จึ่กๆๆๆๆ พระยาพยายามกดหัวเดือยปลายองคชาตย้ำๆ เพื่อแทงผ่านรูเล็ก
“อ๋าาาาา ยาช้างกระมังจึงแท่งใหญ่โตออกปานนี้ ทั้งมันยังร้อนดังจะเผาไหม้ร่างกายฉัน เอามันออกไปนะขอรับ ฉันเจ็บ ฮึก ฮือๆๆๆๆๆ” เหมือนแก้วที่ถูกมือพระยากดร่างไว้พยายามดิ้นหนี
สวบ!!!!!!
“อ้าาาา!!!!!!”
เมื่อแท่งยาของพระยาชำแรกขยายผ่านประตูหลังของเหมือนแก้วเข้าไปได้ ร่างบางก็ร้องลั่นครวญครางราวกับหมูถูกเชือด ดังจนพระยาต้องหาเอาชายผ้ามาให้กัดเก็บเสียง
“ใกล้แล้วพ่อ ทนอีกหน่อยเถิดหนา” พระยาบอกเสียงพร่า ก่อนจะกัดฟันดันแท่งเอ็นที่เหลือเข้าไปจนสุดในคราเดียว
สวบ!!!!!!!!
“อ่าาาาาา/อืมมมมม” ทั้งเหมือนแก้วและพระยาร้องครางลั่นห้องออกมาพร้อมๆ กัน
พรวด!!!!!
ปิ๊ดๆๆๆๆ
ตุบๆๆๆๆ
เป็นที่น่าเหลือเชื่อ ที่เพียงแค่แทงเข้าไปเพียงครั้ง กล้ามเนื้อภายในของเหมือนแก้วก็เค้นรีดน้ำยาของพระยาหมื่นทิศออกจากหลอดยามาจนหมดสิ้น
ความอุ่นร้อนที่ท้องน้อยทำให้เหมือนแก้วรับรู้ได้ เจ้าแท่งยาที่กระตุกสั่นอยู่ที่ช่องทางด้านหลังของเขานั่น ได้ฉีดพ่นยาออกมาจนสิ้นแล้ว
แฮ่กๆๆๆๆๆ
ร่างเล็กหายใจหอบ จบเสียที
“เสร็จแล้วลือขอรับ รีบเอามันออกไปจากฉันเถิด แฮ่กๆๆๆ” เด็กหนุ่มนอนฮอบฟุบร่างราบไปกับเตียง เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้นก็ไม่รู้ คราแรกอึดอัด ต่อมาก็พลันเหมือนสิ่งที่อึดอัดได้แตกพุ่ง แลต่อมาก็รู้สึกโปร่งโล่งสบาย
“ถอนแท่งยาออกเถิดพ่อ ฉันว่าฉันหา…”
สวบ!!!!!!
“อ้าาาาา!!!!”
และทันทีที่พระยาถอนลำเอ็นที่ใหญ่คับรูจนผนังเนื้อแทบปริแตกนั้นออก ร่างกำยำก็ตอกอัดเข้าใส่ในรูน้อยอีกจนเต็มแรง แลชักเข้าชักออกถี่ๆ รัวๆ
ตั้มๆๆๆๆๆๆ
“อ้าาาาาาา หยุดเถิดพ่อ ฮือออออ” เหมือนแก้วร้องขอร่างสั่นไหวโยกไปโยกมา
ตั้มๆๆๆๆๆๆๆ
“พ่อหยุดเถิด ยาเต็มท้องฉันแล้วหนา อ่าาาา” เด็กหนุ่มแทบบ้า ความรู้สึกไม่สบาย คั่นเนื้อครั่นตัวราวกับร่างกายจะแตกดับ เสียดเสียววาบหวามอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนกลับมาก่อกำเนิดขึ้นอีกคราแล้ว ความรู้สึกมันช่างรุนแรง รุนแรงเหลือเกิน
“ปล่อยฉัน หยุด…อื้ออออออ” ยามิชชันนารีนี่มันอย่างไร ทั้งใหญ่แลยาวลึกเข้ามาในตัวฉัน ส่วนเดือยตรงปลายก็ทำฉันทรมานจนแทบสิ้นสติ ฉันกลับไปรักษาด้วยยาหม้อแบบเก่ายังดีกว่า
ตั้มๆๆๆๆๆ
“อ่าาาาาา ไม่เอาแล้วววว พอเถิดพ่อ”
“จักให้กูพอได้เยี่ยงไร กูเพิ่งเริ่ม…”
ตั้ม!!!!!!!
