“วันนี้ครีมหนีผมไม่พ้นหรอก เกลียดผมมากไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมร่างกายของครีมมันถึงต้องการผมล่ะ ดูสิ สู้มือไปทุกส่วนเลย”
เขาพูดพร้อมส่งรอยยิ้มร้ายกาจแกมถากถางให้กับเธอ บีบเคล้นทรวงอกที่เด้งรับน้ำหนักอย่างหนักมือ ดีดดึงปลายถันที่ชูช่อสวย จนเธอบิดเร่าร่างด้วยความกระสันซ่าน
พิมวดีรู้สึกเสียใจกับคำพูดและการกระทำของเขามาก จะโทษเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก จริงอย่างที่นายแบบหนุ่มพูด ปากก็บอกว่าไม่ แต่ทว่าร่างกายและอารมณ์กลับไม่ได้เกลียดเขาตามที่พูดออกไป
“ครีมเกลียดคุณ เกลียดที่สุดในโลก”
พิมวดีอยากจะตะโกนบอกเขาว่า รักเขาที่สุดในโลก แต่ทว่าความเสียใจ ความผิดหวังในตัวของคนรักทำให้เธอพูดประโยคนี้ออกมาอีก ทั้งมือยังผลักดันร่างใหญ่ ทุบตีไม่หยุด ร่างกายก็ขยับดิ้นไปมาเพื่อให้ตัวเองได้ค้นพบกับอิสรภาพ
คำพูดของหญิงสาวเสมือนน้ำมันที่ราดรดบนกองเพลิง ให้ไฟกองเล็กกลายเป็นไฟลูกมหึมา แล้วมันก็พร้อมจะเผาผลาญร่างสาวให้มอดไหม้เป็น เถ้าถ่าน ภาพของความสนิทสนมระหว่าง ธนเดชกับพิมวดีที่ชายหนุ่มเห็น มันติดตา บาดหัวใจเขามากมายเหลือเกิน มากจนความหึงหวงเข้ามาสู่หัวใจหนุ่มอีกรอบ
“ผมไม่สนว่าครีมจะเกลียดผมหรือเปล่า ผมสนแต่เพียงว่าครีมต้องเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น”
“อย่าทำครีมเลยนะคะ ครีมขอร้อง”
เธอพูดทั้งน้ำตา เว้าวอนเสียงเครือสั่น ถ้อยคำของคนที่เธอรักทำให้หญิงสาวตกใจถึงขีดสุด ยิ่งเขาจับกระโปรงถลกขึ้นสูงแล้วจับเรียวขาสาวแยกออก ทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว แรงน้อยนิดของเธอไม่อาจต้านทานพายุอารมณ์ของเขาได้