“ทำไปแล้วหรือเจ้าคะ” ย่งยี่ถามพระยาอย่างหวาดๆเพราะไม่แน่ใจว่าควรถามหรือไม่ พรางค่อยๆ รินน้ำเมาลงในจอกที่ว่างเปล่าของพระยา
ก็มันเป็นเรื่องวิปลาสแท้หากชายกับชายจักเล่นสวาทกัน
“เออ” พระยาหมื่นทิศยอมรับพร้อมกับยกจองใส่น้ำจันทร์กระดกดื่มราวเดียวหมด นางโคมเขียวเก่าถึงกลับทำหน้าบอกไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะสมควรพูดการใดต่อไปดี ถึงพระยาจะปฏิบัติกับตนราวเป็นเพื่อนรู้จิตรู้ใจ จะพูดจะทำกระไรไม่เคยเคืองขุ่น แต่ย่งยี่ก็สำนึกในบุญคุณที่พระยาช่วยซื้อออกมาจากหอโคมเขียว แลให้มีชีวิตที่สุขสบายเช่นนี้
แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น นางย่งยี่จึงคันปากอดถามเสียไม่ได้
“ป เป็นเช่นไรหรือเจ้าคะ”
พระยาหมื่นทิศยกจอกน้ำจันทร์ขึ้นดื่มอีกคราก่อนว่า
“ดี”
“ดี?”
“เออ ดีมากเสียจนกูเองก็จักประหลาดใจ”
“ดีปานใดหนา”
“ดีไปหมด” พระยาบอกอย่างยากจะอธิบายได้สักเสี้ยวความรู้สึกจริง
“งั้นหรือเจ้าคะ อิฉันก็เคยได้ยินเรื่องที่พวกบุรุษเพศถูกซื้อไปบริการเหล่าขันทีมาบ้าง ชายพวกนั้นคุยโวว่า…ดีนัก”ย่งยี่ว่าสนับสนุนเพื่อเอาใจตามนิสัยนางบริการ
พระยาหมื่นทิศไม่ตอบและร่ำน้ำจันทร์ต่อ
ในคราแรกที่เขารู้ว่าหญิงงามตรงหน้านี้เป็นชาย พระยาหมื่นทิศรู้สึกบอกไม่ถูกเลยเช่นกัน แต่กระนั้น เรือนกายและใบหน้าแสนงามตรงหน้าช่างเย้ายวน รุนแรงยิ่งกว่าถูกยาปลุกกำหนัดใดเสียอีก
พระยาสนองตัณหากับชายร่างบางผู้นั้นราวกับล่วงรู้โดยธรรมชาติว่าควรปฏิบัติต่อร่างนั้นอย่างไร
“แล้ว…” ย่งยี่อยากถามต่อ แต่หล่อนต้องหยุดปากเพราะไม่รู้จะสรรหาคำพูดที่น่าฟังคำใดมาถามได้
“มึงอยากรู้ว่ากูทำสวาทเช่นไรกับมัน” พระยาว่ารู้ทัน
“เจ้าค่ะ” หล่อนบอกยอมรับไม่คิดปิดบัง
“หึ ก็มันมีรูเหมือนกันนี่หนา”
“รู…ตรงนั้น?”
“งดงาม หรือมึงจักเถียง”
“ไม่เถียงเจ้าค่ะ งามจริงๆ แถม…คนอะไร ผมดกดำแต่ขนส่วนอื่นไม่มีราวกับเด็ก”
“ฮ่าๆๆๆ คิดเช่นกู มันน่าเอ็นดูนัก” พระยาว่าด้วยท่าทางที่ดูจะผ่อนคลายขึ้น
“ถูกใจ…จักเลี้ยงไว้หรือเจ้าคะ”
“เออ แต่กูจักสอบประวัติมันเสียหน่อย แลจักให้มันแต่งกายเยี่ยงหญิง หากจักอยากอยู่ในเรือนนี้ร่วมกับกู”
“เจ้าค่ะ” ย่งยี่ไม่คิดแซวสิ่งใดต่อ หล่อนรู้ดีว่า พระยามากความต้องการเพียงใด ให้ชายแต่งเป็นหญิงงั้นหรือ แต่คงไม่มีปัญหาอันใด ก็นังคนมาใหม่งามเกินหน้าสตรีสวยพอได้อยู่ แลทำเช่นนี้ก็เพื่อไว้หน้าตนเองต่อสังคม มากเมียยังพออวด แต่หากได้บุรุษเป็นเมียนี่ ชื่อเสียงแลจะกลายเป็นชื่อเสีย เสียมากกว่า
“แล้วพระท่านทำทั้งที่เขาเป็นลมอยู่อย่างนั้นหรือเจ้าคะ”
“เออ”
“ร้ายกาจจริงเชียว”
“อะ!!”