“อ่าาาาา!!!!!!”
เหมือนแก้วหมดสติไปเมื่อใดก็ไม่รู้ แต่ดูท่าหลังให้ยาอาการจะหนักหนากว่าเดิมเสียอีก พระยาหรือก็หายับยั้งใจได้ไม่ ทั้งที่น้องสลบไปแล้ว ยังจับร่างอ่อนปวกเปียกให้นอนหงาย แลเย่อมันอยู่นานจนปล่อยน้ำคาวใส่ในรูสีหวานที่แดงช้ำนั้นจนล้นเต็ม
กดจูบบดขยี้ริมฝีปากอิ่มจนบวมเจ่อ แลดูดปากไปทั่วทั้งร่างเล็กจนผิวขาวขึ้นเห็นเป็นรอยแดง
“กูจักทำเช่นไร อยากได้มึงมาเป็นเมียเหลือเกิน” พระยาว่าพรางลูบไล้ฝ่ามือหยาบแบบชายไล้ไปทั่วร่างเล็กชวนหลงใหล
“งามนัก ทั้งยังเร่าร้อนถึงใจกูนัก จักออกอุบายเช่นไรให้มึงเป็นของกู ชายได้ชาย มิเคยคิดหมายใจเลยว่าจะสุขสมเช่นนี้”
เมื่อคืนพระยาหมื่นทิศทิ้งร้างหญิงงามบนเรือนไปนอนที่เรือนเจ้าพระยา น่าแปลกจนพวกนางเริ่มตั้งข้อสงสัย
“พระยามีเมียใหม่หรือ” นางคนหนึ่งที่ได้ยินข่าวลือมากลายๆ ว่าถามนางเมียผู้อื่น
“ก็นังสาวชาวป่าที่มาขอพึ่งบุญวันนั้นไงล่ะ” อีกคนบอก
“เป็นมันแน่แท้ที่มารยาให้พระยาท่านทิ้งเรือน กูเห็นพระยาพามันขึ้นรถเทียมม้าออกไปกับตา”
“แล้วเหตุใดพระยาไม่ทำมันที่เรือนนี้เสียล่ะ จักไปแอบลักกินเพื่อกาลใด”
“นั่นซี กูก็แปลกใจ”
“แต่กูให้บ่าวไปสอดส่องที่เรือนเจ้าพระยาท่าน ก็ไม่เห็นมีสตรีนางใดอยู่ที่นั่นเลยหนา” อีกนางว่า
“แปลกแท้”
“นั่นสิ แปลกนัก”
“แต่ใครล่ะจะกล้าสอดเรื่องของคุณพระยา”
“เราไปถามพี่ย่งยี่กันเถิด” นางคนหนึ่งออกความเห็น
“กูถามมาแล้ว จักไม่ได้ความอันใด”
“พี่ย่งยี่มีหรือจักไม่รู้ แต่หล่อนแค่ไม่บอก”
“เช่นนั้นก็ไปถามคุณหญิงศรี”
“รายนั้นจะได้ความหรือ”
“เอาเถิด เช่นไรก็ยังยุแยงให้หล่อนไปสอดส่องเรื่องพระยาได้”
ณ เรือนคุณหญิงศรี
“เรื่องส่วนตัวของคุณพี่ ฉันไม่ยุ่งดอก” คุณหญิงศรีว่าด้วยท่าทางปลงๆ
“แต่คุณหญิงเป็นเมียแต่งนะเจ้าคะ หากเป็นอิฉัน อิฉันคงไม่ปล่อยปละผัวเช่นนี้” นางคนที่อาจหาญที่สุดในกลุ่มว่า
“อี่จะไปทำอะไรก็เชิญเถิด ฉันไม่ยุ่งล่ะ” คุณหญิงยังยืนยันคำเดิม
“แต่อิฉันไม่ใช่เมียแต่งนี่เจ้าคะ อิฉันจะหาญกล้าถามท่านหรือเจ้าคะ” นางอี่เริ่มเสียงแข็ง
น่าโมโหนังคุณหญิงไร้ฤทธิ์เดชผู้นี้นัก ไม่ได้ความแม้สักเรื่อง อ่อนแอไร้ค่าเสียทุกทาง
“อี่ไม่กล้าแล้วฉันจะกล้าหรือ” คุณหญิงว่าพรางหยิบมะลิมาร้อยเรียงลงไปในเข็มต่อ
