3

1608 Words
“ไม่รู้สิ คิดเอาเอง” “อย่าทะเลาะกันเลยนะ เป็นเพื่อนกันแท้ๆ อีกอย่างวันนี้เรามาฉลอง เรียนจบนะ ไม่ได้มาทะเลาะกัน” พิมวดีออกโรงห้ามเพื่อนสนิททั้งสองคน “ก็ไอ้คุณชายมันกวนบาทาก่อนนี่” พูดจบก็กระดกดื่มเหล้าด้วยความ โมโห “แกต่างหากที่กวน” วัชริศไม่ยอมแพ้ สวนกลับไปทันที “ถ้าไม่เลิกทะเลาะกัน ครีมจะกลับบ้านนะ ทะเลาะกันตั้งแต่ปีหนึ่งยัน ปีสุดท้าย ไม่เบื่อบ้างหรือไง” วัชริศกับกอแก้วเป็นทั้งเพื่อนสนิทและคู่กัด วันไหนไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงกันคงจะนอนไม่หลับ “เลิกทะเลาะกันก็ได้ เห็นแก่ครีมหรอกนะ เอ้า! ชนแก้ว” วัชริศพูด จบก็ยื่นแก้วไปข้างหน้า พิมวดีกับกอแก้วจึงยื่นแก้วไปชนกับแก้วของ เพื่อนชายจนเกิดเสียง ‘เคล้ง’ เบาๆ “ครีมจะไปกระบี่เมื่อไหร่ล่ะ” “ไปพรุ่งนี้ตอนบ่ายๆ จ้ะ” “แก้วอยากไปกับครีมบ้างจังเลย อยากเห็นหน้าคุณชายของพี่พิมตัว เป็นๆ จัง คงหล่อกว่าในภาพเนอะ” กอแก้วกับวัชริศรู้เรื่องที่พิมวดีจะไป ดินเนอร์ กับเดวิส แคนดี้ แทนพิมพิชชาที่ได้รับสิทธิ์นั้น “จะหล่ออะไรมากมาย ก็หล่อเท่ากับภาพถ่ายที่เราเห็นๆ กัน นั่นแหละ” วัชริศขัดขึ้น “อิจฉาคุณชายล่ะสิที่ได้ดินเนอร์กับครีม” กอแก้วตอกกลับเพื่อนชายจนอีกฝ่ายพูดไม่ออก “ใคร ใครอิจฉา อย่างฉันน่ะหรือจะอิจฉาคุณชายอะไรนั่น ไม่มีทาง” คนที่พูดกระดกแก้วสุราดื่มรวดเดียวหมดแก้ว จะว่าไปเขาก็อิจฉาเดวิสไม่น้อยที่ได้ดินเนอร์กับพิมวดี ผู้หญิงที่เขาแอบหลงรักมาตั้งแต่ปีหนึ่ง แต่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้เพราะไม่อยากให้คำว่าเพื่อนสนิทยุติลง “เชอะ ให้มันจริงเถอะ แกอ้าปากฉันก็เห็นลิ้นไก่แล้ว” กอแก้วโต้กลับ “เอาอีกแล้ว ทะเลาะกันอีกแล้ว” “ไม่ทะเลาะก็ได้ ว่าแต่เรื่องไปเรียนต่อที่อังกฤษ ครีมจะเอายังไง บอกพี่พิมหรือยัง” วัชริศตั้งใจว่า ถ้าหากพิมวดีไปเรียนต่อที่อังกฤษ เขาจะตามไปเรียน ต่อที่นั่นด้วย ได้ใกล้ชิด ได้ดูแลพิมวดีไปในตัว ปล่อยให้หญิงสาวไปอยู่ ต่างบ้านต่างเมืองคนเดียวเขาเป็นห่วง “ครีมจะสละทุนที่สอบได้ เพราะพี่ต้นจะเป็นคนส่งครีมเรียนเอง พี่ ต้นบอกว่าจะให้ครีมไปอยู่เซฟเฮาส์ของพี่ต้นในลอนดอนน่ะ ปลอดภัยและ สะดวก” “โห! เยี่ยมไปเลย อยากมีพี่เขยรวยๆ แบบครีมบ้างจัง เสียดายไม่มี พี่สาว มีแต่พี่ชายที่มีเมียเป็นพนักงานห้างฯ” “แล้วครีมเรียนที่มหา’ ลัยอะไรล่ะ ชายจะได้ตามไปเรียนด้วยได้ถูก” “ไม่รู้เหมือนกัน พี่ต้นบอกว่าจะหาที่เรียนให้ เห็นพี่ต้นบอกว่าเป็น มหา’ ลัยที่ดีที่สุดในลอนดอน” พิมวดีตอบตามคำพูดของติณณพัฒน์พี่เขย “ถ้ารู้ชื่อที่เรียนแล้ว อย่าลืมบอกชายนะ” พูดจบก็กระดกดื่มน้ำเมา หมดแล้ว “นี่ ไอ้คุณชาย แกกินให้มันน้อยๆ หน่อยได้มั้ย เดี๋ยวก็เมาหัวทิ่ม ฉันไม่แบกแกไปส่งบ้านนะ” กอแก้วออกโรงเตือนเพื่อนเมื่อเห็นวัชริศดื่ม สุราราวกับเป็นน้ำ “ฉันเตรียมพร้อมไว้แล้ว ถ้าฉันเมาแกพาฉันไปส่งที่ห้อง 4709 ด้วย นะ ฉันจองเผื่อเมาขับรถกลับบ้านไม่ได้ ทำตามที่เขาบอกไง เมาไม่ขับ” วัช ริศล้วงหยิบคีย์การ์ดห้องที่เขาจองไว้ให้กอแก้ว แล้วจึงกระดกดื่มสุราที่เพิ่ง รินผสมใหม่จนหมดแก้วเหมือนเดิม “ไอ้คุณชายนี่รอบคอบจริงๆ แสดงว่าแกเตรียมตัวเมาเต็มที่เลยใช่ มั้ย” “ใช่ ไปเต้นกันดีกว่า ครีม แก้ว แล้วค่อยมาดริงค์กันต่อ ไปเร็ว” วัชริศฉุดแขนเพื่อนสนิททั้งสองให้ออกไปยังฟลอร์ที่มีเพื่อนทั้งชาย และหญิงวาดลวดลายเท้าไฟกันอย่างสนุกสนาน ระหว่างที่ทั้งสามเต้นรำอยู่ นั้น เพื่อนชายและเพื่อนหญิงยื่นแก้วน้ำดื่มมึนเมาให้วัชริศตลอดเวลา ซึ่ง เจ้าภาพก็เต็มใจรับแก้วเหล้าของเพื่อนทุกคนมาดื่มจนหมด พอเริ่มตึงๆ ได้ที่ก็เดินขึ้นไปบนเวที สั่งให้นักดนตรีหยุดเล่น ทำให้เพื่อนๆ ที่กำลัง เต้นรำอยู่หยุดตามไปด้วย เขาชูแก้วเหล้าขึ้นสูงเหนือศีรษะ จดจ่อปากตรง ไมโครโฟน “เพื่อนๆ ทั้งหลาย โปรดฟังคุณชายสุดหล่อสักนิดนะครับ วันนี้เรา มาฉลองความสำเร็จกัน เพราะฉะนั้น ไม่เมาไม่เลิก ถ้าใครเมาคุณชายจอง ห้องพักไว้ให้แล้วขึ้นไปนอนได้เลย เมาอย่าขับนะครับพี่น้อง เอ้า...ดื่ม” เพื่อนชายและหญิงต่างโห่ร้องตามวัชริศที่กำลังกระดกดื่มน้ำสีอำพัน ที่อยู่ในแก้วจนเกลี้ยง จากนั้นก็เดินลงมาบนเวที มาสมทบกับเพื่อนสาวอีก สองคนที่เต้นรำตามจังหวะเพลงที่เริ่มต้นขึ้นใหม่ “ไอ้คุณชาย พอแล้ว จะกินอะไรนักหนาวะ เดี๋ยวตับแข็งก็ถามหา หรอก” กอแก้วเตือนเพื่อนอีกครั้ง หลังจากที่มองเพื่อนชายรับแก้วเหล้า จากเพื่อนคนอื่นๆ ไม่หยุด “ม่ายเมา แค่นี้คุณชายไม่เมาหรอก เอิ๊ก” เสียงอ้อแอ้ของวัชริศพูดโต้ กลับมา เรอเป็นการส่งท้าย “เนี่ยนะไม่เมา จะเหมือนหมาเข้าไปทุกทีแล้ว” “ม่ายเมา ม่ายเมา ดูสิยังกินได้อีกหลายแก้ว” วัชริศกระดกดื่มแก้วที่บรรจุแอลกอฮอล์ที่ไม่ผสมโซดาและน้ำแข็งไป จนหมดแก้ว ทำตาหยีเมื่อได้ลิ้มรสความเฝื่อนของสุราที่บาดคอเหลือหลาย “แก้ว พาชายไปนั่งที่โต๊ะเถอะ ท่าทางจะเมาแล้วนะ” พิมวดีเอ่ยบอกเพื่อนสาว ก่อนที่ทั้งสองจะลากคนที่บอกว่าไม่เมา กลับไปนั่งบนโต๊ะตามเดิม พอพาวัชริศมาที่โต๊ะได้เพียงห้านาทีก็ฟุบหน้าลง กับโต๊ะหลับสนิทไปทันที “ดูมันนะครีม ปากก็บอกว่าไม่เมา ดูสิเมาเหมือนหมาไม่มีผิด” “เราสองคนช่วยกันแบกชายไปบนห้องดีกว่านะ จะได้นอนหลับ สบายๆ” พิมวดีออกความคิดเห็น “ครีมจะกลับหรือยังล่ะ กลับไปก่อนก็ได้นะ ทางนี้เดี๋ยวแก้วจัดการ เอง ขับรถกลับบ้านดึกๆ มันอันตราย” กอแก้วก้มมองดูนาฬิกาของตัวเอง ก็พบว่าเวลานี้เกือบสี่ทุ่มแล้ว