เหมือนแก้วเผลอร้องออกมาเมื่อชายหนุ่มหย่อนก้นลงนั่งแล้วรู้สึกเจ็บแปลบจากช่วงล่างไปจนถ้วนทั่วสรรพางค์กาย
“จงบอกอีกที มึงเป็นผู้ใด มาจากไหน?” พระยาหมื่นทิศกลืนน้ำลายลงคอพร้อมเค้นถามไปอีกรอบ
“ฉันชื่อเหมือนแก้วจ๊ะ เป็นลูกพระยาไกรสิงห์ แห่งเมืองจันทบูรณ์” เหมือนแก้วบอกความแก่พระยาหมื่นทิศอีกรอบ
พระยาหมื่นทิศได้ฟังแล้วต้องกลืนน้ำลายลงคออีกหนแลไม่รู้จักพูดกระไรต่อ
“ฉัน เอ่อ…คงมีคนแจ้งท่านเจ้าพระยาเผด็จไว้แล้ว” เหมือนแก้วว่าอย่างไม่แน่ใจ
“ใช่ ท่านพ่อแจ้งความนี้แก่กูก่อนเดินทางไปจันทบูรณ์” พระยาว่า
“ไปจันทบูรณ์!?”
“แต่พ่ออย่าห่วง ท่านเจ้าพระยาเผด็จได้ฝากฝังให้ท่านพระยาดูแลพ่อแล้ว” ย่งยี่ว่าปลอบ
“ฉันขอบน้ำใจขอรับ โอ๊ย!” เหมือนแก้วสะดุ้งขึ้น เมื่อการยกมือไหว้ก็แลจะสร้างปัญหาไปถึงช่วงตะโพกของเขาให้เจ็บแปลบขึ้นมาอีก
พระยาหมื่นทิศและนางย่งยี่มองชายร่างบางตรงหน้าแล้วเงียบอย่างมีพิรุธ พรางหันมองสบตากันเลิ่กลั่กแลมีลับลมคมใน
“สงสัยฉันจักได้รับบาดเจ็บจากการขี่ม้าเป็นเวลานานน่ะขอรับ” เหมือนแก้วสันนิษฐาน
แต่คนรู้เหตุก็มิยอมแก้ความให้กระจ่าง ทั้งยังทำเหมือนทองไม่รู้ร้อน จัดแจงต้อนรับดังมีแขกเหรื่อมาเยือนต่อไปตามปกติ
ต่อให้อยู่ในเขตขอบรั่วเดียวกัน แต่ด้วยพื้นที่ที่กว้างขวาง ทำให้จะไปมาระหว่างเรือน พวกเจ้านายจึงจักใช้รถเทียมม้าแทนการทอดน่องเดินเตร่ และเป็นการดีต่อเหมือนแก้วในเพลานี้ ที่แค่ต้องทนแรงกระแทกบนรถเทียมม้าชั่วอึดใจ ดีกว่าได้เดินแบกสังขารมาถึงเรือนเจ้าพระยาเอง
“ห้องหับของมึง ท่านพ่อจัดหาไว้ให้พร้อมข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นจนครบท้วนทั่ว” พระยาว่าพรางเดินนำเหมือนแก้วไปยังห้องที่เจ้าพระยาได้บอกไว้
ห้องนอนนั่นเป็นห้องที่ใหญ่โตทีเดียว ทั้งข้าวของเครื่องเรือนแลทรัพย์สมบัติส่วนตัวก็มาก ดูท่าเจ้าตัวคงจักมาอาศัยอยู่ด้วยเป็นการถาวร
“ขอบน้ำใจท่านพระยาหมื่นทิศอีกครั้งนะขอรับ” เหมือนแก้วยกมือขึ้นไหว้เมื่อมาถึงที่หมายแล้วเพื่อเป็นการตัดบทลา
ก็ฉันอยากพักเต็มที ตื่นมาก็เจ็บระบบไปหมด รอยแดงเป็นจ้ำๆ อย่างกับถูกแมลงกัดต่อย ทั้งหิวทั้งง่วง จนไม่รู้ว่าควรกินหรือนอนก่อนดี
“มิเป็นไรดอก มันเป็นหน้าที่กู” พระยาว่าแต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะกล่าวลา
“เอ่อ อีกเรื่องขอรับ คือ กระผมมีคนติดตามมาด้วย1คน แต่มีเหตุให้ต้องแยกจากกัน หากมีใครมาถามหา…”
“กูจักบอกข้าทาสไว้” พระยาหมื่นทิศบอก
“ขอบน้ำใจอีกครั้งขอรับพระคุณพระยา”
“มึงมีศักดิ์เป็นน้อง จักเรียกอย่างกันเองก็ได้” พระยาว่าอย่างไม่ถือตัว เช่นไรมันก็เป็นถึงลูกพระยาที่มีศักดิ์เทียมกู
“ขอรับ พี่พระยา” เหมือนแก้วบอกพรางส่งยิ้มหวานให้
ณ เรือนพระยาหมื่นทิศ หลังจากแยกจากเหมือนแก้ว พระยาก็กลับมาที่เรือนแลเหมือนคิดการใดอยู่ในหัวตลอดเพลา
“คุณพระยาเจ้าคะ” ย่งยี่เรียกเสียงเบา
“มีกระไร”
“เลือกฝั่งเรือนเจ้าค่ะ ได้เวลาเลือกฝั่งเรือนสำหรับคืนนี้”
“……” พระยานิ่งเงียบไปครู่ วันนี้มันช่างปั่นป่วนจิตชอบกล พระยาวัยหนุ่มรู้สึกร้อนรุ่มจนอยู่ไม่สุข
“พระยาเจ้าขา” ย่งยี่เรียกอีกครา
“ไม่ ไม่ต้อง”
“คืออันใดเจ้าคะ?”
“กูจักไม่ต้องการ” พระยาหมื่นทิศตอบแลท่าทางไม่ต้องการให้มีใครกวนใจไปมากกว่านี้แล้ว
“เจ้าค่ะ” ย่งยี่จึงโค้งให้อย่างเข้าอกเข้าใจ ใช่ซี พระยาคงมีเรื่องให้คิดให้ทุกข์นัก ได้กับชายยังไม่พอ นี่มีศักดิ์เป็นน้องเป็นนุ่งเสียด้วย พระยาท่านคงสับสนน่าดู
“ประเดี๋ยวย่งยี่” พระยาเรียกไว้ก่อนที่ย่งยี่จะกลับออกไปบอกข่าวแก่บรรดานางน้อยใหญ่ที่เฝ้ารอฟัง
“เจ้าคะ?"