“ก็เป็นเสียเช่นนี้ไงเล่า ผัวถึงไม่เอาไว้ในเรือน” อี่พูดแดกดันทิ้งท้าย ก่อนจะลุกเดินไปด้วยความยโส พร้อมพาหมู่นางเมียคนที่มาด้วยกันออกจากเรือนไปคุณหญิง เดือดร้อนบ่าวของคุณหญิงที่ดูจะทุกข์ร้อนแทนนายไปตามๆ กัน
“คุณหญิงเจ้าขา…” นางรับใช้วัยกลางคนเหมือนจะพูดบางอย่าง แต่คุณหญิงศรีวัยสาว ชิงพูดตัดบทเสียก่อน
“ช่างเถิดแม้น” คุณหญิงปรามและทำเป็นไม่สนใจที่อี่พูด แต่ในใจกลับคิดไปถึงท่านพระยาแลนึกแปลกใจในเรื่องนี้ไม่แพ้กัน
‘มันยังไงกันคะคุณพี่’
“ฮือๆๆๆๆๆ พระยาทำกระไรกับฉัน ฉันเจ็บไปหมด ฮือๆๆๆๆ” เด็กหนุ่มนอนคลุมโปรงร้องไห้งอแง ส่วนพระยาที่นั่งอยู่ข้างๆ แอบวาดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พรางกลั้นขำ
มึงนี่อ่อนเดียงสานัก ยังมิรู้อีกหรือว่าถูกกูทำกระไรไป
“ประเดี๋ยวก็หาย” พระยาหมื่นทิศว่าปลอบ
“ไม่เอาแล้ว ฉันขอกินแค่ยาหม้อเสียยังจะดีกว่า ยาแพทย์มิชชันนารีกระไรฉันไม่เอาแล้ว ฮือๆๆๆๆ” เด็กหนุ่มร้องไห้โฮอย่างไม่นึกอาย เดือดร้อนพระยาต้องคอยเอามือมาลูบหัวปลอบ
“ไหนฉันขอดูทีเถิด ไอ้ยาอัปรีย์นั่นหน้าตามันเป็นเช่นไร” เหมือนแก้วโผล่หน้าออกจากผ้าห่มมามองหาเจ้าแท่งยานั่นไปทั่วห้อง
“ตอนนี้คงไม่ได้ แต่ต่อไปมึงจักได้เห็นมันบ่อยๆ” พระยาหมื่นทิศบอก
“ฉันจะเอาไปทิ้งคุ้งน้ำเสียให้หมด”
“ฮ่าๆๆๆ เช่นนั้นคงน่าเสียดายแย่ ยาแพงนักพ่อ”
“ฉันไม่สนใจ อย่ามาหัวล่อฉัน พระยาออกไปเลยขอรับ” เหมือนแก้วนึกอยากจะด่าพระยาว่าจังไรเหมือนกันทั้งหมอรักษาทั้งยาอัปรีย์
“มึงบอกให้ไป กูต้องไปรึ” พระยาว่าย้อนแต่ไม่ได้ดูดุ
“อย่างนั้นฉันไปเองก็ได้” เหมือนแก้วพยายามจะลุกด้วยหมายประชด แต่พระยาแค่วางมือลงที่อกแบนเบาๆ ร่างบางก็เป็นอันล้มกลับมานอนดังเดิมแล้ว
“กูออกไปก็ได้ มึงรีบอาบน้ำอาบท่าเสีย ตะวันกำลังจะตรงหัว จักได้ไปกินข้าวกินปลาเพลาเที่ยงแล้ว”
“ฮื้อ” เหมือนแก้วทำหน้าหงิกหน้างอแต่ก็มิสู้จะเถียงสิ่งใดออกไปได้
พระยาหมื่นทิศมองท่าทางกระเง้ากระงอดนั่นอย่างยั้งใจไม่ให้กระโจนเข้าทำสวาทกับมันอีกหน
คราหน้าคราหลัง กูจักออกอุบายเริงกามเยี่ยงไรกับมึงดี พระยาหมื่นทิศคิดใคร่ครวญ
ปล• ฉันจักติดเหรียญตอนเก่าเมื่อลงตอนใหม่หนา(หาค่าเทอมขอรับ) หากไม่อยากพลาด มาให้ทันเพลาหนาพ่อ