็จแล้ว” พระยาว่าปลอบ
“งั้นรีบสอดยาเถิดขอรับ ฉันไม่อยากอยู่ในสภาพน่าอายเช่นนี้นานไปกว่านี้แล้ว” เหมือนแก้วว่า
“ให้กูถ่างรูมึงให้กว้างอีกหน่อยเถิด ยามันแท่งใหญ่นัก กลัวจักสอดเข้าไปไม่ได้”
ชึ่บๆๆๆๆ
“อาๆ อื้อออใหญ่มากหรือขอรับ แฮ่กๆๆ”
“มาก!”
“เช่นไรฉันจะอดทนเอา พี่พระยารีบสอดมันเข้ามาเถิด” เหมือนแก้วบอกพร้อมเตรียมตัวเตรียมใจ โดยหารู้ไม่ว่าเป็นการเชิญชวนที่ยั่วยวนสุดๆ
มันก็เหมือนยาขมล่ะหนา รีบกินเสียก็จบ ฉันจักได้พ้นจากสภาพน่าอายนี่เสียที เด็กหนุ่มคิด