“กู…อยากไปหามัน”
“หมายถึงท่านเหมือนแก้วหรือเจ้าคะ”
“ใช่”
“อยากทำสวาทกับท่านอีกหรือเจ้าคะ”
“ไม่ กูแค่อยากไปดูมัน” พระยาว่า
“ก็ดีเจ้าค่ะ เจ้าพระยาฝากฝังไว้ให้ดูแลนี่เจ้าคะ” ย่งยี่ว่าสนับสนุน
“อือ ไปบอกคนให้ตระเตรียมรถม้า กูจักไปเรือนโน้น”
ทรงด้านเหมือนแก้วก็ได้แต่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงนุ่มเพราะนอนไม่หลับ
ทำไมถึงเจ็บก้นเจ็บตะโพกมากมายเช่นนี้หนา เจ็บจนนอนไม่หลับเลย ทั้งแปลกถิ่นแปลกที่ คิดถึงท่านพ่อ แลห่วงพี่แสนก็อีก เด็กหนุ่มทุกข์หนักจนเกิดอาการเวียนหัวขึ้นมาเสียดื้อๆ
ก๊อกๆๆๆ
“ผู้ใด” เหมือนแก้วเอ่ยถามออกไปเมื่อได้ยินเสียเคาะประตู
“มึงหลับแล้วหรือไม่” เสียงพระยาถามกลับมา ทำให้เหมือนแก้วรู้สึกประหลาดใจอยู่มิใช่น้อย
“ย ยังขอรับ” เหมือนแก้วรีบยันตัวลุกขึ้น
“งั้นกูจักเข้าไปหนา”
“ขอรับ” ทันทีที่เหมือนแก้วเอ่ยคำอนุญาต พระยาหมื่นทิศก็เปิดประตูเข้ามาในทันที
“มีกระไรหรือขอรับ พี่พระมาเสียดึกดื่น”
“เห็นมึงไม่สบาย กูจึงมาดูแลจักเอายามาให้” พระยาว่าพร้อมวางเครื่องยาไว้ที่โต๊ะข้างเตียง
“ดึกดื่นเหตุใดยังไม่นอน มึงป่วยอยู่มิใช่หรือ หรือปวดเจ็บจนนอนไม่ได้” พระยาหมื่นทิศเอ่ยถาม
“แปลกที่ขอรับ ทั้งคิดหลายอย่าง เจ็บป่วยด้วยก็ประการหนึ่ง แต่ไม่ถึงกลับรุนแรงมากมายนักหนา ฉันกินยาหม้อที่คนของเจ้าพระยาหาให้แล้วด้วยจ้ะ” เหมือนแก้วตอบด้วยรู้สึกเกรงอกเกรงใจหนักหนา
“งั้นหรือ กูมียาดีมาให้ อันนี้ยาแพทย์สมัยใหม่ ฤทธิ์มันชะงักนัก” พระยาพูดไปคลี่ห่อผ้าไปแลเลือกหยิบยาเม็ดเล็กสีขาวบ้างดำบ้างในแต่ละห่อออกมา หากเป็นคนของเรือนนี้คงไม่แปลกใจนักที่จะได้เห็นอะไรแปลกใหม่จากเมืองไกล แต่กับเหมือนแก้ว ทุกสิ่งอย่างในเรือนช่างดูแปลกตาน่าสงสัย
“กระไรหรือขอรับ”
“ยาแพทย์ของพวกมิชชันนารี ระงับอาการโรคได้ชะงักนัก” พระยาว่าย้ำสรรพคุณ พรางยืนใส่มือให้ “มึงกลืนยาได้ใช่หรือไม่”
“ได้ขอรับ” เหมือนแก้วรับมาและกินลงไปอย่างง่ายดาย พระยามองตามกิริยาทุกการขยับของคนตรงหน้า จ้องมองไม่กะพริบตาจนเหมือนแก้วเกิดความแปลกใจขึ้น
“มีกระไรหรือขอรับ”
พระยาจ้องมองไปถ้วนทั่วทุกอณูส่วนของอีกฝ่ายจนเหมือนแก้วอดรู้สึกขนลุกขนพองสายตาพระยาหมื่นทิศไม่ได้
“เหตุใดเจ้าจึงแต่งกายด้วยชุดนั้น” พระยาหมื่นทิศถามขึ้นมาในที่สุด
“ฉันปลอมตัวอยู่ขอรับ”
“?”
“เรื่องมันยาวขอรับ หากพี่พระยาไม่ว่ากระไร เพลานี้…” เหมือนแก้วอยากตัดบทขอใช้เวลาส่วนตัว
“งั้นมึงพักผ่อนเถิด รุ่งขึ้นอาการคงดีขึ้น” พระยาหมื่นทิศว่าพร้อมลุกขึ้นจากขอบเตียงพรางแอบลอบถอนใจยาว
นี่กูหวังสิ่งอันใด จักหมายมานอนเคียงมันหรือ กูนี้หมกมุ่นในกิจกามจนชักจะผิดแผกเพศสภาพเข้าไปเสียทุกวัน