หากเพื่อนสาวขับรถกลับบ้านดึกกว่านี้จะอันตราย จึงบอกให้เพื่อนสาวกลับ บ้านไปก่อน “แก้วไหวเหรอ ตัวเล็กนิดเดียวจะแบกร่างตึกของชายไปได้ยังไงคน เดียว” “ไม่ต้องห่วง เพื่อนๆ ก็ยังไม่กลับกันนี่ วานให้ใครช่วยแบกชายไปที่ ห้องก็ได้ ไม่ต้องห่วงหรอก ครีมกลับบ้านเถอะนะ แก้วไปส่งชายที่ห้องก็จะ กลับบ้านเลยเหมือนกัน” “เอาอย่างนั้นก็ได้ พรุ่งนี้เจอกันที่มหา’ ลัยนะ” “จ้ะ เจอกันที่มหา’ ลัย” พิมวดีเดินออกไปจากห้องจัดเลี้ยงทันทีที่พูด จบ ระหว่างทางที่เดินออกไปเธอได้ทักทายกับเพื่อนที่มาร่วมงานไปตลอด ทาง “ไม่เมา ไม่เมานิดเดียวสิไม่ว่า” กอแก้วพูดกับคนที่หลับสนิทบนโต๊ะ ก่อนจะเดินไปยังกลุ่มเพื่อนชาย กลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ขอแรงให้ประคองร่างของวัชริศไปส่งที่ห้องพัก ซึ่ง เพื่อนชายกลุ่มนั้นให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี “โต นุ พาไปที่ห้องนอนเลย” กอแก้วเอ่ยบอกสุชาติกับเสรี เพื่อนที่แบกวัชริศมาส่งที่ห้องพักสุดหรู ชายหนุ่มทั้งสองจึงพยุงร่างของคนที่หมดสติไปยังห้องนอนที่แยกออกเป็น สัดส่วน ตามคำบอกของเพื่อนสาว “ขอบใจมากนะเพื่อน” “ไม่เป็นไร แต่ตัวไอ้ชายโคตรหนักเลย” เสรีบ่น “ก็ตัวมันโตอย่างกับควายจะไม่หนักได้ยังไง” สุชาติบ่นเพิ่มอีกคน วัชริศเป็นผู้ชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่ มีความสูงเกิน มาตรฐานชายไทยถึงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร แถมยังเป็น นักกีฬาบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย ร่างกายจึงบึกบึน แข็งแกร่งกว่าสุ ชาติและเสรีมาก “ฉันไปก่อนนะแก้ว ดูแลไอ้ยักษ์ด้วยล่ะ” เพื่อนทั้งสองขอตัวกลับไปสนุกกับเพื่อนๆ ต่อในห้องจัดเลี้ยง ปล่อย ให้กอแก้วดูแลวัชริศคนเดียว มือนุ่มถอดรองเท้าของคนที่เมาออก ตาม ด้วยถุงเท้า จากนั้นก็เดินไปยังห้องน้ำ หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาทำให้เปียก พอหมาด เดินกลับมาหาร่างที่หลับสนิทอีกครั้ง “ถ้าแกไม่ใช่เพื่อนฉัน ฉันไม่ทำให้แกหรอกนะ ไอ้คุณชาย” พูดพลางใช้ผ้าขนหนูเช็ดไปตามใบหน้าของเพื่อน ต่อด้วยลำคอ ดวงตาคมสวยมองเห็นคราบแอลกอฮอล์ที่เปรอะเปื้อนตามเสื้อผ้า ด้วย ความหวังดีจึงถอดเสื้อของเขาออก เดินไปยังห้องน้ำอีกครั้ง ทำให้ ผ้าขนหนูหมาดด้วยน้ำใหม่ แล้วเดินกลับมาที่เตียงเช็ดลำตัวท่อนบนบึกบึน ของเพื่อนสนิท คนที่เมาเริ่มมีสติขึ้นมา เมื่อถูกความเย็นจากผ้าขนหนูและความเย็น จากเครื่องปรับอากาศสัมผัสกับผิวกาย เปลือกตาค่อยๆ เปิดออกกว้าง จน มองเห็นภาพใบหน้าของคนที่กำลังเช็ดตัวให้เขาอยู่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD